X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ทารกถ่ายวันละกี่ครั้ง เด็กทารกไม่ถ่ายได้กี่วัน สีอุจจาระของทารกบ่งบอกอะไร

บทความ 8 นาที
ทารกถ่ายวันละกี่ครั้ง เด็กทารกไม่ถ่ายได้กี่วัน สีอุจจาระของทารกบ่งบอกอะไร

ทารกถ่ายวันละกี่ครั้ง ถ่ายแบบไหนผิดปกติ สีอุจจาระบ่งบอกอะไร เรามาดูกันค่ะ ว่า เด็กทารกควรถ่ายวันละกี่ครั้ง เด็กทารกไม่ถ่ายได้กี่วัน และสีอุจจาระแบบไหนบ่งบอกว่าลูกสุขภาพดี

ระบบขับถ่ายของทารกแรกเกิด

ทารกแรกเกิดมีระบบขับถ่ายที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ เช่นเดียวกับอวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย ดังนั้น การขับถ่ายของทารกจะแตกต่างจากผู้ใหญ่ มาทำความเข้าใจระบบขับถ่ายของทารกกัน

ลักษณะอุจจาระของทารก

  • สี: อุจจาระของทารกแรกเกิดจะมีสีดำหรือสีเขียวเข้ม หลังจากนั้น อุจจาระจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองปกติ
  • เนื้อ: อุจจาระของทารกจะมีลักษณะเป็นยางเหนียวหรือเหลว คล้ายกับครีม เนื่องจากทารกได้รับสารอาหารจากน้ำนมแม่หรือนมผง ซึ่งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก
  • กลิ่น: อุจจาระของทารกจะมีกลิ่นอ่อนๆ ไม่ค่อยเหม็น

 

ทารกถ่ายวันละกี่ครั้ง การขับถ่ายทารกตั้งแต่แรกเกิด-12เดือน

สิ่งทำให้คุณแม่เป็นกังวล มักจะเป็นเรื่องของการขับถ่ายของทารกแต่ละช่วงวัย เช่น ทารก 2 เดือน ถ่ายวันละกี่ครั้ง ทารก4เดือนถ่ายวันละกี่ครั้ง ทารก 6 เดือน ถ่ายกี่ครั้ง มาดูคำตอบกันว่า ทารกอุจจาระวันละกี่ครั้ง ถือว่า ปกติ

อายุ อุจจาระ/วัน
1-30 วัน 10 ครั้ง
1-4 เดือน 8-10ครั้ง
5-6 เดือน 2-5 ครั้ง
6-8 เดือน 2-5 ครั้ง
9-11 เดือน 2-5 ครั้ง
12 เดือน

ขึ้นไป

1-3 ครั้ง

 

Advertisement

ทารกแรกเกิดถ่ายบ่อยแค่ไหน

ทารกแรกเกิดถ่ายบ่อยแค่ไหน?

  • ทารกที่กินนมแม่ ทารกที่กินนมแม่จะถ่ายอุจจาระบ่อยมาก โดยทั่วไปแล้ว จะถ่าย 10-12 ครั้งต่อวัน ในช่วงสัปดาห์แรกของชีวิต สาเหตุที่ทารกถ่ายบ่อย เพราะน้ำนมแม่ย่อยง่าย ทารกดูดซึมสารอาหารได้เกือบทั้งหมด อุจจาระจึงมีกากน้อย มีน้ำมาก ทารกจึงถ่ายบ่อย
  • ทารกที่กินนมผง ทารกที่กินนมผงจะถ่ายอุจจาระ 1-4 ครั้งต่อวัน สาเหตุที่ทารกถ่ายน้อยกว่า เพราะนมผงย่อยยากกว่านมแม่ ทารกที่กินนมผงจึงถ่ายยากกว่าทารกที่กินนมแม่

ลูกน้อยถ่ายบ่อย ลูกน้อยไม่ถ่าย ปริมาณความถี่แบบไหน ถือว่าไม่ปกติ?

