TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ดนตรีกับพัฒนาการ ลงทุนกับการเรียนดนตรี ดีกับพัฒนาการลูกอย่างไร

บทความ 5 นาที
ดนตรีกับพัฒนาการ ลงทุนกับการเรียนดนตรี ดีกับพัฒนาการลูกอย่างไร

ดนตรีกับพัฒนาการ ลงทุนกับการเรียนดนตรี ดีกับพัฒนาการในด้านต่างๆ ของลูกรักอย่างไร ดนตรีกับเด็กเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าแทบจะแยกออกจากกันไม่ได้

ดนตรีกับพัฒนาการ 2 คำนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรต่อตัวของเด็ก คำตอบนั้นมีมากมาย ดังนั้นการให้ลูกได้มีโอกาสสัมผัสกับดนตรีน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีในการช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของลูกได้มากยิ่งขึ้น

 

ดนตรีกับพัฒนาการ ส่งผลกับลูกอย่างไร

 

ดนตรีกับพัฒนาการ

 

  • ดนตรีกับเด็กเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าแทบจะแยกออกจากกันไม่ได้
  • ทารกน้อยที่ร้องไห้จ้า หยุดร้องงอแงเมื่อได้ยินเสียงเพลงเห่กล่อมของพ่อแม่ปลอบประโลม
  • คราวถึงวัยเริ่มหัดพูดช่างเจรจา การฟังเพลงทำให้จดจำคำร้องและทำนองได้อย่างว่องไว 
  • เมื่อยิ่งโตขึ้น ดนตรีเป็นทางออกแห่งอารมณ์พลุ่งพล่าน เป็นสนามสร้างความมั่นใจให้ได้แสดงตัวตน และยังเป็นที่พักใจยามเหนื่อยล้าได้อีกด้วย

 

แม้ดนตรีจะมีบทบาทในชีวิตลูกน้อยอยู่แล้วโดยธรรมชาติ แต่หากได้รับโอกาสที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการเรียนรู้ที่จะใช้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ในการเล่นเครื่องดนตรี ซึ่งมีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าเพียงการใช้เสียงร้อง ก็จะยิ่งช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้มีงานวิจัยจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่ให้หลักฐานสนับสนุนว่า การเรียนดนตรีส่งผลต่อการพัฒนาของสมองโดยตรง กล่าวกันว่า หากคุณมีเงินและมีเวลาจำกัดแล้วจำเป็นต้องเลือกลงทุนกับลูกเรื่องใดเรื่องหนึ่งในการเสริมพัฒนาการเพิ่มเติม การเรียนดนตรีจะเป็นสิ่งแรกที่ควรพิจารณาเลยทีเดียว

บทความเพิ่มเติม : เลี้ยงลูกให้เป็นนักดนตรี ทำอย่างไรได้บ้าง ทำไงให้ลูกรักเสียงเพลง

 

ดังนั้นวันนี้เลยอยากมาชวนคุณพ่อคุณแม่คุยกันเรื่องประโยชน์ด้านต่าง ๆ ของการให้ลูกน้อยได้เรียนดนตรีค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง บางอย่างคุณพ่อคุณแม่อาจคาดเดาได้บ้างอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะมีบางเรื่องที่ลืมนึกถึงไป พอฟังแล้วจะได้ตัดสินใจกันง่ายขึ้นค่ะ ว่าจะลงทุนกับการเรียนดนตรีกับลูกน้อยเมื่อไรอย่างไรบ้างดี

 

พัฒนาโครงสร้างของสมองและความจำ

งานวิจัยหลายงานพบว่า การเรียนดนตรี เพิ่มการเจริญเติบโตของสมองส่วนต่าง ๆ อย่างมีนัยยะสำคัญโดยพบว่าสมองส่วนที่ควบคุมทักษะการอ่าน การเข้าใจคำพูด และการพัฒนาทางด้านภาษานั้นมีขนาดใหญ่ขึ้น และยังเชื่อว่ามีผลต่อความยืดหยุ่นของการทำงานของสมองอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการเรียนดนตรีมีผลโดยตรงกับความจำ งานวิจัยชิ้นหนึ่งจากประเทศชิลีพบว่าเมื่อศึกษาเด็กอายุ 10-13 ปี จำนวน 40 คน โดยเด็กจำนวนครึ่งหนึ่งมีประสบการณ์การเรียนดนตรีอย่างมีแบบแผนมาเป็นเวลามากกว่าสองปีและฝึกซ้อมวันละไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง ส่วนอีกครึ่งไม่มีการเรียนดนตรีเพิ่มเติมไปจากที่มีอยู่ในแบบเรียนของโรงเรียน เมื่อวัดการทำงานของสมองจากการวัดการไหลเวียนของเลือดระหว่างที่ให้ดูภาพและฟังเมโลดี้ของดนตรีไปพร้อมกันเป็นเวลาสี่วินาที ซึ่งนักวิจัยจะให้เด็กโฟกัสไปที่อย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ได้บอกให้โฟกัสอะไรเป็นพิเศษ แล้วหลังจากนั้นจึงลองถามทั้งภาพและเมโลดี้ พบว่ากลุ่มเด็กที่เรียนดนตรีสามารถทำบททดสอบความจำนี้ได้ดีกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ทักษะด้านการจดจำที่ดีนั้นยังเชื่อมโยงกับความสามารถในการอ่านและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กในวัยเยาว์อีกด้วย

 

พัฒนาการด้าน EF

การเรียนดนตรีจะทำให้ลูกได้ฝึกฝนทักษะที่สอดคล้องไปกับพัฒนาการด้าน EF หรือ Executive Functions อันเป็นกระบวนการทางความคิดที่พ่อแม่ยุคใหม่เริ่มเรียนรู้และใส่ใจมากขึ้นเพราะสำคัญยิ่งว่า IQ และ EQ ที่เคยเป็นจุดโฟกัสของพ่อแม่ยุคก่อน โดยหากมองตามกระบวนการแล้ว การเรียนดนตรีช่วยให้ลูกใช้ทักษะด้าน EF ครบทั้ง 9 ด้าน นั่นคือ 

  • ความทรงจำใช้งาน : ผ่านการเรียนรู้จดจำตัวโน้ต ทฤษฎี เสียงดนตรี โดยสามารถจัดเก็บข้อมูลที่ได้รับและดึงมาใช้ได้ยามต้องการ 
  • การยั้งคิดและควบคุมตนเอง : เพราะเด็กต้องตัดใจจากการเล่นมาซ้อมดนตรี ฝึกหันเหความสนใจจากเรื่องสนุก เรื่องง่าย มาลองทำอะไรที่ยากและท้าทายขึ้น 
  • การยืดหยุ่นทางความคิด : โดยเฉพาะการเล่นดนตรีที่สามารถพลิกแพลงไปได้หลายรูปแบบเช่นการ improvise
  • การจดจ่อ : สามารถจดจ่อมากพอที่จะซ้อมเพลงเดิมซ้ำไปซ้ำมาได้เป็นเวลานานเพื่อให้เล่นได้คล่องขึ้น 
  • การควบคุมอารมณ์ : ไม่ว่าจะอยากเล่น เบื่อ เหนื่อย ก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ได้มากพอที่จะลงมือซ้อมได้
  • ตั้งเป้าหมายและการจัดการ : เด็กต้องเห็นเป้าหมายชัดเจน เช่น จะเล่นเพลงนี้ให้ได้ภายในกี่เดือน และพร้อมที่จะจัดสรรเวลาซ้อม แบ่งเวลาจากภาระด้านอื่น ๆ มาอย่างเหมาะสมเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
  • การประเมินตัวเอง : เช่น หากยังเล่นได้ผิดพลาดก็ต้องประเมินถึงข้อบกพร่องของตัวเองว่าเกิดจากสาเหตุใดและคิดหาวิธีแก้ไข
  • การริเริ่ม เช่นเป็นผู้เลือกเครื่องดนตรี เลือกเพลงที่อยากเล่น ริเริ่มอยากไปแสดงในคอนเสิร์ตต่าง ๆ ไม่ว่าเวทีเล็กหรือใหญ่ และริเริ่มลงมือซ้อมลงมือทำตามที่คิดไว้
  • ความพากเพียรพยายาม : การเรียนดนตรีนั้นมีความยากและท้าทาย เด็กจะเข้าใจผ่านการเรียนดนตรีว่า ไม่มีใครเก่งได้โดยไม่ฝึกฝน ทุกอย่างอาศัยความพยายามมานะอุตสาหะ ที่จะฝ่าฟันอุปสรรค ให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ และแม้จะผ่านความเหนื่อยยากท้อแท้ หากเอาจริงเอาจังไม่ละความพยายาม ก็จะทำได้ในที่สุด

การมีทักษะดนตรียังส่งเสริมให้เด็กมีความเชื่อมั่นในตัวเอง หรือมี Self Esteem  จากการได้ลงมือฝึกฝน ลงทุนลงแรงกับบางอย่างแล้วเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ผลิดอกออกผลมาเป็นทักษะความสามารถที่จับต้องได้ แสดงออกให้คนรอบข้างได้รับรู้จนได้รับความยอมรับในวงสังคมของตนเองเช่นในครอบครัวและหมู่เพื่อนฝูง

 

