X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

5 โรคติดต่อควรเฝ้าระวังในปี 2559

บทความ 3 นาที
5 โรคติดต่อควรเฝ้าระวังในปี 2559

คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมคะว่าเด็ก ๆ ป่วยเป็นโรคอะไรกันบ่อยที่สุด? และโรคติดต่อควรเฝ้าระวังในปี 2559 มีอะไรบ้าง

ข้อมูลล่าสุดจากกรมควบคุมโรคซึ่งได้วิเคราะห์สถานการณ์โรคในระบบเฝ้าระวังต่างๆ ที่ผ่านมา เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของการเกิดโรคและนำมาพยากรณ์โรคติดต่อเพื่อเฝ้าระวังโรคติดต่อที่สำคัญในปี 2559 คาดว่ามี 5 โรคติดต่อที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ โรคไข้เลือดออก อหิวาตกโรค โรคไข้หวัดใหญ่ โรคมือเท้าปาก และโรคไข้กาฬหลังแอ่น เรามาทำความรู้จักกับทั้ง 5 โรคติดต่อที่ต้องจับตานี้ เพื่อสังเกตอาการและป้องกันโรคอย่างถูกต้องในเด็ก ๆ กันนะคะ

1. โรคไข้เลือดออก

โรคนี้มีกระแสแรงมาก ในปี 2558 เชื่อว่าทุกคนต้องเคยได้ยินชื่อโรคนี้อย่างแน่นอน ไข้เลือดออกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสชื่อว่าเดงกี่ มียุงลายเป็นพาหะนำโรค เด็กจะมีอาการมีไข้สูง ปวดศีรษะเวลามีไข้และมีเลือดออกตามอวัยวะต่าง ๆ เช่นจุดเลือดออก เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ นอกจากนั้นอาจมีอาการร่วมอื่นๆ คือ คลื่นไส้ อาเจียน บางรายอาจมีอาการรุนแรงจนช็อค หมดสติได้

โรคนี้ระบาดมากช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค.ซึ่งเป็นฤดูฝน

เราสามารถป้องกันการติดเชื้อไข้เลือดออกได้ด้วยการป้องกันไม่ให้ยุงกัดและการกำจัดยุงลายค่ะ

2. อหิวาตกโรค

เป็นโรคท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มีชื่อว่า Vibrio cholera ที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหารและน้ำดื่ม ผู้ป่วยจะมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง อุจจาระมักจะไหลพุ่ง โดยไม่มีอาการปวดท้อง ลักษณะอุจจาระเหมือนน้ำซาวข้าว ในรายที่เป็นรุนแรงจะมีอาการขาดน้ำและเกลือแร่อย่างรุนแรงจนช็อกได้

การป้องกันอหิวาตกโรคทำได้โดยรักษาสุขอนามัยการขับถ่าย ล้างมือให้สะอาด ทานอาหารที่สะอาดปรุงสุกร้อน ดื่มแต่น้ำที่สะอาดนะคะ

3. โรคไข้หวัดใหญ่

เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่พบระบาดเยอะในปีที่ผ่านมา เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายจากทางเดินหายใจ ทางน้ำมูก น้ำลายหรือเสมหะของผู้ป่วย หรือไปจับสิ่งของที่ปนเปื้อนน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย อาการของไข้หวัดใหญ่มักเริ่มจากมีไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดตามตัว อ่อนเพลีย คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ และอาจมีอาการของระบบร่างกายอื่น ๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ร่วมด้วยได้

การป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ทำได้โดยการฉีดวัคซีนที่ สอนให้ลูกล้างมือให้สะอาด ไม่เอามือไปแคะจมูกหรือเอามือเข้าปาก ไม่คลุกคลีกับเพื่อนที่ป่วยค่ะ

4. โรคมือเท้าปาก

Advertisement

โรคนี้พบระบาดตามโรงเรียนอยู่เป็นระยะ ๆ ค่ะ เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่ม เอนเทอโรไวรัส อาการของเด็กมักมีไข้ต่ำๆ มีผื่นเป็นจุดแดงหรือตุ่มน้ำใสที่บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า ซึ่งเห็นได้ชัด อาจมีผื่นที่รอบก้น อวัยวะเพศ ลำตัว และแขน ขา ได้ เจ็บปาก น้ำลายไหล มีแผลที่กระพุ้งแก้มและเพดานปาก หากเป็นการติดเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 อาจมีอาการรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้

การป้องกันโรคมือเท้าปากทำได้โดยการสอนเด็กให้รู้จักล้างมือ ทำความสะอาด ดูแลสุขอนามัยทั่วไป ไม่พาเด็กไปที่ ๆ มีคนเยอะ อากาศไม่ถ่ายเท เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ในช่วงที่มีการระบาดนะคะ

5. โรคไข้กาฬหลังแอ่น

โรคไข้กาฬหลังแอ่นนี้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชื่อ Neisseria meningitides ทำให้เกิดอาการไข้ มีผื่นขึ้น รูปร่างคล้ายดาวกระจาย ลักษณะเป็นจ้ำเลือดเหมือนฟกช้ำบริเวณลำตัวส่วนล่าง ขา เท้า และบริเวณที่มีแรงกดบ่อยๆ เช่น ขอบกางเกง ขอบถุงเท้า ปวดศีรษะรุนแรง อาเจียน คอแข็ง อาจสับสน หรือไม่ค่อยรู้สึกตัวได้ ถ้ามีอาการรุนแรงจะช็อก เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว สามารถติดต่อได้ง่ายทางการหายใจ ไอจามรดกัน หรือสัมผัสน้ำลายผู้ป่วย

การป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น ก็คือการไม่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และหากได้ไปใกล้ชิดกับผู้ป่วยโดยไม่รู้ตัว ต้องรีบไปพบคุณหมอเพื่อรับยาปฏิชีวนะที่ใช้ป้องกันการติดเชื้อทันทีค่ะ

 

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

บทความจากพันธมิตร
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
โรคภูมิแพ้ในเด็ก ป้องกันได้ตั้งแต่แรกเกิด ด้วยนมแม่ที่มีคุณสมบัติเป็น H.A. (Hypoallergenic)
โรคภูมิแพ้ในเด็ก ป้องกันได้ตั้งแต่แรกเกิด ด้วยนมแม่ที่มีคุณสมบัติเป็น H.A. (Hypoallergenic)
พ่อแม่ต้องรู้! วิธีป้องกัน RSV ในเด็ก ช่วยลูกไม่ป่วยหนัก
พ่อแม่ต้องรู้! วิธีป้องกัน RSV ในเด็ก ช่วยลูกไม่ป่วยหนัก

เมื่อลูกไม่สบายจะพาไปฉีดวัคซีนดีไหม?

หลอดลมฝอยอักเสบจากไวรัส RSV สาเหตุสำคัญของอาการหอบในเด็กเล็ก

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

รศ. พญ. รวีรัตน์ สิชฌรังษี

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • 5 โรคติดต่อควรเฝ้าระวังในปี 2559
แชร์ :
  • หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

    หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

  • ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

    ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

  • เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

    เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

  • หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

    หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

  • ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

    ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

  • เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

    เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว