หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่มักเห็นลูกแบกกระเป๋าหนัก ๆ ไปเรียน แต่ก็อาจมองข้ามไป คิดว่าลูกทนไหว แต่รู้ไหมคะว่าการที่ลูกแบกกระเป๋าหนัก ๆ ไปโรงเรียน ก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ หากปล่อยไว้นาน ๆ ก็อาจทำให้ลูกเกิดอาการปวดหลัง ปวดไหล่ และปวดศีรษะตามมา วันนี้เราจะพามาดู วิธีเลือกกระเป๋าเป้ให้ลูก ที่ถูกต้องว่าควรเป็นอย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันค่ะ
สัญญาณเมื่อลูกแบกกระเป๋าหนักเกินไป
การที่เด็กเริ่มมีอาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่ และปวดศีรษะ อาจเป็นสัญญาณที่ลูกแบกกระเป๋าหนักเกินไปได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรหมั่นสังเกตเป็นประจำว่าลูกสะพายกระเป๋าหนักเกินไปหรือเปล่า หากลูกมีอาการดังกล่าว ควรพาเขาไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ ก็อาจทำให้น้ำหนักของกระเป๋าไปกดทับกระดูกสันหลังของเด็กได้ และอาจทำให้เกิดปัญหาหมอนรองกระดูกตามมา ส่งผลเสียต่อร่างกายและสุขภาพของเด็กในอนาคต ผลคืออาจทำให้ลูกเดินหรือนั่งแบบปกติไม่ได้ ดังนั้นอย่าลืมหมั่นตรวจสอบกระเป๋าเป้ของลูกนะคะ
กระเป๋าหนักเกินไป ส่งผลต่อลูกอย่างไร
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าการที่ลูกเริ่มมีอาการปวดหลัง ปวดไหล่ แสดงว่าอาจเป็นสัญญาณที่ลูกสะพายกระเป๋าหนักเกินไป ซึ่งการที่กระเป๋าสะพายหนักเกินไป หรือกระจายน้ำหนักไม่ค่อยดี ก็จะทำให้กระดูกสันหลังและเท้าของลูกไม่สมดุล หากเกิดขึ้นบ่อย ๆ ทุกวัน ก็ส่งผลต่อกล้ามเนื้อหลัง ท้อง บ่า และสะโพกได้ โดยผลเสียที่เกิดจากการสะพายกระเป๋าหนักเกินไป มีดังนี้
- ปวดคอ ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดบ่า ปวดเรื้อรัง
- กระดูกสันหลังคดหรือโค้งงอผิดปกติ
- เสี่ยงเตี้ยในระยะยาว
- เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
- เสียบุคลิกภาพในอนาคต
บทความที่เกี่ยวข้อง : อันตราย เมื่อลูก สะพายกระเป๋าหนักเกินไป ปัญหาที่เกิดจากกระเป๋าของลูกรัก
วิธีเลือกกระเป๋าเป้ให้ลูก
โดยปกติแล้ว น้ำหนักของกระเป๋าเด็กที่ถูกต้อง คือ ไม่ควรเกินร้อยละ 10-20 ของน้ำหนักตัว เช่น ลูกมีน้ำหนักตัว 20 กิโลกรัม ก็ควรแบกกระเป๋าไม่เกิน 2-4 กิโลกรัมเท่านั้น คราวนี้เรามาดูวิธีเลือกกระเป๋าให้ลูกกันดีกว่า ว่าควรเลือกอย่างไรให้เหมาะสม และช่วยผ่อนแรงเมื่อลูกต้องแบกกระเป๋าหนัก ๆ
1. เลือกกระเป๋าที่สะพายหลัง
หลาย ๆ บ้านอาจให้ลูกใช้กระเป๋าผ้าหรือกระเป๋าถือไปโรงเรียน จริง ๆ แล้วควรเลือกกระเป๋าสะพายให้ลูกใช้ เพราะกระเป๋าสะพายนั้น มีสายสองข้างที่ช่วยกระจายน้ำหนักได้ดี ทำให้น้ำหนักมีความสมดุล และช่วยให้สะโพกรับน้ำหนักได้ดีด้วย นอกจากนี้ การใช้กระเป๋าสะพายหลังควรปรับสายไม่ให้ห้อยต่ำ ก้นกระเป๋าต้องไม่อยู่ต่ำกว่าบั้นเอว และต้องให้ลูกเดินตัวตรง ไม่เอนตัวไปข้างหน้า หรือทำหลังค่อมค่ะ
2. เลือกวัสดุที่มีคุณภาพ
เมื่อเลือกกระเป๋าเป้ที่ถูกใจแล้ว อย่าลืมเลือกกระเป๋าที่ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพด้วยนะคะ โดยจะต้องผลิตจากวัสดุที่ดี เลือกผ้าที่มีคุณภาพจะดีกว่ากระเป๋าที่เป็นหนังค่ะ เพราะจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักกระเป๋าและดูแลยากนั่นเอง นอกจากนี้ อย่าลืมตรวจสอบการตัดเย็บของกระเป๋าด้วยนะคะ เพราะหากไม่มีคุณภาพ พอใช้ไปนาน ๆ ก็จะทำให้กระเป๋าขาดได้
3. สังเกตสายกระเป๋า
นอกจากการพิจารณาวัสดุของกระเป๋าแล้ว อย่าลืมสังเกตสายกระเป๋าด้วยนะคะ โดยคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกสายกระเป๋าที่ไม่เล็กจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการกดทับและส่งผลให้ลูกปวดหลัง ปวดคอง่าย ๆ ทางที่ควรเลือกสายกระเป๋าที่นุ่มและมีขนาดกว้างมากกว่า 6 เซนติเมตรขึ้นไปก็จะดี นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรเลือกสายกระเป๋าที่ยาวจนเกินไปนะคะ โดยจะต้องไม่ให้ห้อยต่ำกว่าเอวลูก ก็จะช่วยในเรื่องการกระจายน้ำหนักได้ดี
บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กไทยแบกกระเป๋านักเรียนหนักเกินตัว อันตราย! ร่างกายบาดเจ็บ มีผลต่อการเรียนรู้
4. ดูความหนาของกระเป๋า
อีกหนึ่งวิธีในการเลือกกระเป๋าเป้ให้ลูก ควรดูความหนาของกระเป๋าด้วยค่ะ โดยควรเลือกความหนาตามการใช้งาน หากเป็นกระเป๋าผ้าก็ควรจะเลือกให้หนาหน่อย ก็จะสามารถรับน้ำหนักได้ดีขึ้น หากคุณพ่อคุณแม่เลือกความหนาของกระเป๋าบางจนเกินไป ก็อาจทำให้ลูกต้องแบกกระเป๋าหนัก ๆ ไปเรียน จนทำให้ปวดหลัง อีกทั้งยังเสี่ยงทำให้กระเป๋าขาดได้ง่ายขึ้นด้วย
5. มีความทนทาน
หากตรวจสอบวัสดุของกระเป๋าแล้ว ให้ดูว่ากระเป๋าใบนั้นมีความทนทานด้วยหรือไม่นะคะ เพราะกระเป๋าบางใบภายนอกอาจดูสวยงาม ผลิตจากผ้าคุณภาพดี แต่พอใช้ไปนาน ๆ ก็อาจเสื่อมสภาพได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาด้วยว่ากระเป๋าใบนั้นมีความแข็งแรง ทนทานหรือเปล่า เพราะบางครั้งหากลูกใส่อุปกรณ์การเรียนที่มีความคมหรือหนักก็อาจทำให้กระเป๋าฉีกขาดนั่นเอง
6. ทำความสะอาดง่าย
เวลาเลือกซื้อกระเป๋าให้ลูก คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมดูด้วยนะคะว่าทำความสะอาดง่ายหรือเปล่า เพราะบางครั้งเวลาเราเลือกซื้อกระเป๋าสีสันสวยงามให้ลูก แต่ก็อาจทำความสะอาดได้ยากและเปื้อนง่าย เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือกซื้อกระเป๋าที่ทำความสะอาดง่าย หากเป็นกระเป๋าเป้ที่ผลิตจากผ้าก็จะทำให้ซักได้แห้งไวขึ้น อีกทั้งยังสามารถระบายอากาศได้ดีด้วยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : รวมเคล็ดลับ ดูแลกระเป๋าเดินทาง อย่างไร ให้สวยเหมือนใหม่ ใช้งานได้นาน!
7. อย่าลืมจัดกระเป๋าให้ถูกวิธี
เมื่อได้กระเป๋าที่ถูกใจ แข็งแรง ทนทาน และทำความสะอาดได้ง่ายแล้ว คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมสอนลูกให้จัดกระเป๋าถูกวิธีด้วยนะคะ โดยต้องจัดกระเป๋าให้สามารถกระจายน้ำหนักได้ง่าย ซึ่งเคล็ดลับง่าย ๆ ในการจัดกระเป๋าเพียงแค่เลือกใส่ของที่มีน้ำหนักมากไว้ด้านในชิดกับแผ่นหลัง และเลือกใส่ของที่เบากว่าไว้ด้านนอกไล่ออกมา เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเซฟน้ำหนักกระเป๋าของลูกได้แล้วค่ะ
เห็นไหมคะว่า วิธีเลือกกระเป๋าเป้ให้ลูก นั้นไม่ยากอย่างที่คิด เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรสังเกตคุณภาพของกระเป๋าทุกครั้งก่อนซื้อ ว่ามีความแข็งแรง ทนทาน และมีความหนาที่เหมาะสมหรือไม่ นอกจากนี้ ก็อย่าลืมสอนให้ลูกจัดกระเป๋าให้ถูกวิธีด้วยนะคะ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ลูกสามารถแบกกระเป๋าไปเรียนได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้บุคลิกภาพของลูกดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แนะนำ! 10 กระเป๋านักเรียน สำหรับเด็ก ต้อนรับช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้
7 กระเป๋านักเรียน กระเป๋าเป้ กระเป๋าสะพาย สำหรับเด็กที่อยากแนะนำ
กระเป๋าแม่ลูกอ่อน เรื่องเบา ๆ ของคุณแม่ ของอะไรบ้างที่แม่ขาดไม่ได้
ที่มา : rakluke, sriphat, babybilly, happymom
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!