ในช่วงนี้คงไม่มีใครอยากออกจากบ้าน เพราะโควิดกำลังระบาดอย่างหนัก คุณแม่บางคนอาจจะกลัวน้อง ๆ เบื่อที่ต้องอยู่แต่บ้าน งั้นวันนี้เรามาดู 8 กิจกรรม ที่คุณแม่และน้อง ๆ ทำร่วมกันได้ช่วงในโควิดนี้กัน จะมีกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจบ้าง มาดูกันเลย
กิจกรรมทำช่วงโควิด ทำแล้วสนุกและได้ความรู้
กิจกรรมที่คุณแม่ทำร่วมกับลูก ๆ ได้ที่บ้าน โดยไม่ต้องออกไปไหนไกล ๆ แถมยังช่วยกระชับความสัมพันธ์กับเจ้าตัวเล็กได้ดีอีก มีดังต่อไปนี้
1. ออกกำลังกายง่าย ๆ เพื่อช่วยผ่อนคลายความเครียด
เด็ก ๆ หลายคนอยู่บ้านนาน ๆ ก็คงเบื่อและเครียดกัน หากคุณแม่ชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว ให้ลองชวนลูก ๆ มาออกกำลังกายด้วยกันได้ ซึ่งกิจกรรมออกกำลังกายที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องลงทุน และไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ คือการเล่นโยคะ หากคุณแม่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะมีคลิปสอนเล่นโยคะบนอินเทอร์เน็ตมากมายให้คุณแม่ได้เลือกดู แถมบางเว็บก็ยังมีคอร์สออนไลน์ให้ได้เรียนกันฟรี ๆ อีกด้วย จะดูคลิปก่อนแล้วค่อยเอามาสอนน้อง ๆ หรือจะเปิดดูตอนที่เล่นโยคะไปด้วยเลยก็ได้
2. ชวนลูกต่อเลโก้ เพื่อลับสมองและฝึกสมาธิ
นอกจากเลโก้จะเป็นของเล่นที่ทำให้เด็กสนุกและเพลิดเพลินแล้ว ก็ยังช่วยเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ ในเรื่องกล้ามเนื้อ ระบบประสาท และสมองได้อีกด้วย รวมทั้งยังทำให้เด็กจดจ่อและมีสมาธิเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในขณะที่เล่นต่อเลโก้ เด็กจะต้องคิดและคาดคะเนว่าจะต้องต่อเลโก้ออกมายังไงให้สำเร็จ ดังนั้น หากอยากให้น้อง ๆ ได้ฝึกสมองไปด้วยล่ะก็ การต่อเลโก้ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจที่คุณแม่ชวนน้อง ๆ ทำได้ในช่วงนี้
3. เดินสำรวจธรรมชาติรอบ ๆ บ้าน
หากเด็ก ๆ งอแงอยากออกไปนอกบ้านในสถานการณ์แบบนี้ อีกวิธีที่ทำได้คือการพาเด็ก ๆ ออกไปสำรวจรอบ ๆ บ้านแทน หรือจะลองเลือกสถานที่ใกล้บ้าน ที่มีคนน้อย เพื่อพาเด็ก ๆ ไปเดินเล่นคลายเครียดได้ หากระหว่างทางบังเอิญเจอใคร ก็ให้อยู่ห่างจากคนนั้น ๆ อย่างน้อย 1-2 เมตร และอย่าลืมสวมหน้ากากทุกครั้งที่ต้องออกไปนอกบ้าน ซึ่งช่วงเวลาที่คนพลุกพล่านน้อยที่สุด และเหมาะสำหรับการเดินเล่น คือช่วงหลังเวลารับประทานอาหารเช้า และช่วงพลบค่ำ
4. ดูหนังกระชับความสัมพันธ์
