X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อลูกเป็นไข้ แม่รู้มั้ยบางอย่างอันตรายกว่าที่คิด

บทความ 5 นาที
สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อลูกเป็นไข้ แม่รู้มั้ยบางอย่างอันตรายกว่าที่คิด

เมื่อลูกเป็นไข้ หมายความว่าระบบภูมิคุ้มกันของเจ้าตัวน้อยกำลังทำงานเพื่อต่อสู้กับความผิดปกติในร่างกาย มาดูกันว่า อะไรบ้างที่ควรทำและ ไม่ควรทำ เมื่อลูกเป็นไข้

เมื่อลูกเป็นไข้ หมายความว่า ระบบภูมิคุ้มกันของเจ้าตัวน้อยกำลังทำงานเพื่อต่อสู้กับความผิดปกติในร่างกายค่ะ แต่ร่างกายของเจ้าตัวเล็ก ไม่เหมือนกับผู้ใหญ่ค่ะ แต่การดูแลลูกระหว่างเป็นไข้ ก็มีทั้งสิ่งที่สามารถทำได้ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วยนั้น และ สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อลูกเป็นไข้ อย่างแรกเลย คุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกมีไข้สูงเกินไป (มากกว่า 40-41 องศา) ค่ะ เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงที่ลูกน้อยจะมีอาการชักจากไข้สูงได้

มีอะไรอีกบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรทำ และ สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อลูกเป็นไข้ ไปดูกันค่ะ

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อลูกเป็นไข้ แม่รู้มั้ยบางอย่างอันตรายกว่าที่คิด สิ่งที่ควรทำ เมื่อลูกเป็นไข้

  • ให้ยาพาราเซตามอลชนิดน้ำ โดยคำนวณปริมาณยาตามน้ำหนักตัวของลูก แนะนำให้ไซรินจ์จะช่วยให้คุณแม่ตวงปริมาณยาได้แม่นยำที่สุด หลีกเลียงการตวงยาด้วยช้อนที่ใช้ในครัวเรือน เพราะอาจเสี่ยงต่อการได้รับยาเกินขนาดหรือปริมาณยาน้อยเกินไป
  • ควรให้ลูกดื่มน้ำเยอะๆ เพราะความร้อนทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำอย่างรวดเร็ว หากเจ้าตัวน้อยอายุต่ำกว่า 6 เดือน ควรให้ลูกดูดนมแม่บ่อยๆ นมแม่เป็นยาปฏิชีวนะที่จะช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างดีเยี่ยม
  • ควรเช็ดตัวลดไข้ โดยพักผ้าที่ใต้รักแร้ บนหน้าผาก และบริเวณขาหนีบทั้งสองข้าง
  • ให้ลูกสวมเสื้อผ้าเนื้อบาง เนื้อผ้าฝ้าย และห่มผ้าห่มบางๆ จะช่วยระบายความร้อนได้ดี หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ หรือห่มผ้าหนาๆ เพราะจะยิ่งเพิ่มความร้อนให้ร่างกาย

สิ่งที่ไม่ควรทำ เมื่อลูกเป็นไข้

  • ไม่ควรให้ลูกกินยาไอบูโพรเฟน จนกว่าคุณจะมั่นใจว่าอาการไข้ของลูกไม่ได้เกิดจากไวรัสเดงกี่ที่เป็นต้นเหตุของโรคไข้เลือดออก เพราะไอบูโพรเฟนจะทำให้เกล็ดเลือดไม่แข็งตัว และทำให้อาการแย่ลงได้
  • ไม่ควรให้ลูกกินยาแอสไพริน นอกจากคุณหมอเป็นผู้แนะนำ เนื่องจากอาจเกิดอาการแพ้ยาแอสไพริน ที่เรียกว่า กลุ่มอาการราย (Reye’s syndrome)
  • หากลูกอายุต่ำกว่า 2 เดือน ไม่ควรให้ลูกกินยาลดไข้พานาดอล หรือไอบูโพรเฟน นอกจากจะได้รับคำแนะนำจากกุมารแพทย์
  • ไม่ควรใช้น้ำเย็นหรือน้ำแข็ง แต่ควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดให้ทั่วร่างกายเพื่อให้อุณหภูมิร่างกายลดลง
  • หากไข้ยังไม่ลด ไม่ควรให้ยาซ้ำเร็วเกินไป ควรอ่านฉลากยาอย่างระมัดระวัง และทำตามอย่างเคร่งครัด
  • ไม่ควรงดอาหาร หากเจ้าตัวน้อยถึงวัยกินอาหารเสริมได้นอกจากนมแม่ ควรให้ลูกได้กินอาหารเขาอยากกิน เพราะร่างกายลูกต้องการพลังงานเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค แต่หากลูกไม่ยอมกินอาหาร คุณแม่ไม่ต้องกังวลมากเกินไป หากลูกดื่มน้ำหรือนมอย่างเพียงพอ และปัสสาวะปกติ
  • ไม่ควรให้ลูกไปโรงเรียน หรือสถานรับเลี้ยงเด็กในระหว่างที่ลูกเป็นไข้ ควรรอให้ลูกหายไข้ครบ 24 ชั่วโมงก่อน

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อลูกเป็นไข้ แม่รู้มั้ยบางอย่างอันตรายกว่าที่คิด

ลูกชักจากไข้สูง ควรทำอย่างไรดี

บทความ : ลูกชักจากไข้สูง อาการชักจากไข้สูงในเด็กอันตรายแค่ไหน? พ่อแม่ควรรับมืออย่างไร

ลูกชักจากไข้สูง ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก แต่เมื่อเกิดขึ้น โดยเฉพาะครั้งแรก คุณพ่อคุณแม่มักจะมีความเครียด วิตกกังวลสูง และทำอะไรไม่ถูก เรามาทำความรู้จักกับภาวะนี้ และเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดขึ้น กันดีกว่าค่ะ

อาการชักจากไข้สูงเกิดจากการที่สมองของเด็กเล็กยังพัฒนาเติบโตไม่เต็มที่ เมื่อถูกกระตุ้นจากปัจจัยต่างๆ เช่น มีอุณหภูมิร่างกายสูงมาก อาจทำให้เกิดอาการชักได้ จึงมักเกิดในเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี อาการนี้สามารถพบได้ในเด็กเล็ก คืออายุตั้งแต่ 6 เดือน ไปจนกระทั่ง 5 ปี ช่วงอายุที่พบบ่อยที่สุดคืออายุ 1-2 ปี

อาการชักจะเกิดขึ้นหลังจากมีไข้สูง (อุณหภูมิสูงกว่า 38.5 องศาเซลเซียส) ภายในไม่เกิน 24-48 ชั่วโมง หลังจากที่มีไข้สูง ลักษณะอาการชักจะเป็นชักแบบเกร็ง กระตุกทั้งตัว เป็นทั้งข้างซ้ายและขวาเท่าๆ กัน ระยะเวลาที่ชักมักเป็นช่วงสั้นๆ ไม่นานกว่า 15 นาที อาการชักมักจะหยุดได้เองภายในเวลา 3-5 นาที หลังจากชักเด็กจะรู้สึกตัวดี

อาการชักจากไข้สูงในเด็กอันตรายแค่ไหน?

โดยทั่วไปภาวะนี้จะไม่มีอันตรายร้ายแรง ไม่ส่งผลต่อระดับสติปัญญา พัฒนาการหรือการเรียนรู้ของเด็ก ยกเว้นในบางรายที่มีอาการชักติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะชักต่อเนื่องกันนานมากกว่า 30 นาที จนมีภาวะตัวเขียวเนื่องจากขาดออกซิเจน กรณีนี้อาจส่งผลต่อสมองได้

*** ข้อควรระวังคือเด็กที่เคยชักจากไข้สูงจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการชักซ้ำ ประมาณ 30% หากมีไข้สูงอีก จนกว่าจะอายุมากกว่า 5 ปี ก็มักจะหายไปหากไม่ได้เป็นโรคลมชัก

*** สิ่งที่หมอมักจะย้ำเตือนกับคุณพ่อคุณแม่ที่ลูกมีอาการชักจากไข้สูงก็คือเมื่อลูกมีไข้สูงควรรีบเช็ดตัวลดไข้และให้ยาลดไข้พาราเซตามอลทันที อย่าปล่อยให้ไข้สูงนาน เพราะลูกอาจเกิดอาการชักขึ้นมาอีกได้***

เด็กที่มีอาการชักจากไข้สูงไม่ได้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคลมชักในอนาคตสูงกว่าเด็กปกติทั่วไป ยกเว้นมีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้คือ มีอาการชักนานกว่า 15 นาที มีอาการชักซ้ำมากกว่า 1 ครั้งภายใน 24 ชั่วโมง มีความผิดปกติทางสมองและพัฒนาการก่อนมีอาการชัก หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคลมชัก ก็จะมีโอกาสเป็นโรคลมชักสูงกว่าเด็กปกติได้

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อลูกเป็นไข้

วิธีดูแลลูกหากมีอาการชักจากไข้สูงควรทำอย่างไร?

สิ่งที่ควรปฏิบัติเป็นอันดับแรกหากมีอาการชักจากไข้สูงคือ “ควบคุมสติ” อย่าตกใจ แล้วรีบจับให้ลูกนอนท่าตะแคงหัวต่ำ เพื่อป้องกันการสำลัก ห้ามใช้นิ้วหรือวัสดุใดๆ เช่น ช้อน ไปล้วงหรืองัดปากลูกโดยเด็ดขาด และควรรีบพาลูกโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาในทันทีหากมีอาการชักนานมากกว่า 5 นาที หรือรอบปากมีรอยเขียวคล้ำ

*** ทั้งนี้หากลูกมีอาการชักเป็นครั้งแรก ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด ไม่ว่าจะมีไข้หรือไม่ ก็ควรพาลูกไปโรงพยาบาลเพื่อจะได้สาเหตุของอาการชักให้ชัดเจนและได้รับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปนะคะ

หากคุณพ่อคุณแม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพของลูกน้อยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาการไข้ หรือเรื่องอื่นๆ ควรปรึกษากุมารแพทย์โดยเร็วค่ะ

ที่มา : sg.theasianparent.com

คุณแม่รู้ไว้ วิธีเช็ดตัวลดไข้ที่ถูกต้อง ทำอย่างไร?

8 เรื่องเกี่ยวกับ การใช้ยาในเด็ก ที่แม่มักทำพลาด

ลูกมีไข้สูง ตัวร้อน จะชักหรือไม่ ทำอย่างไรดี

บทความจากพันธมิตร
วัคซีน IPD จำเป็นที่ต้องให้ลูกรับหรือเปล่า? มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 'โรคไอพีดี' และ 'วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี'
วัคซีน IPD จำเป็นที่ต้องให้ลูกรับหรือเปล่า? มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 'โรคไอพีดี' และ 'วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี'
สารพัด ปัญหาของลูกน้อย ที่คุณแม่กังวลใจ ลูกงอแง ไม่สบายท้อง ท้องอืด มีผื่นคัน แก้ด้วย Little Shield
สารพัด ปัญหาของลูกน้อย ที่คุณแม่กังวลใจ ลูกงอแง ไม่สบายท้อง ท้องอืด มีผื่นคัน แก้ด้วย Little Shield
พ่อแม่เป็นภูมิแพ้ สาเหตุสำคัญของ ภูมิแพ้ในเด็ก ที่อาจถูกมองข้ามไป
พ่อแม่เป็นภูมิแพ้ สาเหตุสำคัญของ ภูมิแพ้ในเด็ก ที่อาจถูกมองข้ามไป
ปกป้องคนที่คุณรักให้ปลอดภัย ห่างไกลจาก RSV โควิด และ ฝุ่น PM 2.5 ด้วยเครื่องฟอกอากาศ Bwell
ปกป้องคนที่คุณรักให้ปลอดภัย ห่างไกลจาก RSV โควิด และ ฝุ่น PM 2.5 ด้วยเครื่องฟอกอากาศ Bwell

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อลูกเป็นไข้ แม่รู้มั้ยบางอย่างอันตรายกว่าที่คิด
แชร์ :
  • เมื่อลูกเป็นไข้ ซื้อยาลดไข้ให้กินได้มั้ยหรือมีอาการแค่ไหนถึงพาลูกไปหาหมอ?

    เมื่อลูกเป็นไข้ ซื้อยาลดไข้ให้กินได้มั้ยหรือมีอาการแค่ไหนถึงพาลูกไปหาหมอ?

  • เป็นไข้กินกล้วยได้ไหม หากลูกเป็นไข้ ห้ามกินอาหารอะไรบ้าง

    เป็นไข้กินกล้วยได้ไหม หากลูกเป็นไข้ ห้ามกินอาหารอะไรบ้าง

  • การกินยาคุม กับ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เรื่องสำคัญที่ควรต้องรู้

    การกินยาคุม กับ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เรื่องสำคัญที่ควรต้องรู้

  • 8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

    8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

  • เมื่อลูกเป็นไข้ ซื้อยาลดไข้ให้กินได้มั้ยหรือมีอาการแค่ไหนถึงพาลูกไปหาหมอ?

    เมื่อลูกเป็นไข้ ซื้อยาลดไข้ให้กินได้มั้ยหรือมีอาการแค่ไหนถึงพาลูกไปหาหมอ?

  • เป็นไข้กินกล้วยได้ไหม หากลูกเป็นไข้ ห้ามกินอาหารอะไรบ้าง

    เป็นไข้กินกล้วยได้ไหม หากลูกเป็นไข้ ห้ามกินอาหารอะไรบ้าง

  • การกินยาคุม กับ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เรื่องสำคัญที่ควรต้องรู้

    การกินยาคุม กับ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เรื่องสำคัญที่ควรต้องรู้

  • 8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

    8 วิธีง่าย ๆ อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ พ่อแม่ไม่เก่งก็ฝึกลูกได้

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