ไข้หวัดใหญ่ H3N2 แรกเริ่มเดิมทีจะเรียกว่าไข้หวัดสุกร เพราะมีแหล่งกำเนิดมาจากหมูนั่นเอง โดยในแต่ละปี ไข้หวัดนี้จะมีความรุนแรงแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่ระบาดและการแพร่เชื้อ แต่ลักษณะอาการโดยรวมจะมีอาการคล้ายๆ กัน
สถานการณ์ H3N2 ในไทย
เชื้อไข้หวัดใหญ่พี่พบในประเทศไทยปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์เอ H3N2 สายพันธุ์ย่อยสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งถึงแม้จะมีกระแสข่าวมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้ในฮ่องกงกว่า 280 คน แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว ในสช่วงต้นปีที่ผ่านมาสถานการณ์ยังไม่รุนแรงเท่า
ใครที่เสี่ยงจะเป็นมากที่สุด
กลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นไข้หวัดใหญ่ H3N2 มากที่สุดก็คือ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ในระยะที่ 2 หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ที่มีภูมิต้านทานต่ำ มักไม่สบายเสมอเมื่ออากาศเริ่มเปลี่ยนแปลง ก็เข้าข่ายเป็นผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ง่ายเช่นกัน
เมื่อเป็นแล้วจะมีอาการอย่างไร
อาการของไข้หวัดใหญ่ H3N2 จะมีอาการเช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ทั่วไป โดยเริ่มจากมีไข้สูงอย่างเฉียบพลัน ปวดศีรษะ คัดจมูก น้ำมูกไหล ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เจ็บคอ และไอแห้งๆ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกตอาการของลูกหากเริ่มไม่สบายด้วยว่า มีอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่ เพราะหากปล่อยไว้นานจนเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะโรคปอดบวม หลอดลมอักเสบ ไซนัส หรือคนที่เป็นโรคหัวใจ อาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวาย ซึ่งภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้อาจทำให้เสียชีวิตได้
การป้องกันและรับมือ
ถึงแม้สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ H3N2 ในไทยจะไม่รุนแรงและน่ากลัวอย่างที่คิด แต่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังตระหนักถึงความสำคัญและได้เตรียมพร้อมวางมาตรการเฝ้าระวังการติดต่อแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่ในไทยเป็นระยะ ซึ่งจะประมวลจาก 3 สถานการณ์หลัก ทั้งจำนวนผู้ป่วยเทียบเป็นปีต่อปี สัดส่วนผู้ป่วยในโรงพยาบาลทุกแห่ง รวมถึงการระบาดในลักษณะเป็นกลุ่มก้อน ทั้งยังนำเข้าวัคซีนมากถึง 3.5 ล้านโด๊ส เพื่อฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเริ่มฉีดมาแล้วตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
เพื่อความไม่ประมาท หากบ้านไหนที่มีผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทั้งหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก โดยเฉพาะช่วงนี้ย่างเข้าฤดูฝน และโรงเรียนเริ่มเปิดเทอมแล้ว เด็กๆ จะสามารถติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ง่ายมาก คุณพ่อคุณแม่ควรพาไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ไว้จะดีกว่าค่ะ และอย่าลืมด้วยนะคะว่า กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อเป็นหวัดหรืออยู่ในสถานที่ที่มีคนไม่สบาย เวลาไอหรือจามให้ปิดปากเสมอ จะเป็นอีกวิธีที่จะช่วยป้องกันการติดต่อแพร่เชื้อได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ
ไข้หวัดใหญ่ H3N2โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่กำลังตกเป็นข่าว มาดูกันสิว่าไข้หวัดH3N2 นั้นมีที่มา อาการ การรักษาและการป้องกันอย่างไร แล้วอันตรายอย่างที่อยู่ในกระแสข่าวจริงหรือไม่
ในช่วงไม่นานมานี้ หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ H3N2 ที่ระบาดในฮ่องกงจนมีผู้คนเสียชีวิตแล้วกว่า 200 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 4 มีนาคม 2558) และยังมีผู้ติดเชื้อนี้ในประเทศไทยด้วย จนทำให้เกิดการเล่าลือกันไปว่าเจ้าเชื้อโรคสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่อันตราย สร้างความหวาดกลัวกันเป็นวงกว้าง แต่หลายคนก็ยังคงอยากรู้ว่าจริง ๆ แล้วเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H3N2 นั้นเป็นอย่างไรกันแน่ วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้กัน เพื่อความเข้าใจและเพื่อการเตรียมพร้อมรับมือกันได้แบบไม่ต้องตื่นตระหนกค่ะ
ไข้หวัดใหญ่ H3N2 คืออะไร
ไข้หวัดใหญ่ H3N2 หรือไข้หวัดสุกรนั้น เป็นไข้หวัดใหญ่ที่มีแหล่งกำเนิดมาจากหมู มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า H3N2V โดยเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้มักจะมีอาการคล้ายกับโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วไป จึงทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงไข้หวัดใหญ่ธรรมดาเท่านั้น แต่ความรุนแรงของโรคนี้จะมีมากกว่าไข้หวัดใหญ่ทั่วไป และอันตรายน้อยกว่าไข้หวัดนก เพราะไม่สามารถติดต่อกันได้ง่ายเหมือนไข้หวัดนกค่ะ
ทั้งนี้ในแต่ละปีไข้หวัดสายพันธุ์นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปทำให้ในทุก ๆ ปีจะมีการระบาดในสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน อย่างเช่นการระบาดในครั้งแรกเมื่อปี 2011 ในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ยังจะเป็นการระบาดในสายพันธุ์ไอโอวา ส่วนในปี 2015 นั้นสายพันธุ์ที่เกิดการระบาดในฮ่องกง เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A H3N2 สายพันธุ์สวิสเซอร์แลนด์ซึ่งจะมีความรุนแรงแตกต่างกัน แต่ลักษณะโดยรวมก็จะมีอาการเหมือน ๆ กันค่ะ
ลักษณะการแพร่เชื้อ
ไข้หวัดใหญ่ H3N2 สามารถแพร่เชื้อจากหมูสู่คนได้จากการรับประทานเนื้อหมูที่มีเชื้อไวรัสนี้อยู่ หรือจะเป็นการสัมผัสโดยตรงกับสุกรที่ติดเชื้อ นอกจากนี้การแพร่เชื้อจากคนสู่คนยังมีการแพร่กระจายเช่นเดียวกับการแพร่เชื้อของไข้หวัดใหญ่ทั่วไป อาทิเช่นการสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับผู้ป่วยก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ หรือหากผู้ป่วยจามหรือไอใส่ก็ทำให้ติดเชื้อได้เช่นกัน โดยระยะในการฟักตัวของเชื้อไวรัสชนิดนี้อยู่ที่ประมาณ 1 – 3 วันค่ะ
กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H3N2
เนื่องจากเป็นไข้หวัดใหญ่ที่มีสาเหตุมาจากสัตว์ เกษตรกรที่ทำฟาร์มสุกรก็อาจจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อโดยตรงจากสุกรได้ ในขณะที่การระบาดจากคนสู่คน กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงคือคนที่มีภูมิต้านทานต่ำ เด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เด็กที่ได้รับการรักษาด้วยยาแอสไพรินมาเป็นเวลานาน หญิงตั้งครรภ์ในระยะที่ 2 ผู้ที่เป็นโรคอ้วน หรือมีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมขึ้นไป รวมทั้งผู้ป่วยที่มีความพิการสมองที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ซึ่งในกลุ่มคนเหล่านี้อาจมีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตได้หากได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้องค่ะ
ลักษณะอาการของผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H3N2
อาการของไข้หวัดใหญ่ H3N2 โดยส่วนใหญ่ไม่มีอาการรุนแรงและมีอาการเช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ทั่วไป ซึ่งได้แก่ ไข้ขึ้นสูงแบบเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ และมีน้ำมูก แต่อาการเหล่านี้สามารถหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ในกลุ่มเสี่ยงก็ควรได้รับยาและการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดอาการแทรกซ้อนค่ะ
วิธีการรักษา
วิธีการรักษาของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้สามารถรักษาได้เช่นเดียวกับการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วไป โดยให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) และซานามิเวียร์ ภายใน 48 ชั่วโมงแรกหลังจากเริ่มมีอาการ และมีอาการรุนแรง หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรครุนแรง ทั้งนี้ผู้ป่วยยังต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์
บทความ อื่นๆ ที่น่าสนใจ
โรคไข้หวัดใหญ่ในเด็ก
ทำไมผู้หญิงตั้งท้องจึงมีแนวโน้มเป็นหวัดหรือไข้หวัดใหญ่มากกว่าคนปกติ?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!