การได้นั่งเฝ้ามองพัฒนาการเจริญเติบโตของลูกน้อยในทุก ๆ วัน จัดว่าเป็นความสุขส่วนหนึ่งของพ่อแม่เลยก็ได้ว่า ไม่ว่าจะมองมุมไหนของลูกก็ดูจิ้มลิ้มน่ารักไปหมด ปากนิด จมูกหน่อย ขนตางอนยาว ที่ค่อย ๆ เห็นพัฒนาขึ้นจากเมื่อแรกเกิดที่ยังไม่ค่อยกล้าจะทำอะไรกับลูกมากนัก วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ทารกหน้าเปลี่ยน มาฝาก จะมีส่วนไหนของลูกน้อยที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปบ้าง ไปดูกันเลย
มีส่วนไหนที่ทำให้ ทารกหน้าเปลี่ยน ไปบ้าง?
1. หน้าตา
ทารกแต่ละคนจะมีลักษณะโดดเด่นบางอย่างบนใบหน้าแตกต่างกัน ซึ่งประกอบไปด้วย ศีรษะขนาดใหญ่เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของร่างกาย มีใบหน้าแบน หน้าผากกว้างเป็นโหนกนูนออกมา จมูกแบนเหมือนกระดุมเม็ดเล็ก ๆ ดวงตาอยู่ในแนวระดับที่ต่ำกว่าผู้ใหญ่ แก้มแดงยุ้ย ผิวหนังอ่อนนุ่ม นิ่มนวล ผมเส้นเล็กบาง คางเล็ก ส่วนประกอบทุกอย่างของทารกแรกเกิดในตอนนี้ช่างดูเหมือนตุ๊กตาตัวเล็ก ๆ โดยทั่วไปองค์ประกอบรายละเอียดบนใบหน้าของทารกจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ จนอาจเห็นว่ารูปทรงหรือโครงสร้างของใบหน้าจะชัดเจนจริง ๆ ก็เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นที่จะมองเห็นเค้าความหล่อสวยว่าลูกน้อยนั้นจะโตขึ้นมามีหน้าตาเป็นอย่างไร
2. ศีรษะ
ทารกแรกเกิดจะมีศีรษะขนาดใหญ่เมื่อเปรียบเทียบกับลำตัว โดยความยาวของศีรษะจะประมาณ 25% ของความยาวทั้งหมดของร่างกาย และน้ำหนักของศีรษะจะเท่ากับ 10% ของน้ำหนักตัวทั้งหมด ศีรษะของทารกแรกเกิดบางคนหัวบวมโน ลักษณะแบบนี้เกิดจากวิธีการคลอด เนื่องจากส่วนหัวของลูกเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย และถูกบีบรัดผ่านช่องคลอด ดังนั้นจึงต้องผ่าน “การขึ้นรูป” ซึ่งเป็นกระบวนการที่กระดูกของกะโหลกอาจถูกบีบอัดชั่วคราวทำให้หัวมีลักษณะผิดปกติ
หรือทารกที่ถูกใช้เครื่องช่วยดูด ก็อาจมีรอยบนศีรษะที่ยังนิ่มอยู่ได้ ทั้งนี้หัวที่ยืดยาวของลูกหรืออาการบวมเหล่านี้จะหายไปเองและจะกลับเป็นปกติภายในหนึ่งหรือสองวัน แต่สำหรับทารกที่ผ่านการผ่าตัดคลอดจะมีรูปศีรษะที่กลมกว่า จากนั้นศีรษะของทารกจะค่อย ๆ ปรับรูปร่างให้เต็มกลมสมส่วนขึ้นภายใน 3-7 วัน
เคล็ดลับที่ช่วยให้ลูกน้อยหัวทุยสวย คือการจัดท่านอนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงอายุ สำหรับท่านอนของทารกแรกเกิด – 3 เดือน ควรให้ลูกนอนหงายและจัดศีรษะให้พลิกซ้ายขวาสลับด้านในระหว่างนอนหลับ และหลัง 3 เดือนกระดูกของลูกในวัยนี้เริ่มแข็งและสามารถยกชันคอได้แล้ว ก็สามารถให้ลูกนอนคว่ำได้อย่างปลอดภัย เพื่อช่วยเสริมพัฒนากล้ามเนื้อคอและสามารถช่วยปรับรูปทรงของศีรษะทารกให้หัวทุยสวยได้
3. ดวงตา
ดวงตาของทารกแรกเกิดคุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตเห็นจุดเล็ก ๆ แดง ๆ ที่ตาขาวของลูกเนื่องจากเส้นเลือดเล็ก ๆ ที่ตาแตกระหว่างการคลอด โดยปกติแล้วจุดแดง ๆ เหล่านี้จะหายไปเองในเวลาสองหรือสามวัน อาการบวมที่เปลือกตาก็เช่นกันจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน
ส่วนดวงตาของลูกที่มองไปแล้วทำไมดูเหมือนตาเหล่ ตาเขนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการเริ่มต้นพัฒนาการด้านการมองของลูกน้อย เนื่องจากการทำงานของประสาทตายังไม่สมบูรณ์ จากนั้นไม่กี่สัปดาห์ตาที่เคยดูขนาดไม่เท่ากันก็เริ่มจะเข้าที่เข้าทาง หรือเด็กบางคนอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ถ้า 3 เดือนไปแล้วดวงตาของลูกน้อยยังมีอาการตาเหล่ ตาเขอยู่ ควรพาลูกไปพบคุณหมอ เพราะอาจเกิดความผิดปกติของดวงตาได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : 7 อาการผิดปกติของตาลูกปัญหาไม่เล็กที่พ่อแม่ควรรู้
