แม่หลังคลอดท้องผูก ท้องผูกหลังคลอด ต้องแก้ปัญหาให้ถูกจุดยังไง?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือพึ่งคลอดลูกน้อยอาจเจอปัญหาท้องผูกหลังคลอด เมื่อต้องนั่งขับถ่ายเป็นเวลานาน ๆ ก็ทำให้เกิดอาการทรมานและปวดท้องอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ แม่หลังคลอดท้องผูก อาจเกิดจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ พักผ่อนไม่เพียง หรือไม่ออกกำลังกาย วันนี้เราจะพามาดูกันว่าจริง ๆ แล้ว อาการท้องผูกหลังคลอดนั้นเกิดจากอะไร และมีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง ไปติดตามพร้อมกันค่ะ

 

แม่หลังคลอดท้องผูก เกิดจากอะไร

อาการท้องผูกหลังคลอด สามารถเกิดขึ้นได้ ถึง 50% แม้ว่าจะคลอดตัวเจ้าน้อยออกมาแล้วก็ตาม ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจาก

  • เกิดจากการเจ็บแผลหลังคลอด ไม่ว่าจะเป็นการคลอดเองหรือโดยการผ่าตัดหน้าท้อง ที่ทำให้คุณแม่ไม่กล้าเบ่ง กลัวแผลกระทบกระเทือน และแม่บางคนอาจจะมีความเจ็บมากเวลาถ่ายเพราะโรคริดสีดวงทวารด้วย
  • แม่ที่คลอดลูกแบบผ่าตัด หลังคลอดอาจมีอาการท้องผูกซัก 1-2 อาทิตย์ เพราะลำไส้อาจจะคืนสภาพทำงานปกติได้ช้า อันเป็นผลเนื่องมาจากการผ่าตัด
  • ตัวยาบางชนิดที่ใช้ระงับความเจ็บปวดจากการคลอด อาจส่งผลให้มีอาการท้องผูกได้
  • ยาวิตามินที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็ก ก็ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้
  • สภาพจิตใจหลังคลอดที่มีความกังวลหลายอย่าง หรืออาจจะไม่คุ้นชินกับโรงพยาบาล ไม่มีความเป็นส่วนตัว ทำให้คุณแม่ไม่สามารถถ่ายอุจจาระได้
  • การรับประทานอาหารของคุณแม่ ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก เช่น ไม่ค่อยรับประทานผัก ผลไม้ หรือดื่มน้ำน้อย
  • เลี้ยงลูกคนเดียว ไม่มีเวลาเข้าห้องน้ำ จนต้องทำให้กลั้นอุจจาระบ่อย ๆ ส่งผลให้ท้องผูก

การถ่ายอุจจาระหลังคลอดจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่คุณแม่ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เนื่องจากในระหว่างที่คุณแม่คลอดลูกนั้น ลำไส้ส่วนล่างที่มีหน้าที่ควบคุมการขับถ่ายจะได้รับความกระทบกระเทือน ประกอบกับลำไส้ถูกกดทับโดยมดลูกเป็นระยะเวลานาน รวมถึงการถูกสวนอุจจาระในช่วงก่อนการคลอด ทำให้กากอาหารภายในลำไส้ส่วนล่างถูกขับออกมาจนหมด

บทความที่เกี่ยวข้อง : สาเหตุอาการท้องผูก เกิดจากอะไร อาการแบบไหนที่เรียกว่าท้องผูก?

 

 

