TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

อาหารกลุ่มเสี่ยง ลูกเราจะแพ้ไหม ควรเริ่มให้ลูกทานอายุเท่าไหร่ดี

บทความ 3 นาที
อาหารกลุ่มเสี่ยง ลูกเราจะแพ้ไหม ควรเริ่มให้ลูกทานอายุเท่าไหร่ดี

อาหารกลุ่มเสี่ยง จำพวกแป้งสาลี ไข่ ถั่วเหลือง และนม ควรให้ลูกทานอาหารกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่อายุ 4 เดือน หรือหลัง 6 เดือน แบบไหนดีกว่ากัน

อาหารกลุ่มเสี่ยง ควรเริ่มให้ลูกทานอายุกี่เดือนดี?

อาหารกลุ่มเสี่ยง ต่อการแพ้อาหาร คุณพ่อคุณแม่มือใหม่คงกังวลว่าลูกจะแพ้ และคงสับสนว่าจะให้ลูกเราทานอาหารในกลุ่มเสี่ยงจำพวกแป้งสาลี ไข่ ถั่วเหลือง และนมได้เมื่อไหร่ เพราะบางคนบอกว่าทานได้เลย บางคนบอกว่าอย่าเพิ่งดีกว่า ตกลงแล้วมันยังไงกันแน่ คุณหมอจากสมาคมโรคภูมิแพ้แห่งประเทศไทยมีคำตอบมาฝากค่ะ

 

ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการแพ้อาหารในเด็กก่อนค่ะ การแพ้อาหาร คือ ผลต่อสุขภาพ ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งเกิดเนื่องจากการตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่เฉพาะเจาะจง และจะเกิดซ้ำได้เหมือนเดิมเมื่อรับประทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง ซึ่งอาการแพ้อาหารที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่น้อย ปานกลาง จนถึงรุนแรง ซึ่งมีผลถึงตายได้ ทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลกันมาก และพยายามหาวิธีป้องกันไม่ให้ลูกเป็นภูมิแพ้ ซึ่งจากข้อมูลที่เผยแพร่ทั้งหมดคุณหมอได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

กลุ่มแรก

  • บอกให้ลูกทานนมแม่อย่างเดียวจนอายุถึง 6 เดือน
  • โดยเลี่ยงอาหารที่เสี่ยงต่อการแพ้ และงดไปจนถึง 2 ขวบ

กลุ่มที่สอง

  • บอกให้ลูกทานในกลุ่มเสี่ยงเลยทันที
  • โดยเริ่มให้ทานตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป

จะเห็นได้ว่าทั้งสองกลุ่มแตกต่างกันสิ้นเชิง คุณแม่หลายคนก็งงว่าตกลงแล้วฉันต้องทำยังไงดีล่ะ ควรให้ลูกกินเลยไหมหรือว่ารอไปก่อน แล้วตัวแม่ก็เป็นคนขี้แพ้อีก ลูกเราจะเป็นไหมน่ะ อันดับแรกคุณแม่ต้องเช็คก่อนว่าลูกน้อยอยู่ในกลุ่มไหนจะได้เลี้ยงลูกตามกลุ่มนั้น

อาหารกลุ่มเสี่ยง

อาหารกลุ่มเสี่ยง

ลูกเราอยู่ในกลุ่มเด็กขี้แพ้ไหมน่ะ?

คุณหมอของทางสมาคมภูมิแพ้ได้แนะนำวิธีการเลี้ยงลูกสำหรับเด็กเล็กที่มีความเสี่ยงต่อการแพ้อาหาร ที่ได้รวบรวมจากหลักฐานทางงานวิจัย โดยจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1: เด็กสุขภาพดี และครอบครัวไม่มีประวัติภูมิแพ้

ใครอยู่ในกลุ่มนี้ พ่อแม่สบายใจได้เลยจ้าเพราะคุณหมอบอกว่าทานได้ทุกอย่าง โดยเริ่มจากทานอาหารตามวัยหลังจากน้องอายุ 6 เดือนเป็นต้นไป และสามารถดื่มนมแม่ต่อเนื่องได้ไปจนถึงอายุ 2 ขวบด้วยน่ะ

กลุ่มที่ 2: เด็กสุขภาพดี และครอบครัวมีประวัติภูมิแพ้

สำหรับคนท้องที่เป็นภูมิแพ้หรือมีคนในครอบครัวมีประวัติภูมิแพ้ ต้องระมัดระวังเรื่องอาหารการกินของลูก ซึ่งคุณหมอแนะว่าให้เริ่มกินอาหาารในกลุ่มเสี่ยงได้ตั้งแต่อายุ 4-6 ปีได้

กลุ่มที่ 3: เด็กมีผื่นรุนแรง และครอบครัวมีประวัติภูมิแพ้

น้องๆ ที่อยู่ในกลุ่มนี้ พ่อแม่ควรเข้ารับการปรึกษาจากกุมารแพทย์ทางโรคภูมิแพ้ก่อน เพื่อวางแผนการเริ่มและตัดสินใจให้ทานอาหารในกลุ่มเสี่ยงค่ะ จะได้ไม่ได้มาคาดเดาและลองผิดลองถูกเอง

อาหารกลุ่มเสี่ยงเด็กแพ้อาหาร

อาหารกลุ่มเสี่ยงเด็กแพ้อาหาร

วิธีให้ลูกเริ่มทานอาหารในกลุ่มเสี่ยง

  • กินนมแม่อย่างน้อย 4-6 เดือน
  • เริ่มให้ลูกได้ทานอาหารเสริมตั้งแต่อายุ 4-6 เดือน โดยเริ่มจากข้าว ผัก ผลไม้ แะเนื้อสัตว์ก่อน แต่ต้องเลือกที่เหมาะสมกับอายุของน้องด้วย
  • เริ่มให้อาหารใหม่ทีละชนิดทุก 3- 5 วัน
  • แนะนำให้คุณแม่หรือให้ผู้ปกครองทำอาหารเองจะดีกว่า
  • สำหรับอาหารพวกไข่ ถั่ว นม และขนมปัง ควรเริ่มให้หลังอายุได้ 4-6 เดือน รวมถึงสามารถให้อาหารเสริมอื่นๆ ได้ หากลูกน้อยไม่มีอาการแพ้ หากมีอาการผิดปกติ เช่น ผื่นขึ้น อาเจียน ถ่ายเป็นมูกเลือดควรหยุดกินและปรึกษากุมารแพทย์ภูมิแพ้ต่อไป
  • ในช่วงขวบปีแรก ควรเลี่ยงอาหารพวก whole cow’s milk เนื่องจากมีผลต่อการทำงานของไต และธาตุเหล็กต่ำ และพวกถั่วที่เป็นเมล็ด เพราะอาจทำให้ลูกน้อยสำลักอาหารเข้าไปติดหลอดลมได้
  • อาหารงดอาหารทะเล ยกเว้นปลา และควรให้ลูกได้เริ่มทานหลังอายุครบ 1 ปี เป็นต้นไป

 

ที่มา: สมาคมโรคภูมิแพ้แห่งประเทศไทย

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

บทความจากพันธมิตร
Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ  ยุงเล็ก เสี่ยงใหญ่ ทำไมเด็กเล็กต้องระวังเป็นพิเศษ
Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ ยุงเล็ก เสี่ยงใหญ่ ทำไมเด็กเล็กต้องระวังเป็นพิเศษ
เจาะลึก การเสริมภูมิคุ้มกัน RSV ในหญิงตั้งครรภ์ ส่งผ่านภูมิคุ้มกันให้ทารกแรกเกิดได้อย่างไร
เจาะลึก การเสริมภูมิคุ้มกัน RSV ในหญิงตั้งครรภ์ ส่งผ่านภูมิคุ้มกันให้ทารกแรกเกิดได้อย่างไร
สร้างเกราะป้องกัน เตรียมพร้อมปกป้องลูกจากไวรัสอาร์เอสวี ในฤดูฝน
สร้างเกราะป้องกัน เตรียมพร้อมปกป้องลูกจากไวรัสอาร์เอสวี ในฤดูฝน
Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ ลูกปลอดภัย ไกลยุงร้าย ง่ายนิดเดียว
Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ ลูกปลอดภัย ไกลยุงร้าย ง่ายนิดเดียว

นมผงทารก นมผงดัดแปลง เลือกสูตรไหน แม่จะรู้ได้ยังไงว่าลูกแพ้นมผง

ลูกนอนกรนเพราะภูมิแพ้ แก้ง่ายๆ ถ้ารู้สาเหตุว่าลูกแพ้อะไร

ทราบได้อย่างไรว่าลูกแพ้อาหารผ่านนมแม่ ทารกเป็นผื่น ถ่ายมีมูกเลือด คือแพ้ใช่ไหม

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Khunsiri

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • อาหารกลุ่มเสี่ยง ลูกเราจะแพ้ไหม ควรเริ่มให้ลูกทานอายุเท่าไหร่ดี
แชร์ :
  • ข่าวดี! วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก ทางเลือกใหม่ ประสิทธิภาพสูง ลูกไม่ต้องเจ็บตัว

    ข่าวดี! วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก ทางเลือกใหม่ ประสิทธิภาพสูง ลูกไม่ต้องเจ็บตัว

  • วิธีแก้ลูกหายใจครืดคราด: สาเหตุ อาการ สัญญาณอันตราย และสิ่งที่พ่อแม่ควรรู้

    วิธีแก้ลูกหายใจครืดคราด: สาเหตุ อาการ สัญญาณอันตราย และสิ่งที่พ่อแม่ควรรู้

  • แม่แชร์ "อุทาหรณ์ลูกเป็นหวัด" แต่กลับต้องผ่าตัดที่เท้า!

    แม่แชร์ "อุทาหรณ์ลูกเป็นหวัด" แต่กลับต้องผ่าตัดที่เท้า!

  • ข่าวดี! วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก ทางเลือกใหม่ ประสิทธิภาพสูง ลูกไม่ต้องเจ็บตัว

    ข่าวดี! วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก ทางเลือกใหม่ ประสิทธิภาพสูง ลูกไม่ต้องเจ็บตัว

  • วิธีแก้ลูกหายใจครืดคราด: สาเหตุ อาการ สัญญาณอันตราย และสิ่งที่พ่อแม่ควรรู้

    วิธีแก้ลูกหายใจครืดคราด: สาเหตุ อาการ สัญญาณอันตราย และสิ่งที่พ่อแม่ควรรู้

  • แม่แชร์ "อุทาหรณ์ลูกเป็นหวัด" แต่กลับต้องผ่าตัดที่เท้า!

    แม่แชร์ "อุทาหรณ์ลูกเป็นหวัด" แต่กลับต้องผ่าตัดที่เท้า!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว