คนท้องท้องแข็งอันตรายมั้ย ? อาการท้องแข็ง คือ การปวดบริเวณท้องน้อย มดลูก หรือหัวหน่าว ส่วนท้องแข็งตึงนั้น คือ การที่มดลูกบีบรัดตัวแข็งเป็นก้อนกลม ซึ่งหากทิ้งไว้นาน จะทำให้ปากมดลูกเปิด เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้ โดยสาเหตุที่พบได้บ่อย คือ การติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ
คนท้องท้องแข็งอันตรายมั้ย อาการท้องแข็ง คือ การปวดบริเวณท้องน้อย มดลูก หรือหัวหน่าว ส่วนท้องแข็งตึงนั้น คือ การที่มดลูกบีบรัดตัวแข็งเป็นก้อนกลม
ท้องแข็งแบบต่าง ๆ แยกอย่างไร
อาการท้องแข็ง ตามความหมายของคุณหมอมักจะหมายถึง การบีบตัวของมดลูก เป็นอาการที่พบได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ซึ่งอาการท้องแข็งนี้ มักจะสร้างความกังวลใจให้กับแม่ท้องไม่น้อย บางครั้งพอลุกยืนท้องก็แข็ง ล้มตัวนอนท้องก็แข็งอีก จนแม่ท้องกลัวว่าจะเป็นอันตรายบ้าง กลัวว่าจะเป็นอาการใกล้คลอดบ้าง เรามาดูกันว่า ท้องแข็งแบบต่าง ๆ แยกอย่างไร มีลักษณะแบบไหนบ้าง
อาการท้องแข็งแบบแรกที่เจอกันบ่อย ๆ นั่นก็คือท้องแข็งเพราะลูกโก่งตัว โดยแม่ท้องจะรู้สึกว่ามีอาการท้องแข็งแบบ “แข็งบางที่ นิ่มบางที่” ท้องแข็งแบบนี้ เกิดจากเด็กในท้องดิ้น หรือโก่งตัว โดยอวัยวะของลูกในท้องอย่างเช่น ศอก ไหล่ เข่า หัว หรือก้น จะนูนตรงนั้นตรงนี้ไปทั่ว ส่วนที่มักจะนูนโก่งแข็งจนมดลูกเบี้ยวไปข้างนึงเลยก็มักจะเป็นหลัง กับ ก้น อีกด้านนึงก็จะนิ่มกว่า แล้วก็จะรู้สึกลูกด้นเป็นจุดเล็กจุดน้อย ด้านนั้นก็จะเป็นส่วนของมือ ส่วนของเท้า
สำหรับแม่ท้องบางคน โดยเฉพาะคุณแม่ท้องแก่ อาจจะมีอาการท้องแข็งหลังกินข้าว กินอะไรเข้าไปก็รู้สึกแน่นไปหมด บางครั้งก็แน่นจนแทบหายใจไม่ออก ต้องนั่งสักพัก ยืดตัวยาว ๆ สักพักอาการก็จะดีขึ้นเอง อาการท้องแข็งแบบนี้เกิดจากการที่ความจุของช่องท้องมีพื้นที่จำกัด มดลูกที่โตขึ้นตามอายุครรภ์ไปเบียดแย่งที่กับอวัยวะอื่น ๆ ในช่องท้อง กระเพาะปัสสาวะถูกเบียด กระเพาะอาหารลำไส้ก็ถูกเบียดขึ้นไปจนติดอยู่ใต้กระบังลม พอกินอะไรเข้าไปก็จะรู้สึกแน่นไปหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ที่ตัวเล็ก ๆ สั้น ๆ ก็จะมีอาการแบบนี้ง่ายเป็นพิเศษ
อาการท้องแข็งแบบนี้ ไม่ได้มีส่วนทำให้เกิดอาการเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนดนะครับ โดยมากจะเป็นความรู้สึกท้องแข็งแน่นท้องมากกว่า ถ้าไปพบคุณหมอเมื่อจับมดลูกดูก็จะพบว่า ท้องไม่ค่อยแข็งมาก หรือเรียกว่าอาการท้องตึงมากกว่า และไม่ได้เกิดจากมดลูกมีการบีบตัว คำแนะนำที่ช่วยลดอาการนี้ คือ ควรกินอาหารอ่อน ย่อยง่าย แบ่งอาหารเป็นมื้อย่อย ๆ รับประทานครั้งละน้อย ๆ หลังทานแล้วก็ต้องนั่งให้เรอออกมาก่อน แล้วพยายามอย่าให้ท้องผูก และควรขับถ่ายเป็นประจำทุกวัน ก็จะแน่นท้องน้อยลงครับ
อาการท้องแข็งแบบนี้ มดลูกในท้องของคุณแม่จะมีอาการแข็งทั้งหมด ไม่แข็งเป็นบางจุดเหมือนอาการท้องแข็งเพราะเด็กโก่งตัว และจะมีอาการปวดท้อง เหมือนปวดประจำเดือน อาการท้องแข็งแบบนี้นี่แหละครับที่มักมีปัญหา โดยอาการท้องแข็งเพราะมดลูกบีบตัวนั้น สามารถแยกย่อยได้ดังนี้
-
ท้องแข็งของแท้ (มดลูกบีบตัวก่อนกำหนด)
ปกติแล้ว มักจะไม่ค่อยเกิดขึ้นช่วงก่อน 28 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ ช่วงที่พบว่ามีอาการท้องแข็ง มดลูกบีบตัวก่อนกำหนดบ่อยที่สุด ก็คือช่วงอายุครรภ์ 32 สัปดาห์ ซึ่งก็เป็นช่วงที่ลูกในท้องดิ้นมากที่สุด การที่ลูกดิ้นมาก ๆ ก็อาจมีส่วนไปกระตุ้นทำให้มดลูกบีบตัวบ่อยขึ้นได้ด้วยเหมือนกัน
และถ้าผ่านช่วง 32-34 สัปดาห์นี้ไปแล้ว อาการท้องแข็งก็จะน้อยลง คุณแม่ท้องบางคน พอถึงเวลาครบกำหนดคลอด แต่กลับไม่มีอาการเจ็บท้องคลอด จนบางทีเลยกำหนดไปเลยก็มี
แต่หากแม่ท้องมีอาการท้องแข็งบ่อย และถี่ขึ้น ไม่ได้แข็งเป็นบางจุด และบางทีรู้สึกแข็งมาก หรือแข็งจนรู้สึกแน่นหายใจไม่ออก และอาการไม่ดีขึ้น ควรจะรีบไปพบคุณหมอให้เร็วที่สุด เพราะหากท้องแข็งแล้วไม่ได้รับการดูแลรักษา มดลูกจะบีบตัวจนปากมดลูกเปิด ตามมาด้วยการเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนดได้
-
ท้องแข็งตามธรรมชาติ (Braxton Hicks Contraction)
แม่ท้องบางคนอาจมีอาการท้องแข็งที่เกิดจากมดลูกบีบตัวได้ เป็นการแข็งตัวนิด ๆ หน่อย ๆ ที่เกิดขึ้นได้เองเป็นธรรมชาติ หรือที่เรียกกันว่า Braxton Hicks Contraction แบบนี้ไม่เป็นอันตรายครับ
-
ท้องแข็งจากสาเหตุอื่นๆ
- การร่วมเพศอย่างรุนแรง
- การทำงานหนัก
- พักผ่อนน้อย เป็นผลทำให้มดลูกหดรัด และอาจแท้ง หรือคลอดก่อนกำหนดได้
อย่างไรก็ดี ในคุณแม่ตั้งครรภ์ปกติ อาจมีอาการท้องแข็งตึงได้บ้าง เช่น เวลาพลิกตัว หรือลูกดิ้น แต่หากรู้สึกว่าท้องแข็งบ่อยกว่าปกติ ควรนอนพักผ่อนให้มาก ๆ และถ้าหากนอนพักแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น มีอาการท้องแข็งตึงทุกครึ่งชั่วโมงติด ๆ กัน เป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง ควรให้รีบไปพบแพทย์ทันที โดยไม่ต้องรอให้เกิดอาการขึ้นพร้อมกัน เพราะจะเป็นสาเหตุให้ทารกคลอดก่อนกำหนดได้
อาการท้องแข็ง อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการคลอดก่อนกำหนดได้
ท้องแข็ง อันตราย ห้ามทำสิ่งเหล่านี้
เมื่อแม่ท้องมีอาการท้องแข็ง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรห้ามทำเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้
1. เมื่อท้องแข็ง อย่าจับท้องบ่อย
เพราะยิ่งจับบ่อย ก็ยิ่งแข็งบ่อยนะคะ เพราะมดลูกเป็นอวัยวะที่ประกอบไปด้วย กล้ามเนื้อมากมาย และไวต่อการกระตุ้นมาก เอามือจับไปจับมามดลูกก็แข็งตัวขึ้นมาได้ คุณแม่ที่รู้สึกว่าท้องแข็งบ่อย ๆ มักจะชอบเอามือไปลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่ตลอด ด้วยเป็นกังวลว่า มดลูกมันจะแข็ง ดังนั้น ไม่ควรใช้มือไปลูบท้องบ่อย ๆนะคะ
2. เมื่อท้องแข็ง ห้ามมีเพศสัมพันธ์
ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ ช่วงที่ท้องแข็งบ่อย หากถึงจุดสุดยอดขึ้น มดลูกก็จะมีการบีบตัวเป็นจังหวะตามมาอีก นอกจากนั้นในทางการแพทย์ก็ยังพบว่า ในน้ำอสุจิจะมีสารเคมีที่ชื่อว่า โปรสต้าแกลนดิน สารตัวนี้เป็นตัวการสำคัญของธรรมชาติ ที่ทำให้ปากมดลูกขยายตัวในระหว่างการคลอด ดังนั้น หากมีเพศสัมพันธ์ คุณหมอจะสั่งห้ามให้หลีกเลี่ยงการปล่อยน้ำเชื้อเข้าไปข้างใน เพราะอาจจะกระตุ้นให้เกิดอาการท้องแข็ง และการคลอดได้
4 ข้อห้าม สำหรับคนท้อง ห้ามทำหากมีอาการท้องแข็ง
3. เมื่อท้องแข็ง ห้ามบิดขี้เกียจ
คุณแม่อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ห้ามบิดขี้เกียจจริง ๆ เพราะจะทำให้เกิดอาการท้องแข็ง เปรียบเทียบง่าย ๆ เหมือนกับตอนที่เราบิดผ้าเปียก ๆ นั่นแหละน้ำที่ค้างอยู่ในผ้า จะไหลออกมา เช่นเดียวกับตอนเราบิดขี้เกียจเหมือนกัน ช่องท้องของเราปริมาตรจะเล็กลง ความดันในมดลูกก็สูงขึ้น ท้องก็เลยแข็ง
4. เมื่อท้องแข็ง ห้ามกลั้นปัสสาวะ
อย่ากลั้นปัสสาวะ เพราะบริเวณดังกล่าวอยู่ตรงตำแหน่งที่มดลูกอยู่เดิมนั้น เคยเป็นพื้นที่ของกระเพาะปัสสาวะมาก่อน พอท้องโตขึ้นมา กระเพาะปัสสาวะกับมดลูก ก็เลยต้องเบียด แย่งที่กันอยู่ตรงนั้น ยิ่งท้องโตขึ้นเรื่อย ๆ กระเพาะปัสสาวะ ก็ยิ่งจะถูกเบียดเล็กลงเรื่อย ๆ คุณแม่เลยต้องปัสสาวะบ่อยขึ้น คราวนี้หากกลั้นปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะก็จะโป่งมากขึ้น แล้วก็จะไปกดเบียดมดลูก จนมดลูกมีความดันสูงขึ้น ดังนั้น คุณแม่ก็มักจะท้องแข็งบ่อย ตอนกำลังจะปวดปัสสาวะ พอปัสสาวะออกไปแล้ว อาการท้องแข็งก็บรรเทาลง
ที่มา
1
2
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สร้างสมอง สู่พรสวรรค์ ให้ลูกน้อยไปกับ S- Mom Club ผู้ช่วยที่ดีของคุณแม่ลูกวัย 1-2 ขวบ
อาหารอันตราย ห้ามกินตอนท้องแก่ ใกล้คลอดแล้วห้ามกินอะไรบ้าง
เจ็บท้องหลอก ต่างจากเจ็บท้องจริงอย่างไร เจ็บแบบไหนใกล้คลอด
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!