แม่หลังคลอดท้องผูก ต้องแก้ปัญหาให้ถูกจุดยังไง

แม้ว่าอาการท้องผูกหลังคลอด จะไม่ใช่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงมากเท่าไหร่ แต่ก็สร้างความทรมานให้แก่คุณแม่เป็นอย่างมาก คุณแม่จึงไม่ควรปล่อยไว้ และควรแก้ปัญหาให้ถูกจุดด้วยวิธีดังนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • คุณแม่ควรรับประทานอาหารที่มีกากใยเพิ่มมากขึ้น ทั้งผลไม้สดและผักสด รวมถึงธัญพืชต่าง ๆ
  • ดื่มน้ำให้เยอะหรือน้ำผลไม้ อย่างน้อย 7-10 แก้วต่อวัน เพราะน้ำจะช่วยให้กากอาหารในลำไส้มีความอ่อนตัว สามารถเคลื่อนไปตามลำไส้ได้สะดวก และทำให้ถ่ายง่ายขึ้น
  • ออกกำลังกายด้วยการลุกขึ้นเดินบ่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ที่คลอดโดยการผ่าตัดหน้าท้อง การเดินจะเป็นการกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
  • หมั่นขมิบก้นและช่องคลอด
  • พยายามขับถ่ายบ่อย ๆ แม้จะไม่มีการขับถ่ายขึ้น แต่ก็อย่าลืมเข้าห้องน้ำ คุณแม่ควรเบ่งเบา ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขับถ่าย เพราะหากคุณแม่ไม่ถ่ายอุจจาระ ก็อาจทำให้เกิดริดสีดวงทวารได้
  • ไม่ควรกลั้นอุจจาระเพราะกลัวเจ็บแผล เพราะการถ่ายอุจจาระจะไม่ทำให้แผลที่เย็บกระทบกระเทือนอยู่แล้ว
  • ไม่ควรเบ่งแรงเวลาถ่าย เพราะการเบ่งจะส่งทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนักได้
  • ปรับเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ เพื่อกระตุ้นให้ลำไส้เคลื่อนไหว และขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
  • หากคุณแม่มีอาการริดสีดวงทวารหนักอยู่แล้ว ให้ประคบด้วยน้ำอุ่นหรือนั่งแช่ในน้ำอุ่นจะช่วยบรรเทาอาการอักเสบของริดสีดวงทวารได้
  • ใช้ยาระบายอ่อน ๆ ตามแพทย์สั่ง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขับถ่าย เพราะหากไม่ยอมขับถ่ายหลังจากคลอดลูก ก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาท้องผูกเรื้อรัง หรือริดสีดวงทวารได้
  • อย่าลืมพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อให้การทำงานของร่างกาย ทำงานได้อย่างปกติ และจะช่วยให้ระบบขับถ่ายกลับมาเป็นปกติได้เหมือนเดิม

หากวิธีดังกล่าวช่วยแก้ปัญหาอาการท้องผูกของแม่หลังคลอดไม่ได้ผล ควรจะปรึกษาคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำหรือขอรับยาถ่าย เพื่อช่วยทำให้อุจจาระนิ่มลง ถ่ายได้ง่ายขึ้น ปลดล็อกอาการท้องผูกให้กับคุณแม่หลังคลอดได้ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

7 อาหารที่ช่วยแก้ท้องผูกสำหรับแม่หลังคลอด

เมื่อมีปัญหาท้องผูก คุณแม่หลาย ๆ อาจรับประทานอาหารเสริมหรือยาระบาย แต่ทราบไหมว่าหากรับประทานมาก ๆ ก็อาจทำให้ท้องผูกหนักกว่าเดิมได้ เรามาดูอาหารธรรมชาติที่มีกากใยสูงและมีจุลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกาย ช่วยแก้อาการท้องผูกหลังคลอดกันค่ะ

 

1. แอปเปิล

เป็นที่รู้กันว่าการรับประทานผลไม้จะช่วยแก้อาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี เพราะผลไม้มีกากใยอาหารที่สูง โดยเฉพาะแอปเปิล ซึ่งทำหน้าที่เป็นยาระบายตามธรรมชาติ คุณแม่สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก แถมยังมีน้ำในปริมาณมาก ช่วยย่อยอาหาร และป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

2. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ถือเป็น “Super Food” เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระมาก อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น และสามารถช่วยแก้อาการท้องผูกได้ ไม่ว่าจะเป็นแบล็กเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี และแบล็กเบอร์รี คุณแม่สามารถรับประทานแบบเปล่า ๆ หรือจะผสมลงในซีเรียลหรือโยเกิร์ตก็ได้