อีกกิจกรรมที่ทำได้ไม่เบื่อเลย แถมยังทำให้คนในบ้านได้ใช้เวลาร่วมกัน ก็คือการดูหนังหน้าทีวีเครื่องโปรดนั่นเอง หากเด็ก ๆ คิดถึงโรงหนัง อยากกินป๊อบคอร์น หรือชอบดูหนังอยู่แล้ว กิจกรรมนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีมาก ๆ โดยคุณแม่สามารถหาซื้อป๊อบคอร์นมานั่งทานกับครอบครัว เพื่อให้ได้บรรยากาศเหมือนว่ากำลังนั่งดูหนังอยู่ที่โรงหนัง หรือจะทำป๊อบคอร์นกินเองก็ได้ เพื่อเป็นการประหยัดเงินไปในตัว ส่วนหนังหรือการ์ตูนที่เหมาะสำหรับเด็กก็มีมากมาย เช่น แฮรรี่พ็อตเตอร์ เรื่องลับแก๊งขนฟู แมงมุมเพื่อนรัก เดอะเลโก้มูฟวี่ โมอานา ผจญภัยตำนานหมู่เกาะทะเลใต้ เป็นต้น
การดูหนังร่วมกัน ก็เป็นอีกหนึ่งใน กิจกรรม ช่วงโควิด ที่ทำกันได้ทั้งบ้าน (ภาพโดย tirachardz จาก freepik.com)
5. ชวนทำอาหารง่าย ๆ
กิจกรรมทำอาหาร เป็นกิจกรรมที่ทำให้คุณแม่ได้สนิทกับลูก ๆ มากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยปลูกฝังเด็ก ๆ เกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และสารอาหารที่ควรรับประทาน รวมทั้งสอนให้เด็กรู้จักช่วยเหลือตัวเองมากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณแม่สามารถหาสูตรอาหารสำหรับเด็ก ๆ ที่ทำง่าย ๆ ได้ตามอินเทอร์เน็ตหรือยูทูป และในขณะที่ทำอาหารอยู่ คุณแม่ควรดูแลไม่ให้เด็กเข้าใกล้อุปกรณ์ที่อาจทำให้เด็กเป็นแผลหรือเกิดอุบัติเหตุ เช่น กระทะ เตาอบ มีดหรือของมีคม เป็นต้น
6. สร้างสนามเด็กเล่นจำลอง
หากเด็ก ๆ ชอบไปสนามเด็กเล่น แต่คุณแม่ก็ไม่อยากให้เด็กไปไหนไกล ๆ ในช่วงนี้ แนะนำให้ทำสนามเด็กเล่นจำลองที่สวนหลังบ้านให้เด็ก โดยอาจจะใช้อุปกรณ์ง่าย ๆ ไม่แพง หรืออุปกรณ์ที่หาได้จากที่บ้านอย่างเก้าอี้ ห่วงฮูล่าฮูป สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก หรือตะกร้าซักผ้า เพื่อทำเป็นด่านต่าง ๆ ให้เด็กเล่น แต่ถ้าหากอยากลงทุน หรือทำสนามเด็กเล่นไว้ให้เด็กเลยแบบระยะยาว ก็อาจจะซื้อเครื่องเล่นที่ราคาไม่แพงไว้ที่บ้าน หรือจะสร้างสระว่ายน้ำง่าย ๆ ให้เด็ก ๆ เล่นในช่วงที่อากาศร้อนด้วยเลยก็ได้
7. เล่านิทานให้เด็ก ๆ ฟังเพื่อสร้างจินตนาการ
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย การอ่านนิทานให้เด็ก ๆ ฟัง ก็ยังดูเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ยังทำกันได้อยู่ แทนที่จะให้เด็ก ๆ ใช้เวลาอยู่กับทีวีหรือโทรศัพท์วันละหลาย ๆ ชั่วโมง ลองชวนเด็ก ๆ มานั่งฟังนิทานดี ๆ กันดีกว่า การอ่านนิทานไม่เพียงแค่ให้ความสนุกสนานและเพลิดเพลินกับเด็ก ๆ เพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เด็ก ๆ มีนิสัยรักการอ่านเพิ่มมากขึ้น หากที่บ้านไม่มีหนังสือ คุณแม่สามารถหานิทานออนไลน์ตามอินเทอร์เน็ตอ่านได้
8. สอนให้ลูกใช้โปรแกรมที่จำเป็น
ตอนนี้ทักษะโปรแกรมซอฟต์แวร์เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวัยทำงาน หากคุณแม่อยากเตรียมพร้อมน้อง ๆ ให้มีทักษะเหล่านี้ การเริ่มต้นสอนให้เขาใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ตั้งแต่ยังเด็กถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะช่วยให้เขาใช้โปรแกรมเป็นตั้งแต่เนิ่น ๆ แถมยังมีประโยชน์กับตัวเด็กเมื่อเด็กต้องเข้าโรงเรียนอีกด้วย ซึ่งโปรแกรมที่จำเป็นสำหรับยุคนี้ก็มีมากมายทั้งโปรแกรมไมโครซอฟต์ โปรแกรมเขียนโค้ดง่าย ๆ หรือโปรแกรมแต่งรูปและตัดต่อวิดีโอ หากคุณแม่ไม่ถนัดในเรื่องพวกนี้ สามารถเปิดคอร์สออนไลน์ตามกูเกิ้ลหรือยูทูปสอนลูก ๆ ไปด้วยก็ได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : กิจกรรมฮา ๆ ที่บ้าน คลายเครียด ให้เหมือนได้เที่ยวช่วงโควิด
แม้จะออกจากบ้านน้อยลง ก็ยังคงต้องหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ (ภาพโดย ivabalk จาก pixabay.com)
วิธีปฏิบัติตัวให้ห่างไกลจากโควิด
แม้ช่วงนี้คุณแม่และน้อง ๆ จะออกจากบ้านกันน้อยลง แต่ก็ยังคงต้องดูแลรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ ซึ่งวิธีดูแลตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดโควิด มีดังนี้
- เมื่อต้องการไอหรือจาม ให้ใช้กระดาษทิชชู่ปิดปากแทนการใช้มือ หากไม่มีกระดาษทิชชู่ ก็ให้จามใส่ข้อศอกแทน
- หากเผลอใช้มือปิดปากตอนที่จาม ให้รีบลุกไปล้างมือให้สะอาด ไม่ควรเช็ดมือด้วยเสื้อที่กำลังสวมใส่เด็ดขาด
- หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำเปล่าและสบู่อย่างน้อย 20 วินาที และใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างทำความสะอาดมือเป็นประจำ
- หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ
- หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับคนในบ้าน เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว หรือเสื้อผ้า เป็นต้น
- ไม่สัมผัสหู จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น เพราะมือเราอาจมีเชื้อโรคติดอยู่
- หากสังเกตว่าคนในบ้านมีอาการป่วยหรือไม่สบาย ให้อยู่ให้ห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร และหมั่นสังเกตอาการผู้ป่วย หากผู้ป่วยมีท่าทีไม่ดี หรือเสี่ยงที่จะเป็นโควิด ควรขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที
- งดรับแขกที่บ้าน หากต้องคุยกันจริง ๆ ให้คุยกันผ่านช่องทางออนไลน์แทน
- ไม่ออกนอกบ้านโดยที่ไม่จำเป็น หากต้องการซื้อของ ควรสั่งของจากทางออนไลน์แทน
- ไม่สัมผัสสัตว์ที่ป่วยหรือสัตว์ที่ตายโดยเด็ดขาด
บทความที่เกี่ยวข้อง :
ช่วงโควิดคุณแม่ควรดูแลตัวเองอย่างไร วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ห่างไกลจากภัยร้าย
9 กิจกรรมน่าทำตอนปิดเทอม กิจกรรมครอบครัวแก้เบื่อช่วงโควิด-19
เที่ยวช่วงโควิด กับ 11 วิธี เที่ยวปลอดภัยไม่ต้องออกจากบ้าน
ที่มา : kiplinger , parentsone , thaihealth
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!