การเป็นผดร้อนของลูกเป็นปัญหาที่ทำให้พ่อแม่ต้องกังวลและมีความกังวลอยู่เสมอ เด็กที่มีผดร้อนมักจะรู้สึกไม่สบาย ร้อนและเจ็บแสบเมื่อมีอากาศร้อน และอาจมีผื่นแดงที่ผิวหนังที่ร้อนและชื้น การจัดการกับลูกที่มีผดร้อนต้องใช้ความระมัดระวังและการดูแลเป็นพิเศษ วันนี้ทาง theAsianparent มาแนะนำวิธีการดูแลลูกน้อยของคุณ ผ่านบทความ ผดร้อนทารก ลูกเป็นผดร้อน ทำอย่างไรดี มีวิธีรักษาหรือเปล่า ไปดูกันเลย
ผดร้อนในทารก
ผดร้อน ทารก ซึ่งผดก็ได้ลามไปถึงศีรษะของน้องด้วย เวลาที่น้องอ้าปากปากก็จะแตกและมีเลือดออก คุณแม่จึงพาน้องไปหาหมอและพบว่า น้องเป็นแผลติดเชื้อ คุณหมอจึงได้ให้ยามาทา ตอนที่ทาน้องก็ร้องไห้เพราะคาดว่าจะแสบที่แผล หลังจากนั้นประมาณ 3 – 4 วันแผลก็เริ่มแห้งและหลุดเป็นสะเก็ดแผลออกมาเอง ผดร้อน ทารก ลูกผดขึ้นอย่าทาแป้ง จึงอยากเตือนคุณแม่ทุกคนให้ระวังและหมั่นสังเกต หากลูกผดขึ้นอย่าเพิ่งรีบทาแป้ง แต่ควรล้างหรือเช็ดด้วยน้ำสะอาดเท่านั้น โดยไม่ต้องใช้สบู่ เพราะผิวเด็กนั้นบอบบางมาก เรามาทำความรู้จักกันดีกว่า ว่าผดร้อน คืออะไร
ผดร้อน ทารก คืออะไร?
ผดร้อน หรือ miliaria เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากต่อมเหงื่อทำงานผิดปกติเมื่ออยู่ในอากาศที่ร้อนชื่น ทำให้มีการอุดตันที่ท่อของต่อมเหงื่อ เกิดเป็นตุ่มน้ำเล็กๆ ขึ้นที่ผิวหนัง ผดร้อนมีทั้งหมด 4ชนิด ลักษณะแตกต่างกันไปตามตำแหน่งความลึกที่ท่อของต่อมเหงื่อถูกอุดตัน โรคนี้พบได้บ่อยในเด็กทารกเพราะการพัฒนาของต่อมเหงื่อและผิวหนังยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในผู้ที่อยู่ในเขตอากาศร้อนชื้น
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ : 7 หมอนหัวทุยที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย ซื้อไว้ติดบ้าน หายห่วงเรื่องลูกหัวแบน
ผดร้อน ผดร้อนทารก มีกี่ชนิด?
ผดร้อน แบ่งได้ตามลักษณะของผื่นเป็น 4 ชนิดตามความลึกของการอุดตันของท่อต่อมเหงื่อ ได้แก่
- ผดร้อนใส (Miliaria crystallina) เป็นผดร้อนที่พบบ่อยที่สุด ลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสขนาดเล็ก มักพบที่บริเวณหน้าผาก หน้าอก ลำคอ และแผ่นหลัง เกิดจากการอุดตันเกิดที่ผิวหนังชั้นบนสุด ลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสเล็กๆ แตกง่าย ขนาด 1-2 มม.ไม่มีอาการเจ็บหรือคัน
- ผดร้อนแดง (Miliaria rubra) เกิดจากการอุดตันท่อต่อมเหงื่อในผิวหนังชั้นนอกที่ลึกลงมากกว่า Miliaria crystalina ลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดเล็ก มักพบที่บริเวณข้อพับ แขน ขา และลำตัว มักมีอาการคัน
- ผดร้อนลึก (Miliaria profunda) เกิดจากการอุดตันที่ระดับผิวหนังชั้นลึกเข้ามา ลักษณะเป็นตุ่มสีขาวขุ่น มักพบที่บริเวณหน้าอก ลำคอ และแผ่นหลัง มักไม่มีอาการคัน
- ผดร้อนเรื้อรัง (Miliaria pustulosa) เกิดการอุดตันเกิดในชั้นหนังแท้ ลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง มักพบในผู้ใหญ่ มักมีอาการคันและแสบร้อน
โดยผดร้อน ชนิด Miliaria crystallina และ Miliaria rubra มักพบในทารกแรกเกิด ในผิวหนังบริเวณที่มีการเสียดสี เช่น อก คอ หลัง ข้อพับ
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ ลูกเป็นผดร้อน มีอะไรบ้าง?