 

3. ถั่ว

รู้หรือไม่ว่าถั่วชนิดต่าง ๆ เช่น ถั่วลันเตา ถั่วลูกไก่ ถั่วขาว และถั่วเลนทิล จะมีไฟเบอร์สูง 10 กรัมต่อ 1 ถ้วย และอุดมไปด้วยใยอาหารที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ทำให้กระตุ้นการทำงานของลำไส้ได้ดี ช่วยให้คุณแม่ถ่ายอุจจาระคล่องและนิ่ม ไม่ต้องกลัวท้องผูก

 

4. โยเกิร์ต

แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์จากนมอย่าง “โยเกิร์ต” มีโปรไบโอติก ที่อยู่ในจุลินทรีย์ชนิดดี ช่วยทำให้สุขภาพของลำไส้ดีขึ้น และทำให้อุจจาระนิ่มลง นักวิจัยพบว่าการรับประทานโยเกิร์ต 180 มิลลิลิตรทุกเช้า เป็นเวลา 2 สัปดาห์ จะช่วยให้อาหารเคลื่อนผ่านลำไส้ได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาท้องผูกเรื้อรัง

บทความที่เกี่ยวข้อง : อาหารแก้ท้องผูกสำหรับคนท้อง แม่ตั้งครรภ์ท้องผูก มีวิธีแก้ยังไงบ้าง

 

 

5. เมล็ดเจีย

อีกหนึ่งอาหารที่ช่วยแก้ท้องผูกได้ คือ เมล็ดเจีย หรือ เมล็ดเชีย ที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักของอุจจาระ ทำให้อุจจาระนิ่ม ขับถ่ายได้สะดวก วิธีรับประทานเมล็ดเจีย ให้คุณแม่โรยลงในสลัด สมูทตี้ หรือโยเกิร์ต หลีกเลี่ยงการรับประทานแบบดิบ เพราะอาจทำให้ท้องอืด ท้องผูก และท้องเฟ้อมากกว่าเดิม

 

6. ขนมปังโฮลวีต

ขนมปังโฮลวีต เป็นแหล่งของไฟเบอร์ชั้นดี เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะเพิ่มน้ำหนักให้กับอุจจาระ ทำให้ขับถ่ายได้ดีมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นอาหารที่ดีกับลำไส้และหัวใจด้วย ดังนั้น หากคุณแม่ต้องการเร่งการขับถ่ายอุจจาระ แนะนำให้รับประทานขนมปังโฮลวีตด้วยไม่ต้องนำไปปรุงอะไรเพิ่ม

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

7. บรอกโคลี

บรอกโคลีมีสารซัลโฟราเฟนที่ช่วยดูแลระบบทางเดินอาหาร ช่วยป้องกันการเติบโตของจุลินทรีย์ในลำไส้บางชนิดที่มาขัดขวางการย่อยอาหาร เมื่อคุณแม่รับประทานเป็นประจำจะช่วยแก้อาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นแหล่งของสารอาหารชนิดอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น โปรตีน วิตามิน และไฟเบอร์ เป็นต้น

 

แม่หลังคลอดท้องผูก มักเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป และจะค่อย ๆ หายดีขึ้นตามลำดับ จนคุณแม่กลับมาขับถ่ายเป็นปกติ เพราะฉะนั้น คุณแม่ควรรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้น หากมีอาการท้องผูกคลอดติดต่อกัน 4 วัน หรือมากกว่านั้น ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

อยากรู้มั้ย? ทำอย่างไรให้จบปัญหาท้องผูก ในแบบแม่แฮปปี้ ลูกก็แฮปปี้

คนท้องกินฟิตเน่ได้ไหม อันตรายต่อลูกหรือไม่ แม่ท้องท้องผูกต้องกินอะไร

อาการท้องผูกของคุณแม่ตั้งครรภ์ หากแก้ไขไม่ทันอาจส่งผลเสียมากกว่าที่คิด

ที่มา : mamastory, hellokhunmor, vogue, maerakluke

บทความโดย

Sittikorn Klanarong