ตกเลือดหลังคลอดอันตรายถึงชีวิต

ตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่คุณแม่อุ้มท้องมาอย่างประคบประหงมพร้อมทั้งต้องดูแลตนองเป็นอย่างดีทั้งเรื่องโภชนาการ รวมไปถึงความปลอดภัยต่าง ๆ จนเมื่อเจ้าตัวน้อยออกมาลืมตาดูโลก แม้หลังคลอดแล้วคุณแม่ต้องยังต้องสำรวจตนเองว่ามีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะ ตกเลือด!!! ตกเลือดหลังคลอดอันตรายถึงชีวิต มีอาการอย่างไร อันตรายถึงชีวิตหรือไม่ ติดตามอ่าน
ตกเลือดหลังคลอดอันตรายถึงชีวิต
รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ประนอม บุพศิริ สูตินรีแพทย์ กล่าวถึง การตกเลือดหลังคลอด (Postpartum hemorrhage) หมายถึง การเสียเลือดผ่านทางช่องคลอด ภายหลังคลอดทารก ในปริมาณมากกว่า 500 มิลลิลิตร โดยแบ่งเป็น 2 ชนิด ตามระยะเวลาของการตกเลือดหลังคลอด ได้แก่
การตกเลือดหลังคลอดทันที (early postpartum hemorrhage) ได้แก่ การตกเลือดที่เกิดขึ้นภายในเวลา 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด เป็นภาวะที่พบได้บ่อย จะมีการเสียเลือดมาก
การตกเลือดหลังคลอดในภายหลัง (late postpartum hemorrhage) ได้แก่ การตกเลือดที่เกิดขึ้นหลังคลอด 24 ชั่วโมงไปแล้วจนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด
บทความแนะนำ อาการหลังผ่าคลอด ที่แม่ควรรู้
สาเหตุ
1. อาจเกิดจากมดลูกหดรัดตัวไม่ดี
2. การฉีกขาดของช่องคลอด
3. การมีเศษถุงน้ำคร่ำ หรือเศษรกตกค้างอยู่ในโพรงมดลูก
4. รกฝังตัวแน่นผิดปกติ
5. การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
บทความแนะนำ น้ำคร่ำน้อย ถุงน้ำคร่ำรั่ว เรื่องจริงที่แม่ท้องควรรู้
อาการ
การมีเศษรกหรือเศษถุงน้ำคร่ำค้างอยู่ในโพรงมดลูก และการติดเชื้อบริเวณฝีเย็บ โดยจะมีอาการเป็นไข้ ปวดท้องน้อย น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น และมีเลือดออกหรือหากน้ำคาวปลาที่เคยเปลี่ยนจากสีแดงจางลงแล้วเป็นสีแดงมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือเป็นก้อนเลือดคุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อดูแลรักษาก่อนที่จะตกเลือดหรือมีอาการอักเสบมากกว่าเดิม
การรักษา
1. การรักษาการตกเลือดหลังคลอดเฉียบพลัน ถือเป็นระยะที่อันตราย ที่คุณหมอต้องให้ความช่วยเหลืออย่างรีบด่วน ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดอยู่ในห้องคลอด การรักษาขึ้นกับสาเหตุ ได้แก่
- หากมีการฉีกขาดของช่องทางคลอด คุณหมอจะทำการเย็บซ่อม
- หากมีเศษรกหรือเยื่อหุ้มเด็กค้างในโพรงมดลูก ก็ต้องทำการขูดมดลูก
- หากเสียเลือดมากจากกระบวนการช่วยในการแข็งตัวของเลือดเสียไป ต้องทำการให้เลือด ให้สารช่วยในการแข็งตัวของเลือด
2. การตกเลือดหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นอยู่บ้านแล้ว หรือการตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง มักเกิดจากมีการติดเชื้อ หรือมีเศษรกค้างในโพรงมดลูกไม่มากเลือดที่ออกมักไม่มากเหมือนระยะหลังคลอดใหม่ ๆ
- คุณหมอจะทำการตรวจภายในประเมินสภาพมดลูกก่อน จากนั้นจะทำการตรวจมดลูกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง หรืออัลตราซาวด์ เพื่อดูว่ามีเศษรกค้างอยู่หรือไม่
- หากมีค้างจะพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะก่อน แล้วพิจารณาว่าจะต้องขูดมดลูกหรือไม่
- หากไม่มีเศษรกค้างก็จะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ซึ่งอาจให้ยากลับมารับประทานที่บ้าน
- หรือหากเลือดออกมาก อาจให้นอนโรงพยาบาล เพื่อพิจารณาให้น้ำเกลือและให้เลือดร่วมด้วย
เมื่อทราบเช่นนี้แล้วคุณแม่ควรสังเกตดูตนเองว่ามีสิ่งผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นกับตนเองหรือไม่ โดยเฉพาะอาการเลือดออกหรือปวดท้องมาก ควรไปพบคุณหมอจะดีที่สุดนะคะ
ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ
อ้างอิงข้อมูล
Credit ภาพ : https://www.healthtap.com
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง