ลูกถ่ายเป็นสีเขียว สีอุจจาระของลูกในช่วงแรกเกิดนั้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง อาจจะทำให้คุณแม่หลาย ๆท่านนั้นงงว่าทำไมสีอุจจาระของลูกเป็นสีนี้ เรามาดูกันเลยว่า ลูกอุจจาระเป็นสีเขียว แล้วสีอุจจาระแบบไหนของลูกเป็นสีอุจจาระที่ปกติ อีกทั้งเนื้ออุจจาระของลูกน้อยยังสามารถที่จะบ่งบอกได้ว่า ลูกของเรานั้นกำลังมีอาการอย่างไร เช่น ถ่ายแข็ง ขี้เขียว ถ่ายเป็นสีเขียว ถ่ายหนักหรือถ่ายเหลว อุจจาระสีเขียว เพื่อที่คุณแม่จะได้ปรับเปลี่ยนอาหาร เพื่อสุขภาพของลูกน้อย
สีอุจจาระทารก ถ่ายเหลวสีเขียว แต่ละช่วงวัย
หากคุณแม่นั้นเลี้ยงลูกน้อยด้วยน้ำนมตนเอง การขับถ่ายของลูกจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละช่วง ซึ่งบางครั้งคุณแม่อาจจะตกใจที่ได้เห็นอุจจาระของลูกนั้นมีสีที่มีความเปลี่ยนไป ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันเลยว่า ขี้เป็นสีเขียว เดือนแรกนั้น ทารกจะอุจจาระสีประมาณใดบ้าง
- ทารกอายุ 0-2 วัน : ทารกในวัย 0 – 2 วัน ต้องบอกว่าเป็นช่วงเวลาของเด็กแรกเกิด อุจจาระมักจะมีลักษณะที่หนา มีสีดำออกไปทางเขียว ซึ่งเป็นสีที่ปกติ ไม่ได้มีอันตรายร้ายแรงใด ๆ
- เด็กทารกอายุ 3-4 วัน : ทารกในวัย 3 – 4 วัน ซึ่งยังอยู่ในสัปดาห์แรก อุจจาระของทารกมีความเหนียวน้อยลง และไม่ค่อยหนาเหมือนสองวันแรกแล้ว เนื้ออุจจาระจะมีความเหลวมากขึ้น และมีสีน้ำตาลอมเหลือง
- ทารกอายุ 4-6 วัน : ทารกในวัย 4- 6 อุจจาระจะมีลักษณะนิ่มมากขึ้น หรือเหลวมากขึ้น แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่เป็นน้ำ แล้วมีสีเหลือง เนื่องจากทารกนั้นดื่มน้ำนมแม่อยู่ตลอด
- เด็กทารกอายุ 7-28 วัน : ถัดจากสัปดาห์แรกไปจนถึง 1 เดือน ทารกจะดื่มนมอย่างเดียว ฉะนั้นอุจจาระของลูกจะมีลักษณะนิ่ม และเหลว มีสีเหลือง
ทารกตั้งแต่แรกเกิดนั้นจะมีอุจจาระที่นิ่มลง และมีสีที่ค่อนข้างที่จะจางลงเรื่อย ๆ จางลงจากคล้ำเขียวตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงสีเหลืองปกติ ซึ่งการที่ลูกดื่มนมของแม่ จะทำให้ได้ประโยชน์จากน้ำนมเหลืองที่เป็นน้ำนมระยะหัวนม (Colostrums) ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ ซึ่งช่วยลดปัญหาตัวเหลืองของทารกแรกเกิดได้ เรียกว่า น้ำนมแม่นั้นเปี่ยมไปด้วยสารอาหารที่เสมือนยาจริง ๆ
วิดีโอจาก : โค้ชเลิศพร สอนแม่และเด็ก
สีอุจจาระของลูก ที่เป็นปกติ
- อุจจาระสีเขียวเข้ม สีคล้ำ หรือขี้เทา : อุจจาระของเด็กแรกเกิดนั้น จะมีลักษณะที่เหนียวเหมือนยางมะตอย หรือเรียกว่าขี้เทานั้นเอง โดยตามธรรมชาติแล้วทารกจะขับถ่ายของเสียออกมาภายในระยะเวลาประมาณ 24 ชั่วโมง แต่ถ้าหากว่าเลย 24 ชั่วโมงแล้ว ลูกยังไม่ขับถ่ายอุจจาระออกมา ต้องรีบแจ้งให้ทางแพทย์โดยด่วน เนื่องจากอาจจะเป็นอาการของลำไส้อุดตันได้
- อุจจาระสีเหลือง หรือเหลืองมัสตาร์ด : ถัดจากสีคล้ำ ร่างกายจะปรับสภาพจากการดื่มนมแม่ นั่นคืออุจจาระของทารกจะมีสีอ่อนลง อย่างสีเหลือง ซึ่งสีแบบนี้เป็นลักษณะของอึลูกน้อยที่คลอดออกมาแล้ว 3 – 4 วัน ถือว่าเป็น สีอุจจาระ ปกติของทารกที่กินนมแม่ครับ โดยอึของลูกจะมีลักษณะเหลว และลูกจะอึประมาณวันละ 6-10 ครั้ง หรือทุกครั้งที่ทานนมแม่อิ่มครับ แต่ก็เป็นไปได้ที่ลูกจะไม่อึเป็นอาทิตย์เลยก็มีนะครับ อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นอาการปกติ
- อุจจาระสีน้ำตาลอ่อน และมีกลิ่นแรง : อุจจาระสีอ่อนลง แต่มีกลิ่นแรง อาจมาจากการที่คุณแม่ให้ทารกน้อยดื่มนมผง ไม่ใช่น้ำนมแม่ จึงทำให้อุจจาระของลูกมีสีเข้มและเหนียวกว่า บางครั้งอาจจะมีลักษณะคล้ายเนยถั่วและมักจะเหนียวและติดอยู่บนผ้าอ้อม ซึ่งไม่มีอาการน่าเป็นห่วง
- อุจจาระสีเขียวน้ำตาล : ไม่ต้องตกใจไป เมื่อลูกเริ่มกินอาหารแข็งได้แล้วสีของอึลูกอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามอาหารที่พวกเขา บางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจเห็นว่าสีของอึลูกอาจจะมีสีส้มหรือเหลือง ก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน
- อุจจาระสีเขียวเข้ม อุจจาระสีเขียว ขี้เขียว ถ่ายเป็นสีเขียว : หากลูกมีอุจจาระสีเขียวเข้มและมีลักษณะข้นเหนียวนั้น เกิดจากการได้รับสารอาหารผ่านน้ำนมแม่ โดยอาจเกิดจากการที่คุณแม่กินผักใบเขียวในช่วงให้นมลูกหรืออาจเกิดจากการที่คุณแม่กินอาหารที่มีธาตุเหล็กเข้าไป ทำให้อึของลูกมีสีเขียวเข้มนั่นเองซึ่งนับได้ว่าเป็นเรื่องที่ปกติ ไม่มีอันตราย
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกอึไม่ออก ทารก 1 เดือน ท้องผูก ทำอย่างไร ให้ทารกขับถ่ายเป็นปกติ
สีอุจจาระสีไหนที่ต้องระวัง
- อุจจาระสีแดง : บ่อยครั้งเมื่อคุณแม่เห็นแดงจาง ๆ ในอุจจาระของลูกย่อยตกใจ กังวลใจแน่นอนว่า เป็นอุจจาระที่มีเลือดปนหรือไม่ ในบางครั้งการที่ทารกรับประทานอาหารที่มีสีแดง เช่น มะเขือเทศ หรือบีทรูท ก็อาจทำให้อุจจาระมีสีแดงได้เช่นกัน แต่ถ้าอุจจาระนั้นมีสีแดงเข้ม มีมูกเลือดปน นั่นคือสัญญาณของอาการเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร หรือโรคภูมิแพ้นมได้ ทั้งนี้คุณแม่อย่าเพิ่งกังวลใจ อาจรอสังเกตเบื้องต้นว่าอุจจาระครั้งถัดไปยังคงมีสีแดงอยู่หรือไม่ หากทารกมีอาการซึมหรือเป็นไข้ มีรอยแผลฉีกที่ก้นของเด็ก ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอทันที
- อุจจาระสีขาวซีด : หากอึของลูกเป็นสีขาวซีด อาจเกิดจากความผิดปกติของตับหรือถุงน้ำดี ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ เพื่อวินิจฉัยโรคอย่างละเอียด เพราะถ้าลูกน้อยเป็นโรคตับหรือท่อน้ำดีอักเสบถึงขั้นต้องผ่าตัด จะได้รับทำการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ
- อุจจาระสีดำ : หลักจากหมดขี้เทาแล้ว หากอึของลูกเป็นสีดำคล้ำกว่าปกติโดยอาจมีมูกเลือดติดออกมาด้วย อาการแบบนี้อาจเกิดจากระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดี คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจควรพาลูกไปพบแพทย์จะดีที่สุด เพราะสีของอุจจาระของลูกนั้นสามารถบ่งบอกถึงสุขภาพของเด็กได้ ซึ่งหากเกิดความผิดปกติอะไรก็จะได้ไปพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาได้ทันท่วงที
ระวังเรื่องการกินของทารก
อย่างที่กล่าวไปว่าการดื่มนมแม่ อุจจาระลูกจะมีสีเหลือง ต่างจากการดื่มนมผงจะมีสีคล้ำข้นหนืดกว่า จนกระทั่งผ่านช่วงไปถึง 5-6 เดือน คุณแม่อาจเปลี่ยนอาหารให้แก่ลูก ซึ่งช่วงกินอาหารแข็งขึ้น นอกจากนม เช่น ข้าวบด กล้วยบด หรือไข่ต้ม อุจจาระของทารกก็จะมีลักษณะเป็นก้อน คล้ายกับอุจจาระปกติมากขึ้น และอาจจะถ่ายน้อยลงกว่าในช่วงที่กินแต่นม ช่วงนี้คุณแม่ควรระวังลูกท้องผูกเป็นพิเศษ
การขับถ่ายของลูกที่พ่อแม่ต้องคอยสังเกต
หากคุณแม่สังเกตเห็นความผิดปกติของสีอุจจาระแล้ว อย่าลืมคอยสังเกตเรื่องการขับถ่ายของลูก เช่น ลูกน้อยถ่ายบ่อย ถ่ายเหลวกว่าปกติ มีมูกใสปน มีกลิ่นเหม็น อาจหมายถึงความผิดปกติของร่างกาย นอกจากนี้จำนวนครั้งของการอุจจาระไม่ได้บอกว่าลูกท้องผูก เด็กบางคน อาจจะถ่าย 2-3 วันครั้ง แต่หากอุจจาระนิ่ม ถ่ายง่าย ก็ไม่ถือว่าท้องผูก สิ่งสำคัญคือ คุณแม่ต้องดูลักษณะของอุจจาระลูกว่าแข็งหรือไม่ ลูกต้องใช้แรงเบ่งอุจจาระมากหรือเปล่า และมีเลือดปนออกมาหรือไม่ ถึงจะทราบว่าลูกมีอาการท้องผูก และต้องพาไปรักษาให้ถูกต้องตามอาการด้วย
ลูกถ่ายเป็นสีเขียว หรือถ่ายเป็นสีอื่น ๆ มักบ่งบอกอะไรได้มากกว่าที่เราคิด เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้จึงมีความสำคัญ คุณพ่อคุณแม่จึงควรคอยสังเกต เพื่อเรียนรู้สุขภาพของลูกน้อย เพราะลูกน้อยไม่สามารถสื่อสารกับเราได้แบบตรง ๆ นั่นเอง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
12 ลักษณะอุจจาระทารก อึของเบบี๋แต่ละแบบบอกอะไรคุณแม่ได้บ้าง
ทารกท้องเสีย ถ่ายบ่อย ถ่ายเหลว เกิดจากสาเหตุใด ดูแลรักษายังไงดี
เด็กท้องเสีย ทำอย่างไรดี? ลูกถ่ายเหลว มีสาเหตุจากอะไร รักษาอย่างไรได้บ้าง?
ที่มาข้อมูล : health.clevelandclinic amarinbabyandkids
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!