ในความเป็นจริงแล้ว ความถี่ในการขับถ่ายของเด็กทารก ไม่สามารถเป็นตัวชี้วัดของความผิดปกติได้เสมอไปค่ะ สิ่งที่จะบ่งชี้ได้ว่าการขับถ่ายของลูกน้อยผิดปกติไป จะต้องมีปัจจัยเหล่านี้ร่วมด้วยค่ะ อาทิ

  • อุจจาระของลูกน้อยที่กินนมแม่ไม่ใช่สีเหลือง แต่เป็นสีน้ำตาล สีเหลืองซีด สีเขียว หรือสีดำ
  • อุจจาระมีมูกเลือดปน
  • ลูกน้อยมีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำมากกว่า 1 วัน
  • ลูกน้อยถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์
  • ลูกน้อยถ่ายอุจจาระเป็นก้อนแข็ง
  • ลูกน้อยถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ

กรณีเหล่านี้ ถือว่าเป็นความผิดปกติของการขับถ่าย แม่ ๆ จำเป็นจะต้องสังเกตให้ดี หากลูกมีอาการเหล่านี้ควรพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาค่ะ

 

สีอุจจาระของทารกบ่งบอกอะไร

เด็กทารกควรถ่ายวันละกี่ครั้ง

ทารกถ่ายวันละกี่ครั้ง

  • สีอุจจาระทารก สีเทา หรือขี้เทา

จะเกิดกับทารกที่เพิ่งเกิดได้เพียงไม่กี่วัน เกิดจากเมือก น้ำคร่ำ เซลล์ผิวหนังและสิ่งอื่น ๆ ที่ทารกบริโภคขณะอยู่ในครรภ์ ลักษณะหนืดและเหนียวคล้ายน้ำมันเครื่องรถยนต์และไม่ค่อยมีกลิ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นปกติ และเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าลำไส้ของทารกทำงานได้ดี

  • สีอุจจาระทารก สีดำ

หากทารกอุจจาระสีดำติดต่อกันหลังจาก 3 วันแรก ควรไปปรึกษากุมารแพทย์

  • สีอุจจาระทารก สีเหลืองทอง

เป็นสีอุจจาระของทารกที่ดื่มนมแม่ เมื่อทารกดื่มนมแม่อุจจาระของทารกจะมีสีเหลืองทอง ลักษณะจะเหมือนครีมเหลว ๆ เละ ๆ แต่กลิ่นจะไม่รุนแรง

  • สีอุจจาระทารก สีเขียว

อุจจาระเป็นน้ำที่มีสีเขียวกว่าปกติและถ่ายหลายครั้งต่อวัน อาจบ่งบอกได้ว่าลูกน้อยกำลังท้องเสีย มักเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอาหารหรือนมของลูกน้อย หรือบ่งบอกถึงอาการแพ้อาหารที่ทานเข้าไป และอาการท้องเสียอย่างรุนแรงอาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่ร้ายแรงได้ เช่น ไวรัสหรือการติดเชื้อ หากทารกอุจจาระแล้วมีสีเขียวลักษณะเป็นฟอง อาจหมายความว่าแม่ให้นมแต่ละข้างกับทารกไม่นานพอ ทำให้ทารกกินน้ำนมส่วนหน้า (Foremilk) เยอะเกินไป

  • สีอุจจาระทารก สีเหลืองน้ำตาล

เป็นสีอุจจาระของทารกที่ดื่มนมผงสำหรับทารก เมื่อทารกกินนมผงจะทำให้อุจจาระออกมามีสีเหลืองปนน้ำตาล ลักษณะคล้ายเนยถั่วหรือแป้งเปียก และมีกลิ่นรุนแรงกว่าอุจจาระของทารกที่ดื่มนมแม่

  • สีอุจจาระทารก สีน้ำตาลหรือน้ำตาลเข้ม

เป็นสีอุจจาระของทารกที่กินอาหารแข็ง เมื่อผู้ปกครองเปลี่ยนอาหารของทารกเป็นอาหารแข็ง เช่น ข้าวหรือกล้วยบด จะทำให้อุจจาระเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล หรือสีน้ำตาลเข้ม ลักษณะเหนียว ๆ เละ ๆ และกลิ่นแรงขึ้น

 

เด็กทารกไม่ถ่ายได้กี่วัน รู้ได้อย่างไรว่าทารกท้องผูก

ทารกแรกเกิด ไม่จำเป็นต้องถ่ายอุจจาระทุกวัน โดยเฉพาะทารกที่กินนมแม่ ทารกบางคนอาจใช้เวลา หลายวัน กว่าจะถ่ายอุจจาระ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ

  • ทารกที่กินนมแม่: ทารกที่กินนมแม่สามารถไม่ถ่ายอุจจาระได้ นานถึง 7 วัน โดยที่อุจจาระไม่แข็ง และยังถือว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้เป็นอาการท้องผูก สาเหตุที่ทารกถ่ายน้อย เพราะน้ำนมแม่ย่อยง่าย ทารกดูดซึมสารอาหารได้เกือบทั้งหมด จึงเหลือของเสียออกมาเป็นอุจจาระน้อย
  • ทารกที่กินนมผง: แม้ว่าทารกที่กินนมผงจะค่อนข้างถ่ายยากกว่าทารกที่กินนมแม่ ซึ่งทารกอาจไม่ถ่ายอุจจาระได้ นานถึง 3-4 วัน โดยที่อุจจาระไม่แข็งเป็นเม็ดคล้ายลูกกระสุน ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องปกติ
  • ไม่ค่อยถ่าย ความถี่ในการขับถ่ายแต่ละวันของทารกนั้นไม่แน่นอน โดยเฉพาะในช่วงที่เพิ่งเริ่มหัดกินอาหารใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม หากสังเกตว่าทารกไม่ได้ขับถ่ายติดต่อกันนานกว่า 2-3 วัน อาจเป็นสัญญาณของอาการท้องผูกได้
  • ต้องออกแรงเบ่งอุจจาระ พ่อแม่ควรสังเกตว่าเด็กต้องออกแรงเบ่งอุจจาระมากกว่าปกติ หรือรู้สึกหงุดหงิดและร้องไห้เวลาขับถ่ายหรือไม่ หากมีอาการเหล่านี้ เด็กอาจประสบภาวะท้องผูกอยู่
  • มีเลือดปนอุจจาระ ทารกที่ท้องผูกอาจมีเลือดปนมากับอุจจาระได้ เนื่องจากผนังทวารหนักฉีกขาดจากการออกแรงเบ่งอุจจาระ
  • ไม่กินอาหาร ทารกจะไม่กินอาหารและมักรู้สึกอิ่มเร็ว เนื่องจากอึดอัดและไม่สบายท้องจากการไม่ได้ขับถ่ายของเสีย
  • ท้องแข็ง ลักษณะท้องของทารกจะตึง แน่น หรือแข็ง ซึ่งเป็นอาการท้องอืดที่เกิดขึ้นร่วมกับการมีท้องผูก

 

สาเหตุอาการท้องผูกของทารก

เด็กทารกควรถ่ายวันละกี่ครั้ง
บทความจากพันธมิตร
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
Easy Life III เครื่องปั๊มนม Hands-Free จากแบรนด์ไทยอย่าง Attitude Mom ออกแบบเพื่อชีวิตการปั๊มนมของคุณแม่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมพร้อมการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ
Easy Life III เครื่องปั๊มนม Hands-Free จากแบรนด์ไทยอย่าง Attitude Mom ออกแบบเพื่อชีวิตการปั๊มนมของคุณแม่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมพร้อมการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ

เด็กทารกควรถ่ายวันละกี่ครั้ง

ทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือน

  • ปัญหาสุขภาพ
    หากทารกอายุน้อยกว่า 1 เดือนที่มีอาการท้องผูกควรได้รับการดูแลจากกุมารแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจเป็นอาการของภาวะลำไส้ใหญ่โป่งพองแต่กำเนิด (Hirschsprung’s Disease: HD) มีโอกาสเกิดขึ้นประมาณ 1 ใน 5,000 คน และจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
  • น้ำนม
    ส่วนใหญ่ทารกที่ดื่มนมแม่มักไม่เกิดปัญหาท้องผูก เนื่องจากน้ำนมแม่มีไขมันและโปรตีนที่ช่วยให้อุจจาระไม่แข็งตัว ส่งผลให้ขับถ่ายง่าย อย่างไรก็ตาม เด็กอาจถ่ายไม่ออก เนื่องจากแพ้โปรตีนในน้ำนมหรืออาหารบางอย่างที่คุณแม่รับประทานเข้าไปและไหลผ่านน้ำนมไปสู่ลูก
  • คลอดก่อนกำหนด
    ทารกคลอดก่อนกำหนดที่ท้องผูกจะมีอาการแย่กว่าเด็กทั่วไป เนื่องจากระบบย่อยอาหารยังเจริญไม่เต็มที่ ส่งผลให้อาหารที่รับประทานเข้าไปเคลื่อนผ่านทางเดินอาหารช้าและย่อยได้ไม่สมบูรณ์ อุจจาระจึงมีลักษณะแห้งและแข็ง

