เคล็ดลับการให้ลูกดื่มน้ำผลไม้ ที่ไม่ควรให้เด็กอายุน้อยกว่า 1 ขวบดื่ม!

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เคล็ดลับการให้ลูกดื่มน้ำผลไม้ หรือ น้ำผลไม้กล่อง ที่อาจกลายมาเป็นเครื่องดื่มสุดโปรดของเด็ก ๆ นั้นอาจเป็นเรื่องที่คุณแม่มือใหม่อดข้องใจไม่ได้ค่ะ เพราะถึงแม้จะเลือกน้ำผลไม้กล่อง ที่ระบุว่าเป็นน้ำผลไม้แท้ 100% ทำจากธรรมชาติ ไม่เติมน้ำตาล แต่เครื่องดื่มเหล่านี้เหมาะจะให้ดื่มจริง ๆ หรือไม่

 

อย่างที่ทราบกันดีค่ะ ว่าอาหารหลักของเด็ก ๆ ในวัยแรกเกิดถึง 6 เดือน คือน้ำนมของคุณแม่ โดยที่ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำค่ะ รวมทั้งการป้อนอาหารอื่นให้เด็กในวัยนี้ เป็นเรื่องที่อันตรายและถึงตายได้นะคะ แต่อย่างไรก็ตามน้ำนมของคุณแม่ ไม่มีวันที่จะหมดคุณค่าหรือไม่มีประโยชน์ แม้ว่าจะหลังลูกอายุ 1 ปีไปแล้วก็ตาม เพียงแต่ลูกต้องการโภชนาการและสารอาหารที่เพิ่มเติมขึ้นค่ะ

 

 

เคล็ดลับการให้ลูกดื่มน้ำผลไม้

คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ นิยมให้เบบี๋ดื่มน้ำผลไม้เมื่อเริ่มอาหารเสริม เพราะเชื่อว่าน้ำผลไม้สด โดยเฉพาะน้ำส้มเป็นแหล่งรวมวิตามินซีและสารอาหารอื่นมากมาย จนล่าสุดในปี 2560 ที่ผ่านมา มีงานวิจัยในต่างประเทศได้ค้นพบว่า พ่อแม่ไม่ควรให้ลูกดื่มน้ำผลไม้กระป๋อง น้ำผลไม้กล่อง ถึงแม้จะระบุผลิตจากน้ำผลไม้แท้ 100% ก็ตาม

 

สิ่งที่นักโภชนาการกังวลเกี่ยวกับการดื่มน้ำผลไม้กล่องเหล่านี้ (แม้ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ 100%) ก็คือ ฟันผุ และโรคอ้วนในวัยเด็ก รวมทั้งการติดรสหวานที่จะมีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเด็ก ๆ โตขึ้น สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา (the American Academy of Pediatrics) แนะนำว่า เด็กต่ำกว่า 1 ขวบยังไม่ควรดื่มน้ำผลไม้เหล่านี้ โดยอ้างอิงข้อมูลจากการแถลงของสมาคมหมอเด็กสหรัฐ เนื่องจาก

  • น้ำผลไม้ไม่ให้คุณค่าทางโภชนาการที่มีประโยชน์ต่อทารกวัยน้อยกว่า 1 ปี ไม่ได้ให้คุณค่าที่เหนือกว่าผลไม้แก่เด็ก และไม่จำเป็นต่อมื้ออาหารที่เหมาะสมและมีคุณค่าของเด็ก
  • น้ำผลไม้แบบ 100% อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารของเด็กอายุเกิน 1 ปีได้ แต่ทั้งนี้เครื่องดื่มรสผลไม้บางชนิดอาจจะไม่เทียบเท่าน้ำผลไม้
  • ไม่ให้ดื่มน้ำผลไม้มารักษาอาการท้องเสีย
  • การดื่มน้ำผลไม้มากไป สัมพันธ์กับภาวะทุพโภชนาการ ทั้งแบบเกินและขาด และสัมพันธ์กับ ท้องเสีย ท้องอืด ลมขึ้น ฟันผุ
  • น้ำผลไม้แบบไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ อาจมีเชื้อที่ก่อโรคติดไปที่เด็กได้จึงควรหลีกเลี่ยง
  • สามารถให้เด็ก ๆ ดื่มน้ำผลไม้หลากหลายในปริมาณเหมาะสมตามวัย
  • น้ำผลไม้แบบผสมแคลเซียม ให้แคลเซียม แต่ขาดสารอาหารที่พบใน นมแม่ นมผง และนมวัว

บทความที่เกี่ยวข้อง : ข้าวบดอาหารเสริม แม่ควรเตรียมให้ลูกเมื่อไร? และมีวิธีทำอาหารด้วยตัวเองอย่างไร?

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คำแนะนำการให้ลูกดื่มน้ำผลไม้

1. ทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือน

ไม่ควรดื่มน้ำผลไม้ รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ นอกจากนมแม่ หรือนมสำหรับทารกโดยเด็ดขาด อาหารอื่น ๆ อาจก่อให้เกิดอันตรายกับเด็กวัยนี้ได้

 

2. เด็กอายุ 6-12 เดือน

ยังไม่ควรดื่มน้ำผลไม้ ยังมีอาหารหรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าน้ำผลไม้กล่อง เช่น ผลไม้สดบด หากมีความจำเป็นต้องให้น้ำผลไม้ตามคำแนะนำของแพทย์ ควรให้เด็กดื่มจากแก้ว ซึ่งจะช่วยจำกัดปริมาณได้ง่ายกว่าการดื่มจากขวด และควรดื่มน้ำหรือทำความสะอาดช่องปากทุกครั้ง

 

3. เด็กอายุ 1-3 ปี

ไม่ควรดื่มน้ำผลไม้เกินวันละ 120 มล. ควรดื่มจากแก้ว ร่วมกับมื้ออาหาร หรืออาหารว่างอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ พยายามเลือกกินผลไม้เป็นชิ้นมากกว่าน้ำผลไม้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

4. เด็กอายุ 4-6 ปี

ไม่ควรดื่มน้ำผลไม้เกินวันละ 120 -180 มล. ควรดื่มจากแก้ว ร่วมกับมื้ออาหารที่มีประโยชน์ ควรเลือกเครื่องดื่มประเภทนม หรือน้ำเปล่าแทนน้ำผลไม้

 

5. เด็กและวัยรุ่น 7-18

ไม่ควรดื่มน้ำผลไม้เกินวันละ 240 มล.

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

 

คำแนะนำของสมาคมกุมารแพทย์สหรัฐ

  1. ไม่ควรให้เด็กต่ำกว่า 12 เดือนดื่มน้ำผลไม้ (ยกเว้นมีข้อบ่งชี้) โดย
    1-3 ปี ไม่ควรดื่มเกิน 120 มิลลิลิตร ต่อวัน
    4-6 ปี ไม่ควรดื่มเกิน 180 มิลลิลิตร ต่อวัน
    7-18 ปี ไม่ควรดื่มเกิน 240 มิลลิลิตร ต่อวัน
  2. ไม่ควรให้เด็กเล็กดื่มน้ำผลไม้จากในขวดหรือกระติกถ้วยที่หิ้วไปดื่มที่ไหนก็ได้ และไม่ควรดื่มก่อนนอน
  3. ควรสอนเด็กกินผลไม้เป็นผล ๆ เพราะได้ไฟเบอร์ และได้พลังงานเข้าไปทีละน้อยกว่าแบบน้ำ
  4. ครอบครัวและคนดูแล ควรรู้ว่า นมแม่และหรือนมผงสำหรับเด็กทารก / นมปราศจากไขมันหรือนมไขมันต่ำและน้ำ ก็ให้น้ำที่เพียงพอแล้ว
  5. เด็กทารก เด็กเล็ก วัยรุ่น ไม่ควรดื่มน้ำผลไม้ที่ไม่ผ่านการพาสเจอไรซ์
  6. ควรระวังการดื่ม grapefruit ในเด็กที่กินยาบางชนิด
  7. ในการประเมินภาวะทุพโภชนาการ ปวดท้องท้องเสียท้องอืดและฟันผุ แพทย์ควรประเมินและคุยเรื่องน้ำผลไม้ และควรคุยเรื่องความแตกต่างของน้ำผลไม้และเครื่องดื่มรสผลไม้
  8. แพทย์ควรทุ่มเทสรรพกำลังในการลดการบริโภคน้ำผลไม้ในเด็ก และให้เลิกน้ำผลไม้ในเด็กที่น้ำหนักเกินสรุป ต่ำกว่า 1 ขวบ อย่าคั้นน้ำส้มให้ดื่ม เพราะทำให้เด็กสุขภาพเสื่อม

 

 

สาเหตุที่ไม่ควรให้ลูกดื่มน้ำผลไม้

1. มีระดับน้ำตาลสูง

น้ำผลไม้กล่อง บางยี่ห้อเพิ่มสารให้ความหวานอาจไม่ระบุว่าเป็นน้ำตาลตรง ๆ คุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาให้ดีก่อนว่ามีสัดส่วนน้ำตาลมากน้อยเพียงใด เพราะน้ำตาลไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น ทำให้เด็กเป็นโรคอ้วน ฟันผุ เบาหวาน

 

2. ลูกไม่กินข้าว เบื่ออาหาร

ด้วยขนาดของกระเพาะอาหารเด็กที่เล็กแค่นิดเดียว การที่ลูกดื่มน้ำผลไม้มากเกินไปจะทำให้ลูกอิ่ม ไม่อยากอาหาร รับประทานน้อยลง หรือไม่รับประทานอาหารมื้อหลักเลย  ทำให้ลูกรักขาดสารอาหารจำเป็นต่อการพัฒนาสมอง และระบบประสาทสำคัญรวมถึงอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกาย  เช่น โปรตีน เส้นใยอาหาร

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

3. ปนเปื้อนสารเคมี ยาฆ่าแมลง

ผลไม้สดที่ซื้อเองตามท้องตลาด หรือแม้แต่คุณแม่นำมาคั้นเอง หากล้างไม่ถูกวิธี ไม่สามารถชำระล้างสารพิษ โดยเฉพาะยาฆ่าแมลงที่ปัจจุบันมีเยอะมาก เคลือบอยู่ที่เปลือกผลไม้ และอาจมีเชื้อโรคเช่น อีโคไล ซัลโมเนลล่า ทำให้เกิดภาวะติดเชื้อในลำไส้ ดังนั้นคุณแม่ต้องล้างเปลือกให้สะอาดจริง ๆ ปอกเปลือก และล้างมือให้สะอาดก่อนเตรียมน้ำผลไม้ทุกครั้ง

 

 

การฝึกให้ลูกกล้าชิมอาหารชนิดใหม่ ๆ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคในการปลูกฝังนิสัยการกินที่ดี เพราะการได้กินอาหารชนิดใหม่ เท่ากับว่าลูกสามารถกินอาหารได้หลากหลาย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของโภชนาการที่ดีนั่นเอง แต่ถ้าหากคุณแม่ไม่มั่นใจว่า ตัวเองสามารถคั้นน้ำผลไม้ที่สะอาดปลอดภัยต่อลูกรักได้จริง ๆ ก็ควรงดน้ำผลไม้ไว้ก่อนนะคะ และในเด็กที่มีฟันแล้วคุณพ่อคุณแม่ต้องกระตุ้นให้ลูกแปรงฟันเพื่อป้องกันลูกฟันผุค่ะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

“น้ำองุ่น” น้ำผลไม้ที่ลูกคู่ควร

5 เหตุผล ว่าทำไมลูกไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำผลไม้

วิจัยเผย คนท้องดื่มน้ำผลไม้ ช่วยเสริมพัฒนาการลูกน้อยในครรภ์

ที่มา : Facebook: ความรู้สนุกๆแบบหมอแมวpediatrics