ดนตรีกับพัฒนาการ ด้านอารมณ์

ดนตรีกับพัฒนาการ

 

การเรียนดนตรีนั้นส่งผลในด้านอารมณ์หลากหลายรูปแบบ การที่เด็กสามารถจดจ่อกับการเล่นดนตรี ช่วยทำให้เด็กมีจิตใจสงบนิ่งและระงับอารมณ์ได้ดีขึ้น ดนตรีช่วยเพิ่มสุนทรียะ และทำให้เด็กมีอารมณ์ดี ในขณะเดียวกัน เมื่อเด็กขุ่นข้องหมองใจ การใช้ดนตรีเป็นเครื่องระบายอารมณ์ก็เป็นทางออกที่ดีที่เด็กเข้าถึงได้ง่ายสำหรับเด็กเล็กที่ยังมีปัญหาในการเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ยังแยกแยะอารมณ์ต่าง ๆ ไม่ค่อยถูก และอธิบายความรู้สึกได้ไม่ดีนัก การเรียนดนตรีจะช่วยให้เด็กได้เข้าถึงอารมณ์ในรูปแบบต่าง ๆ มากขึ้นและเรียนรู้ที่จะแสดงออกถึงอารมณ์ที่แตกต่างกันไปรวมถึงจัดการกับอารมณ์ได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่าเมื่อเรียนดนตรี การที่เด็กได้ฝึกแยกแยะตัวโน้ตเสียงสูงต่ำจะทำให้สมองมีความยืดหยุ่นและรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกคนรอบข้างได้ไวเป็นพิเศษ อีกทั้งสามารถแยกแยะอารมณ์ได้ดี มีงานวิจัยพบว่า เด็กที่เรียนดนตรี สามารถดูภาพผู้คนที่แสดงสีหน้าต่าง ๆ แล้วเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกที่คนคนนั้นกำลังแสดงออกได้อย่างละเอียดลึกซึ้งกว่าเด็กที่ไม่ได้เรียนดนตรี ดังนั้นการเรียนดนตรีจึงทำให้เด็กเป็นผู้ที่เข้าอกเข้าใจคนอื่นได้อย่างดีหรือที่เรียกว่ามี empathy ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากของศตวรรษนี้

 

บทความเพิ่มเติม : ลูกน้อยชอบร้องเพลง อยากเป็นนักร้อง ทำอย่างไรให้ความฝันลูกเป็นจริง

 

 

นอกจากพัฒนาการด้านต่าง ๆ การเรียนดนตรียังทำให้เด็กมีโอกาสที่จะใช้ดนตรีเพื่อความสนุกสนานผ่อนคลายของตัวเอง และยังสามารถช่วยเรื่องการเข้าสังคมกับเพื่อน ๆ ได้อีกด้วย กลอง เปียโน กีตาร์ เป็นเครื่องดนตรีแถวหน้าที่เด็ก ๆ มักจะเลือกเรียน และระยะหลังมานี้ เครื่องดนตรีที่มีขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายได้ง่ายอย่างอูกูเลเล่ ก็เริ่มฮิตติดกระแสเช่นกัน 

ในเรื่องของช่วงวัยนั้น การเริ่มเรียนดนตรีอย่างมีแบบแผน มักเริ่มราวอายุสี่ขวบ เพราะเป็นช่วงที่กล้ามเนื้อแขนขาและนิ้วมือแข็งแรงและมีการควบคุมได้ดีมากขึ้น ทำให้เด็ก ๆ สามารถใช้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ควบคุมเครื่องดนตรีได้ อีกทั้งยังเป็นช่วงที่สามารถรับฟังคำสั่ง และปฏิบัติตามได้อย่างเข้าใจ และเป็นช่วงที่สามารถเริ่มฝึกสมาธิให้จดจ่ออยู่กับที่ครูสอนเป็นระยะเวลาประมาณหนึ่ง รวมถึงเป็นเวลาที่กำลังเหมาะสมในการนำดนตรีมาใช้เป็นเครื่องมือฝึกระเบียบวินัยในการเข้าเรียน ในการซ้อมทำการบ้านทุก ๆ สัปดาห์ด้วยค่ะ

ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อย่าลังเลใจที่ทุ่มเทเงินและเวลาเพื่อสนับสนุนให้ลูกได้เรียนดนตรี และให้ลูกรักได้เลือกเครื่องดนตรีที่ถูกใจ แม้คำแนะนำทั่วไปมักบ่งชี้ให้เรียนแบบกลุ่มหรือเรียนส่วนตัวกับคุณครูตามโรงเรียนดนตรีเพื่อให้เข้าใจทั้งด้านทฤษฎีได้อย่างถี่ถ้วนและมีแบบปฏิบัติอย่างมีแบบแผน แต่หากเรื่องค่าเรียนที่สูงทำให้ยังคงลังเล จริง ๆ แล้วในยุคอินเทอร์เน็ตอย่างสมัยนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจจำเป็นต้องลงทุนแค่เพียงซื้อตัวเครื่องดนตรี แล้วใช้เวลาเรียนรู้ร่วมกันผ่านทาง YouTube หรือช่องทางอื่น ๆ ออนไลน์ก็ย่อมได้เช่นกันค่ะ ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญคือเวลาในการเรียนและเล่นดนตรี ควรเป็นเวลาแห่งความสุขสดชื่น ซึ่งนอกจากจะทำให้ลูกได้ฝึกสมองได้สร้างเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ จะยังนำมาซึ่งช่วงเวลาคุณภาพในการสื่อสายสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นอีกด้วย 

 

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

บทความจากพันธมิตร
ครบจบทุกการดูแล! Baby Sebamed 4 ไอเทมคู่ใจคุณแม่ ปกป้องผิวลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด
ครบจบทุกการดูแล! Baby Sebamed 4 ไอเทมคู่ใจคุณแม่ ปกป้องผิวลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด
นมสูตร 3 ยี่ห้อไหน? คือที่สุด...ตัวเลือกเหนือระดับเพื่อเด็กเจนใหม่ สมองไวได้มากกว่า
นมสูตร 3 ยี่ห้อไหน? คือที่สุด...ตัวเลือกเหนือระดับเพื่อเด็กเจนใหม่ สมองไวได้มากกว่า
Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ ลูกปลอดภัย ไกลยุงร้าย ง่ายนิดเดียว
Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ ลูกปลอดภัย ไกลยุงร้าย ง่ายนิดเดียว
เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรก จุดเริ่มต้นที่คุณแม่สร้างได้
เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรก จุดเริ่มต้นที่คุณแม่สร้างได้

เครื่องดนตรีขิม เล่นยังไง? เด็ก ๆ สามารถเล่นได้ไหมมาดูกัน

เครื่องดนตรีเด็กเล่นได้ ฝึกเพิ่มทักษะ ลูกให้ลูกเป็นอัจฉริยะด้านดนตรี เริ่ด!

เลี้ยงลูกให้เป็นนักดนตรี ทำอย่างไรได้บ้าง ทำไงให้ลูกรักเสียงเพลง

ที่มา : bloomberg , rakluke , cassiopiablog , percussionplay

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

ดร. สุธีรา รัตนศิรินทรวุธ

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • ดนตรีกับพัฒนาการ ลงทุนกับการเรียนดนตรี ดีกับพัฒนาการลูกอย่างไร
แชร์ :
  • วันแรกที่พาลูกกลับบ้าน สิ่งที่หมอบอก VS สิ่งที่แม่ต้องเรียนรู้เอง

    วันแรกที่พาลูกกลับบ้าน สิ่งที่หมอบอก VS สิ่งที่แม่ต้องเรียนรู้เอง

  • เสียง White Noise แบบไหน ทารก ชอบที่สุด? ช่วยลูกหลับง่าย ไม่ต้องอุ้มกล่อมเป็นชั่วโมง

    เสียง White Noise แบบไหน ทารก ชอบที่สุด? ช่วยลูกหลับง่าย ไม่ต้องอุ้มกล่อมเป็นชั่วโมง

  • ครบจบทุกการดูแล! Baby Sebamed 4 ไอเทมคู่ใจคุณแม่ ปกป้องผิวลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด
    บทความจากพันธมิตร

    ครบจบทุกการดูแล! Baby Sebamed 4 ไอเทมคู่ใจคุณแม่ ปกป้องผิวลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด

powered by
  • วันแรกที่พาลูกกลับบ้าน สิ่งที่หมอบอก VS สิ่งที่แม่ต้องเรียนรู้เอง

    วันแรกที่พาลูกกลับบ้าน สิ่งที่หมอบอก VS สิ่งที่แม่ต้องเรียนรู้เอง

  • เสียง White Noise แบบไหน ทารก ชอบที่สุด? ช่วยลูกหลับง่าย ไม่ต้องอุ้มกล่อมเป็นชั่วโมง

    เสียง White Noise แบบไหน ทารก ชอบที่สุด? ช่วยลูกหลับง่าย ไม่ต้องอุ้มกล่อมเป็นชั่วโมง

  • ครบจบทุกการดูแล! Baby Sebamed 4 ไอเทมคู่ใจคุณแม่ ปกป้องผิวลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด
    บทความจากพันธมิตร

    ครบจบทุกการดูแล! Baby Sebamed 4 ไอเทมคู่ใจคุณแม่ ปกป้องผิวลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว