เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดย อาการท้องผูก ในระหว่างการตั้งครรภ์เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คุณแม่หลายคนต้องเผชิญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก รวมทั้งยังทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวและสร้างความอึดอัดได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นปัญหา อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์ หากปล่อยเอาไว้นานโดยที่ไม่ได้มีการแก้ไข จะลุกลามกลายเป็นอันตรายต่อร่างกายของคุณแม่ได้มากกว่าที่คิด
ปัญหาท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์ อันตรายหรือไม่
หากคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์พบว่าตนเองมีปัญหาอาการท้องผูกอยู่ในขณะนี้ ก็ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะอาการท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์เป็นหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติทางร่างกายที่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ โดยอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ถ่ายเป็นเลือด หรือริดสีดวงทวาร ซึ่งอาการเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้เช่นเดียวกัน
ถึงแม้ว่าอาการท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์อาจฟังดูแล้วไม่ใช่เรื่องอันตรายร้ายแรงมากเท่าไร แต่อาการเหล่านี้สามารถส่งผลต่อความรู้สึกของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ทำให้เกิดอาการไม่สบายตัว อึดอัด หรือหงุดหงิด ที่ล้วนแล้วมาจากการถ่ายไม่ออกและอาการท้องอืด ดังนั้น การขับถ่ายตามปกติย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์ได้อย่างแน่นอน
ปัญหาท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลต่อคุณแม่ที่ทำ IVF และ ICSI อย่างไร
สำหรับคุณแม่ที่ผ่านการทำ IVF และ ICSI จะมีโอกาสเกิดภาวะท้องผูกในระหว่างการตั้งครรภ์ได้มากกว่าคนปกติทั่วไป เนื่องจากผู้ที่ทำ IVF และ ICSI จะต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ โดยส่วนใหญ่แล้วคือการให้คุณแม่ขยับตัวน้อยที่สุด ไม่ควรลุกนั่งบ่อย ห้ามออกกำลังกาย หรือห้ามยกของหนัก เพราะพฤติกรรมเหล่านี้เสี่ยงต่อภาวะแท้งบุตรได้ จึงสร้างความกังวลใจให้กับคุณแม่ที่ผ่านการทำ IVF และ ICSI ได้เป็นอย่างมาก รวมทั้งยังมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดปัญหาท้องผูกในระหว่างการตั้งครรภ์
นอกจากนี้ อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ผ่านการทำ IVF และ ICSI รวมถึงคุณแม่ที่อยู่ในช่วงแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ และมีปัญหาท้องผูกเป็นประจำ คือ ความกังวลที่ไม่กล้าเบ่งอุจจาระแรง ๆ เพราะกลัวว่าตัวอ่อนจะหลุดออกมา ซึ่งการออกแรงเบ่งอุจจาระโดยปกติแล้วจะไม่รุนแรงถึงขนาดที่ก่อให้เกิดอันตรายกับตัวอ่อนได้ แต่ในทางตรงกันข้ามการเบ่งอุจจาระรุนแรงเป็นประจำก็จะทำให้เกิดริดสีดวงทวารได้ หรือหากกลั้นอุจจาระไว้นาน ๆ จนเกิดอาการท้องผูกเรื้อรังก็จะส่งผลให้คุณแม่อึดอัด ไม่สบายท้อง รู้สึกอารมณ์ไม่ดี ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะกระทบต่อสภาพอารมณ์ของทารกที่อยู่ในครรภ์ได้โดยตรง
วิธีป้องกันอาการท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์
อาการท้องผูกในระหว่างการตั้งครรภ์สามารถบรรเทาและป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิต รวมไปถึงการเลือกรับประทานอาหารด้วยเช่นกัน โดยมีวิธีการปฏิบัติตัว ดังนี้
- รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรเพิ่มการรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหาร เพราะจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายและอาการท้องผูกให้ดีขึ้น โดยอาหารที่มีไฟเบอร์จะมาจากผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ฝรั่ง ผักโขม อัลมอนต์ เป็นต้น ควรรับประทานอย่างน้อย 25-30 กรัมต่อวัน
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรดื่มน้ำ 10-12 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 2,400-2,800 มิลลิลิตร เพื่อเข้าไปเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ไฟเบอร์จากอาหารทำงานได้ดีขึ้น รวมทั้งยังส่งผลดีต่อการขับของเสียออกจากร่างกายได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างน้ำคร่ำเพื่อหล่อเลี้ยงทารกในครรภ์ และตีต่อระบบไหลเวียนโลหิตของตัวคุณแม่และลูกน้อย
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและเลือกชนิดกีฬาที่เหมาะสำหรับช่วงตั้งครรภ์ เช่น โยคะ ว่ายน้ำ หรือเดิน เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 20-30 นาที เพื่อช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่ตั้งครรภ์กำลังเผชิญกับปัญหาอาการท้องผูกอยู่ในตอนนี้ แล้วได้ทำตามวิธีป้องกันหรือแนวทางต่าง ๆ แต่กลับพบว่าอาการยังไม่ดีขึ้น ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอาการได้อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ คุณแม่ยังสามารถเสริมด้วยผลิตภัณฑ์แก้ปัญหาสุขภาพลำไส้และแก้อาการท้องผูกก็เป็นหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับในวงการสูตินรีแพทย์ในประเทศญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน มีชื่อว่า Lactis
Lactis ผลิตภัณฑ์ป้องกันและแก้ท้องผูกสำหรับแม่ท้องอันดับ 1 ที่หมอญี่ปุ่นแนะนำ
Lactis ผลิตภัณฑ์ป้องกันและแก้อาการท้องผูกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ถูกคิดค้นและพัฒนามาจากโรงงานโยเกิร์ตแห่งแรกในญี่ปุ่นที่มีอายุยาวนานถึง 100 ปี และยังเป็นที่รู้จักของคุณแม่ตั้งครรภ์ในญี่ปุ่นยาวนานกว่า 30 ปี อีกด้วย โดยในปี ค.ศ. 2011 ทางสมาคมคนท้องในประเทศญี่ปุ่น (Japan Society of Maternal Health Journal Volume 52, Edition 3, 2011, P.135) ได้แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รับประทานผลิตภัณฑ์ Lactis เพื่อช่วยแก้ปัญหาอาการท้องผูกและท้องอืดในระหว่างตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย
โดยขั้นตอนการผลิตของ Lactis เป็นกระบวนการหมักนมถั่วเหลืองด้วยจุลินทรีย์ชนิดดีมากถึง 16 สายพันธุ์ บ่มเป็นเวลานานกว่า 1 ปี ซึ่งมีความแตกต่างจากวิธีการทำโยเกิร์ตแบบทั่วไปที่จะใช้วิธีการหมักนมวัวเป็นเวลาเพียง 1 วัน และความแตกต่างนี้จึงทำให้การรับประทาน Lactis 1 ซอง มีประสิทธิภาพสูงเทียบเท่ากับการทานโยเกิร์ตมากถึง 30 ถ้วย เลยทีเดียว
นอกจากนี้ ทุกกระบวนการผลิตยังปราศจากสารเคมีปนเปื้อน คุณแม่ทุกคนจึงคลายความกังวลและมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ Lactis ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์อย่างแน่นอน โดยทางสถาบันการแพทย์ในประเทศญี่ปุ่นกว่า 2,000 แห่ง มั่นใจแนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รับประทาน Lactis เพื่อป้องกันและบรรเทาอาการท้องผูก และขับถ่ายไม่ดี
ด้วยผลวิจัยที่มีมาอย่างยาวนาน รวมถึงการได้รับการยอมรับจากสถาบันการแพทย์ในญี่ปุ่น จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ Lactis มีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมากและได้รับความไว้วางใจจากคุณแม่ตั้งครรภ์ในเรื่องของการแก้ปัญหาและบรรเทาอาการท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์ให้หมดไป ซึ่งการรับประทาน Lactis สม่ำเสมอเป็นเวลาติดต่อกัน 30 วัน จะช่วยปรับสมดุลของระบบการทำงานของลำไส้ ช่วยแก้ปัญหาอาการท้องผูกและท้องเสียได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และสุขภาพผิวพรรณให้ดูดีสดใสสมวัยได้อีกด้วย
สนใจผลิตภัณฑ์ของ Lactis สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือช้อปสินค้าออนไลน์ ได้ที่ Palmer’s Thailand – หน้าหลัก | Facebook
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!