 

ทารกอายุ 6 เดือนขึ้นไป

  • นมชง
    เด็กที่ดื่มนมชงเพียงอย่างเดียวเสี่ยงเกิดท้องผูกได้มาก เนื่องจากนมชงมีส่วนผสมที่อาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานมากขึ้น ส่งผลให้อุจจาระเป็นก้อน นอกจากนี้ หากทารกแพ้โปรตีนในน้ำนมก็อาจเกิดอาการท้องผูกได้
  • อาหารต่าง ๆ
    ทารกอาจท้องผูกหลังเปลี่ยนจากการดื่มนมแม่มาเป็นการรับประทานอาหารอื่น ๆ เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับของเหลวในปริมาณเท่าเดิม อีกทั้งอาหารบางอย่างมีเส้นใยต่ำ ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ง่าย
  • ภาวะขาดน้ำ
    หากทารกประสบภาวะขาดน้ำหรือได้รับน้ำไม่เพียงพอ ร่างกายจะดูดซึมน้ำจากอาหารที่กินเข้าไป รวมถึงน้ำจากกากของเสียในร่างกาย ส่งผลให้อุจจาระแห้งและแข็งจนขับถ่ายลำบาก
  • อาการป่วยและยา
    อาการท้องผูกในทารกอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น ไฮโปไทรอยด์ โบทูลิซึม (Botulism) อาการแพ้อาหารบางชนิด โรคเกี่ยวกับระบบการเผาผลาญอาหาร เป็นต้น รวมถึงอาการป่วยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลให้เด็กกินอาหารหรือดื่มน้ำน้อยลง ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายผิดปกติและนำไปสู่ปัญหาท้องผูก นอกจากนี้ การใช้ยาระงับปวดชนิดเสพติดหรือธาตุเหล็กในปริมาณสูงก็ทำให้เกิดท้องผูกได้

 

สังเกตอาการท้องผูกลูกน้อยอย่างไร?

สิ่งที่สามารถสังเกตได้ง่ายๆ เลยคือ เมื่อลูกน้อยขับถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 2 ครั้ง ต่อ สัปดาห์ ซึ่งเป็นเวลามากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป ที่สำคัญในขณะถ่าย เด็กจะเบ่งนาน และอาจมีอาการท้องอืด แน่นท้อง ในบางครั้ง ซึ่งถ้าหากปล่อยไว้นาน ลูกจะเริ่มมีอาการปวดบริเวณรูทวารหนัก ส่งผลให้อาจมีแผลปริแตกหรือบวม อุจจาระมีเลือด ในบางกรณีถ้าหากลูกต้องเบ่งอุจจาระที่มีขนาดใหญ่และแข็ง อาจทำให้ติ่งเนื้อที่ก้นฉีกขาดได้ ส่งผลให้เกิดอาการเรื้อรังตามมาค่ะ

และเมื่อเกิดอาการท้องผูกเรื้อรัง ลูกอาจจะมีพฤติกรรมแปลก ๆ อย่างเช่น พยายามกลั้นอุจจาระ ยืนเบ่ง ไม่กล้านั่งถ่าย เขย่งเท้า ขาเกร็ง หนีบก้นจนหน้าซีดเหงื่อออก หรือถ้าหากคุณแม่พยายามจับลูกให้นั่งถ่าย ลูกก็จะร้องไห้ต่อต้านไม่ยอมทำ ซึ่งหากปล่อยไว้นาน ๆ ปริมาณน้ำจะถูกดูดซึมออกจากอุจจาระมากขึ้น ทำให้อุจจาระมีลักษณะที่แข็งและเป็นก้อนใหญ่ ขับถ่ายลำบากกว่าเดิม ซึ่งอาจส่งผลให้ระบบประสาทรับรู้ความรู้สึกที่ผนังลำไส้ใหญ่ส่วนปลายเกิดการเสียหาย ทำให้ความรู้สึกอุจจาระก็จะลดลง ภาวะนี้จะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในการรักษาเพื่อทำให้กลับมาเป็นปกติค่ะ