- อากาศร้อน: อากาศร้อนจัดหรืออบอ้าว เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทารกเกิดผดร้อน เพราะทารกมีต่อมเหงื่อที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ร่างกายระบายความร้อนได้ไม่ดี เหงื่อจึงอุดตันตามรูขุมขน
- การแต่งกาย: การแต่งกายที่หนาเกินไป ใส่เสื้อผ้าหลายชั้น หรือใช้ผ้าห่มหนาๆ ทำให้ทารกรู้สึกอุ่นเกินไป เหงื่อออกมาก และเกิดผดร้อนได้ง่าย
- สวมผ้าอ้อมนาน ๆ: การสวมผ้าอ้อมเป็นเวลานาน โดยเฉพาะผ้าอ้อมที่ระบายอากาศไม่ดี ทำให้เกิดความอับชื้น เหงื่ออุดตัน เกิดผดร้อนบริเวณก้น ขาหนีบ และอวัยวะเพศ
- การอาบน้ำอุ่นจัด: การอาบน้ำอุ่นจัด หรือแช่น้ำนานๆ ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ระคายเคือง และเกิดผดร้อนได้ง่าย
- เหงื่อออกมาก: ทารกที่เหงื่อออกมาก เช่น ร้องไห้เยอะ เล่นซน หรืออยู่ในที่อากาศร้อน ก็มีโอกาสเกิดผดร้อนได้มากกว่า
- สภาพผิว: ทารกที่มีผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย หรือเป็นโรคผิวหนังบางชนิด ก็มีโอกาสเกิดผดร้อนได้มากกว่าทารกทั่วไป
- พันธุกรรม: ทารกที่มีบุคคลในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ หรือเป็นผดร้อนง่าย ก็มีโอกาสเกิดผดร้อนได้มากกว่า
- ยาบางชนิด: ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแก้แพ้ ยาคลายกล้ามเนื้อ อาจทำให้เกิดผดร้อนเป็นผลข้างเคียง
- อาหารบางชนิด: อาหารบางชนิด เช่น นมวัว ไข่ ถั่วเหลือง ปลา อาจทำให้เกิดผดร้อนในทารกบางรายที่แพ้อาหาร
คุณหมอจะสามารถวินิจฉัยผดร้อนได้อย่างไร?
- อากาศร้อน: อากาศร้อนจัดหรืออบอ้าว เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทารกเกิดผดร้อน เพราะทารกมีต่อมเหงื่อที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ร่างกายระบายความร้อนได้ไม่ดี เหงื่อจึงอุดตันตามรูขุมขน
- การแต่งกาย: การแต่งกายที่หนาเกินไป ใส่เสื้อผ้าหลายชั้น หรือใช้ผ้าห่มหนาๆ ทำให้ทารกรู้สึกอุ่นเกินไป เหงื่อออกมาก และเกิดผดร้อนได้ง่าย
- สวมผ้าอ้อมนานๆ: การสวมผ้าอ้อมเป็นเวลานาน โดยเฉพาะผ้าอ้อมที่ระบายอากาศไม่ดี ทำให้เกิดความอับชื้น เหงื่ออุดตัน เกิดผดร้อนบริเวณก้น ขาหนีบ และอวัยวะเพศ
- การอาบน้ำอุ่นจัด: การอาบน้ำอุ่นจัด หรือแช่น้ำนานๆ ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ระคายเคือง และเกิดผดร้อนได้ง่าย
- เหงื่อออกมาก: ทารกที่เหงื่อออกมาก เช่น ร้องไห้เยอะ เล่นซน หรืออยู่ในที่อากาศร้อน ก็มีโอกาสเกิดผดร้อนได้มากกว่า
- สภาพผิว: ทารกที่มีผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย หรือเป็นโรคผิวหนังบางชนิด ก็มีโอกาสเกิดผดร้อนได้มากกว่าทารกทั่วไป
- พันธุกรรม: ทารกที่มีบุคคลในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ หรือเป็นผดร้อนง่าย ก็มีโอกาสเกิดผดร้อนได้มากกว่า
- ยาบางชนิด: ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแก้แพ้ ยาคลายกล้ามเนื้อ อาจทำให้เกิดผดร้อนเป็นผลข้างเคียง
- อาหารบางชนิด: อาหารบางชนิด เช่น นมวัว ไข่ ถั่วเหลือง ปลา อาจทำให้เกิดผดร้อนในทารกบางรายที่แพ้อาหาร
ผดร้อนทารก รักษาอย่างไร
หากลูกมีอาการผดผื่นแบบที่หมอกล่าวมาข้างต้น และเพิ่งเป็นมาไม่กี่วัน ก็อาจดูแลอาการเบื้องต้นได้ ด้วยวิธีต่อไปนี้
- ให้ลูกอยู่ในที่เย็น หลีกเลี่ยงอากาศร้อนชื้น ไม่ให้ลูกโดนแสงแดด เพราะอาจทำให้เหงื่อออกง่ายขึ้น
- อาบน้ำอย่างน้อยเช้าและเย็น ประคบผื่นด้วยผ้าเย็น เพื่อช่วยลดความร้อน
- สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี หลวม และโล่งสบายตัว
- ดูแลบริเวณข้อพับหรือมีการเสียดสีของผิวหนังให้แห้งเสมอ
- ตัดเล็บเด็กให้สั้นอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เด็กเกาบริเวณที่เป็นผดจนเกิดเเผล
- หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดตัวเด็กหลังอาบน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดการเสียดสีบริเวณที่เป็นผด
โดยปกติผดร้อนจะหายไปเองในเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ หากอาการที่สงสัยผดร้อนไม่หายไปเองควรไปพบคุณหมอ เพื่อรับยาบรรเทาอาการคัน ทั้งยาทา และยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน และคุณหมออาจให้ยาฆ่าเชื้อถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนจากการเกาค่ะ
ลูกเป็นผดร้อน แบบไหนควรพาไปหาหมอ
หากเด็กเป็นผดร้อน และมีอาการดังต่อไปนี้ ควรพาเด็กไปพบแพทย์ทันที
- เป็นผดไม่หายสักที และมีอาการแสบร้อนร่วมด้วย
- ผดร้อนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง เป็นริ้ว ดูเหมือนแผล
- ต่อมน้ำเหลืองแถวรักแร้ ขาหนีบ และคอบวม
- รู้สึกคันและปวดบริเวณที่ผดขึ้น
- มีอาการไข้
การดูแลลูกที่มีผดร้อนไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องให้ความสำคัญและความใส่ใจอย่างพิเศษ โดยการรักษาอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสม รวมถึงการดูแลสุขภาพให้ดี เพื่อให้ลูกมีความสุขและสบายใจตลอดเวลา หากคุณมีคำแนะนำเพิ่มเติมสามารถแบ่งปันกันได้นะคะ ขอให้ลูกของทุกคนมีความสุขและสุขภาพแข็งแรงตลอดไปค่ะ!
ที่มาอ้างอิง : ผศ.พญ. รวีรัตน์ สิชฌรังษี, www.nhs.uk
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
รู้เท่าทัน! ผดร้อน ในทารก พร้อมวิธีป้องกันที่คุณแม่ทุกคนควรรู้
การดูแลผิวทารกแรกเกิด : เคล็ดลับและคำแนะนำจากหมอผิวเด็ก
ลูกเป็นผื่น แดง คัน ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ผิวแพ้ง่าย แชร์วิธีรักษาง่ายๆ ด้วยวิธีที่ปลอดภัยแบบไม่ต้องพึ่งสเตียรอยด์
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!