4. เส้นผม
ผมของทารกแรกเกิดนั้นจะอ่อนนุ่ม มีผมสีอ่อน และผมของทารกบางคนอาจหลุดร่วงภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์หลังคลอด จากนั้นก็จะมีผมชุดใหม่ขึ้นมาแทนที่ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ ในขณะที่ทารกบางคนอาจจะยังผมน้อย ผมบาง ส่วนหนึ่งเพราะกรรมพันธุ์ของพ่อแม่ด้วย ในเรื่องนี้ไม่น่าเป็นห่วงค่ะ เพราะโดยธรรมชาติแล้ว เส้นผมของทารกจะพัฒนาสมบูรณ์ภายใน 2-3 เดือน และจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อลูกน้อยโตขึ้น หรือเด็กบางคนจะยังไม่มีผมขึ้นเลยจนกระทั่ง 1-2 ขวบ
5. มือและเท้า
ในช่วงแรก ๆ หลังคลอดมือและเท้าของเบบี๋จะอยู่ในลักษณะที่งอตลอดเวลา เพราะขดตัวนอนอยู่ในมดลูกเป็นเวลาหลายเดือน แต่เมื่อกระดูกเริ่มแข็งแรงมือและเท้าจะเริ่มเหยียดยืดขึ้น ดูแข็งแรงขึ้น โดยมือจะเริ่มยืดออกมาก่อนขา จะสังเกตเห็นว่าเจ้าตัวน้อยจะเริ่มใช้มือที่พยายามหยิบจับสิ่งของได้ก่อน จากนั้นขาก็จะตามได้เท่าแขนและมือ เพื่อเตรียมตัวกับพัฒนาการขั้นต่อ ๆ ไปคือ การนั่ง คลาน และการยืนตัวตรง เพื่อหัดเดินในเวลาต่อมา
พัฒนาการรูปร่างทารกแรกเกิดเป็นอย่างไร ?
โดยปกติแล้วเฉลี่ยเด็กผู้ชายจะมีน้ำหนักอยู่ประมาณ 3.3 กก. สูง 50.5 ซม. ส่วนเด็กผู้หญิงมีน้ำหนักอยู่ที่ 3.2 กก. สูง 49.9 ซม. ซึ่งร่างกายของทารกในช่วงแรกคลอดนี้ จะดูแล้วไม่ค่อยน่ารัก เพราะว่ามีศีรษะจะโตมากกว่าลำตัว ทั้งยังมีใบหน้าอูม คอสั้น แขนขาก็สั้นไม่เข้าที่ และเมื่อจับศีรษะก็จะพบว่าค่อนข้างนุ่ม เพราะกะโหลกยังประสานไม่สนิทเท่าไร โดยเฉพาะกระหม่อมหน้า ส่วนมือและเท้าก็ค่อนข้างเย็นเพราะระบบหมุนเวียนเลือดยังทำงานไม่ประสานกันเท่าไหร่
นอกเหนือจากการพัฒนาส่วนต่าง ๆ ของทารกที่กล่าวมาแล้ว ทารกยังมีลักษณะที่โดดเด่นพอจะบ่งบอกได้ถึงเชื้อสายหรือกรรมพันธุ์ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษได้ เช่น เส้นผมเหมือนปู่ ปากหนาบางคล้ายแม่ หรือมีดวงตาที่เหมือนพ่อ จะเห็นได้ว่าพัฒนาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนที่พ่อแม่สังเกตลูกน้อยแรกเกิดไม่ทันไรหน้าตาเปลี่ยนอีกแล้ว ซึ่งจะเด่นชัดในช่วงสองปีแรก หลังจากนั้นแขนขาก็จะเริ่มยืดขึ้น เริ่มเติบโตและช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น เริ่มเคลื่อนไหวอย่างอิสระได้มากขึ้น แต่ถึงยังไงหน้าตาของลูกก็ยังคงเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ให้คุณพ่อคุณแม่ได้เฝ้ามองเจ้าตัวเล็กไปจนโตเลยค่ะ
ซึ่งโดยทั่วไป องค์ประกอบบนใบหน้าของทารกจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ และโครงหน้าก็ยังไม่เป็นเหลี่ยมมุมเหมือนผู้ใหญ่มากเท่าไร ( จะสังเกตเห็นได้ง่ายในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง ) จนกว่าจะเข้าสู่วัยรุ่น ที่จะทำให้เราได้เห็นหน้าตาของเด็กทารกได้ชัดเจนมากขึ้น แขนขาป้อม ๆ และตัวที่เคยกลมที่เราได้เห็นอยู่ในตอนนี้ก็จะยืดขึ้น
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
พัฒนาการสมองทารก พ่อแม่กระตุ้นดี ลูกได้ความฉลาดติดตัว
ปล่อยให้ลูกซนบ้าง แม่อย่าเพิ่งห้าม ถ้าอยากให้ลูก มีพัฒนาการที่ดีขึ้น
10 วิธีดูแลทารกแรกเกิด การเลี้ยงเด็กทารกแรกเกิด ควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไรบ้าง
ที่มา : 1haijai
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!