 

ป้องกันไม่ให้ทารกท้องผูกได้อย่างไร

  • ปรับการกินอาหารของทารก

ทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือน โดยทั่วไปแล้ว ทารกวัยนี้จะดื่มนมแม่เพียงอย่างเดียว ทำให้ไม่ค่อยมีอาการท้องผูก อย่างไรก็ตาม อาการท้องผูกอาจเกิดจากการแพ้อาหารที่แม่รับประทานเข้าไป คุณแม่ที่ให้นมบุตรจึงควรเลี่ยงอาหารที่ส่งผลต่อการขับถ่ายของลูก

ทารกอายุ 6 เดือนขึ้นไป ทารกวัยนี้เริ่มหัดกินอาหารอื่นร่วมกับนมแม่หรือนมชงได้แล้ว พ่อแม่จึงควรปรับการกินอาหารของทารกเพื่อป้องกันปัญหาท้องผูก ดังนี้

  • เปลี่ยนการให้นม ทารกที่ดื่มนมชงอาจแพ้ส่วนผสมบางอย่างของนมผง จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อเปลี่ยนยี่ห้อนมรวมทั้งสังเกตว่าเด็กแพ้ส่วนผสมใดในนมผง
  • เติมน้ำผลไม้ในนม น้ำผลไม้อาจบรรเทาอาการท้องผูกได้หากบริโภคในปริมาณเล็กน้อย โดยควรผสมน้ำแอปเปิ้ล น้ำลูกแพร์ หรือน้ำลูกพรุนลงไปในนมชงหรือน้ำนมแม่วันละประมาณ 30-60 มิลลิลิตร
  • เสริมใยอาหาร ทารกที่เพิ่งเริ่มกินอาหารอื่นควรเลี่ยงอาหารที่เสี่ยงทำให้ท้องผูก โดยควรลดข้าว กล้วย หรือเลี่ยงไม่ให้เด็กกินข้าวกับกล้วย เนื่องจากข้าวและกล้วยจับตัวเหนียวเป็นก้อนได้ง่าย ทำให้ร่างกายย่อยยาก อีกทั้งควรให้เด็กกินอาหารที่มีเส้นใยมากขึ้น เช่น บร็อคโคลี่ ลูกพรุน ลูกแพร์ แอปเปิ้ลแบบปอกเปลือก ธัญพืชที่ผ่านการปรุงสุก ขนมปังธัญพืชไม่ขัดสี เป็นต้น ทั้งนี้ หากทารกยังไม่ได้เปลี่ยนมากินอาหารอื่น อาจนำผักผลไม้มาบดละเอียดและให้เด็กกินแทนได้
  • ให้ดื่มน้ำเยอะขึ้น พ่อแม่ควรให้เด็กดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพราะน้ำเปล่าและนมจะช่วยให้ร่างกายของเด็กชุ่มชื้นและขับถ่ายอย่างสม่ำเสมอ และอาจให้เด็กดื่มน้ำลูกพรุนหรือน้ำลูกแพร์เพื่อกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ โดยควรผสมน้ำเปล่าเพื่อเจือจางความเข้มข้นของน้ำผลไม้ไม่ให้หวานจนเกินไป

 

อาการท้องเสียในเด็กทารก

ทารกถ่ายวันละกี่ครั้ง

ทารกถ่ายวันละกี่ครั้ง

 

ลูกน้อยขับถ่ายมากกว่าปกติและอุจจาระมีลักษณะเหลวผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าทารกมีอาการท้องเสีย นอกจากนั้นอาจพบว่าอุจจาระมีมูกหรือเลือดปนออกมา หรือมีกลิ่นเหม็นผิดปกติด้วย ซึ่งแม้อาการท้องเสียในทารกจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่น่ากังวลเท่าไหร่ แต่หากทารกท้องเสียต่อเนื่องเป็นเวลา 1-2 วัน ก็อาจทำให้ร่างกายเด็กสูญเสียของเหลวและเกลือแร่จำนวนมากจนอาจเกิดภาวะขาดน้ำตามมาได้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของทารก

 

ทารกท้องเสียควรทำอย่างไร

อาการท้องเสียเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยขับเชื้อโรคออกจากร่างกาย จึงไม่ควรให้ทารกใช้ยาแก้ท้องเสีย อีกทั้งองค์การอาหารและยายังไม่มีการรับรองยาที่ใช้สำหรับทารกที่มีอาการท้องเสีย ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจบรรเทาอาการและช่วยให้ลูกน้อยสบายตัวขึ้นได้โดยปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้

  • ให้ดื่มผงเกลือแร่ เพราะอาการท้องเสียอย่างรุนแรงจะทำให้ทารกสูญเสียของเหลวและเกลือแร่ในร่างกายไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะขาดน้ำตามมา หากลูกน้อยไม่มีอาการอาเจียนร่วมด้วย คุณแม่จะยังสามารถให้ทารกดื่มนมแม่หรือนมผงได้ตามปกติ แต่หากทารกอาเจียนและไม่สามารถดื่มนมได้ แพทย์อาจให้เด็กดื่มสารละลายอิเล็กโทรไลต์สำหรับทารก
  • งดของหวาน เช่นน้ำอัดลม น้ำผลไม้ รวมถึงเยลลี่หรือขนมหวานต่าง ๆ เป็นต้น เพราะน้ำตาลอาจทำให้อาการท้องเสียของทารกแย่ลงกว่าเดิม
  • เปลี่ยนผ้าอ้อมเป็นประจำ เพื่อลดการอับชื้นที่อาจเป็นเหตุให้ก้นของลูกน้อยเป็นผื่นและเกิดการระคายเคือง ทั้งยังช่วยลดอาการก้นแดงจากการท้องเสียอยู่บ่อยครั้ง
  • โอบกอดเบา ๆ บางครั้งอาการท้องเสียอาจทำให้ทารกไม่สบายตัวและงอแง ดังนั้นการกอดอาจช่วยให้เจ้าตัวน้อยงอแงน้อยลงได้

 

ที่มา : Pobpad,Pobpad,Phyathai, Enfababy

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง :

ลูกมีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารจากการ แพ้นมวัว ทำไงดี?

การขับถ่ายของทารกแรกเกิด – 1 ปีต้องมีฉี่มีอึกี่ครั้งถึงเรียกว่า “ปกติ”

สีอุจจาระของลูก สีไหนปกติ สีไหนอันตรายกันนะ

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

nantichaphothatanapongbow

  • หน้าแรก
  • /
  • การคลอด
  • /
  • ทารกถ่ายวันละกี่ครั้ง เด็กทารกไม่ถ่ายได้กี่วัน สีอุจจาระของทารกบ่งบอกอะไร
แชร์ :
  • คนท้องหิวกลางดึก กินอะไรดี อาหารว่างยามดึกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

    คนท้องหิวกลางดึก กินอะไรดี อาหารว่างยามดึกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

  • ลูกติดแม่มาก จนไม่เป็นอันทำอะไร รับมือยังไง?  ให้ลูกมั่นใจ ติดแม่น้อยลง

    ลูกติดแม่มาก จนไม่เป็นอันทำอะไร รับมือยังไง? ให้ลูกมั่นใจ ติดแม่น้อยลง

  • EQ ต่ำ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว: 3 พฤติกรรมเล็ก ๆ บนโต๊ะอาหารที่พ่อแม่ควรรู้ทัน

    EQ ต่ำ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว: 3 พฤติกรรมเล็ก ๆ บนโต๊ะอาหารที่พ่อแม่ควรรู้ทัน

  • คนท้องหิวกลางดึก กินอะไรดี อาหารว่างยามดึกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

    คนท้องหิวกลางดึก กินอะไรดี อาหารว่างยามดึกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

  • ลูกติดแม่มาก จนไม่เป็นอันทำอะไร รับมือยังไง?  ให้ลูกมั่นใจ ติดแม่น้อยลง

    ลูกติดแม่มาก จนไม่เป็นอันทำอะไร รับมือยังไง? ให้ลูกมั่นใจ ติดแม่น้อยลง

  • EQ ต่ำ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว: 3 พฤติกรรมเล็ก ๆ บนโต๊ะอาหารที่พ่อแม่ควรรู้ทัน

    EQ ต่ำ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว: 3 พฤติกรรมเล็ก ๆ บนโต๊ะอาหารที่พ่อแม่ควรรู้ทัน

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว