เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2564 เวลา 10.30 น. แพทย์หญิงฐิติภรณ์ ตวงรัตนานนท์ นายแพทย์ชำนาญการ และคุณพิมพาพร เมฆมัธยันห์ นิกรติกร ประจำสำนักส่งเสริมสุขภาพแม่และเด็ก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้เกียรติเป็นวิทยากร ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ความรู้กับ Content Creator ของ บริษัท ทิคเคิลมีเดีย จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ theAsianparent Thailand และแอปพลิเคชัน theAsianparent คอมมิวนิตี้สำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ในประเทศไทย เพื่อมุ่งหวังให้คุณแม่ทุกท่านตระหนักถึง ความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
แพทย์หญิงฐิติภรณ์ ตวงรัตนานนท์ นายแพทย์ชำนาญการ ประจำสำนักส่งเสริมสุขภาพแม่และเด็ก กรมอนามัย ได้กล่าวว่า “สิ่งที่กรมอนามัย และหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับสุขอนามัยของแม่และเด็กทั่วโลก ให้ความสำคัญ คือ การให้ทารกกินนมแม่ให้เร็วที่สุด โดยทารกแรกเกิดควรได้กินนมแม่ภายใน 1 ชั่วโมงแรก ทั้งนี้การที่ทารกกินนมแม่ยิ่งเร็วก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อตัวของแม่และทารกเอง ได้แก่
- เพื่อกระตุ้นการไหลของน้ำนมแม่
- ลดการตกเลือดหลังคลอด
- ทารกได้รับความอุ่นใจ และรับรู้ได้ถึงความรักความอบอุ่น ผ่านการสัมผัส และการโอบกอดขณะให้นมบุตรของแม่
นอกจากนี้ นมแม่ยังอุดมด้วยคุณประโยชน์สูงมาก โดยนมแม่สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของทารกได้สูงถึง 262 คนต่อปี ลดโอกาสการป่วยด้วยโรคติดเชื้อต่าง ๆ จึงช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายหากต้องมีการรักษาตัวด้วยโรคดังกล่าว ไม่เพียงเท่านั้น การที่ทารกกินนมแม่อย่างต่อเนื่อง ยังช่วยลดการเสียชีวิตของมารดาจากโรคมะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่ได้อีกด้วย”
แพทย์หญิงฐิติภรณ์ ตวงรัตนานนท์ ยังกล่าวถึงข้อดีของการให้ทารกทานนมแม่เพียงอย่างเดียวต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ว่า “สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อนมผงได้ประมาณ 4,000 บาท หรือ 20 – 25% ของรายได้ต่อเดือนของแม่”
จากผลการสำรวจพบว่า แม่ไทยมีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยแม่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ อาทิ ข้อจำกัดด้านสุขภาพของมารดา ทารกไม่สามารถกินนมแม่ได้เพราะต้องรักษาอาการป่วย นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ที่ทำให้แม่ไม่สามารถให้ลูกกินนมได้นานต่อเนื่องกันจนครบ 6 เดือน ได้แก่
- แม่ต้องกลับไปทำงานที่อื่น
- แม่บางส่วนคิดว่าตนเองมี น้ำนมน้อย ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว ในแม่ 100 คน จะมีเพียง 3 – 5 คน เท่านั้นที่มี ปัญหาน้ำนมน้อย
- แม่หลายคนเข้าใจผิด คิดว่า “สารอาหารที่มีในนมแม่” มีอยู่เท่า ๆ กันในนมผง หรืออาจมีน้อยกว่าในนมผง
ในกรณีที่คุณแม่จำเป็นต้องกลับไปทำงานในพื้นที่อื่นทำให้ไม่มีโอกาสเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างต่อเนื่องนั้น ทาง กรมอนามัย ได้เล็งเห็นถึง ความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จึงจัดทำโครงการดี ๆ ภายใต้ชื่อ “ส่งความรัก (น้ำนม) จากอ้อมอกแม่สู่ลูก” เพื่อจัดส่งนมแม่ฟรี ร่วมกับ สายการบินแอร์เอเชีย และบริษัทขนส่งต่าง ๆ อาทิ นครชัยแอร์ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จัดส่งนมแม่แช่แข็งแบบไม่มีค่าใช้จ่าย โดยคุณแม่ที่สนใจเข้าร่วมโครงการนี้ สามารถ Add Line ID @anamaimilk เพื่อลงทะเบียน และส่งนมแม่ได้ฟรีทันที
สืบเนื่องจากปัจจุบัน มีการโฆษณาผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ มากมาย เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดของแม่ที่เกิดจากเนื้อหาในการโฆษณาผลิตภัณฑ์นมผงต่าง ๆ จึงได้มีการผลักดันให้เกิดหลักเกณฑ์ในการควบคุมการส่งเสริมการตลาดของผลิตภัณฑ์นมผง คือ “พระราชบัญญัติควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับเด็กทารกและเด็กเล็ก พ.ศ. 2560” โดยเน้นควบคุมเนื้อหาในการโฆษณาและการส่งเสริมการตลาดด้านอื่น ๆ ในหมวดของอาหารเด็กเล็ก อาหารเสริม อาหารตามวัย สำหรับเด็กทารกและเด็กเล็ก
ด้าน คุณพิมพาพร เมฆมัธยันห์ นิติกร สังกัดสำนักส่งเสริมสุขภาพแม่และเด็ก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ขยายความเกี่ยวกับข้อดีของ พ.ร.บ. นี้ หรือที่คนทั่วไปมักเรียกสั้น ๆ ว่า กฎหมายนมผง (Milk Code) เพิ่มเติมว่า “กฎหมายฉบับนี้ จะช่วยปกป้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ (Protect) ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ (Promote) และสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ (Support) ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์นมผงสูตร 1 นมผงสูตร 2 รวมถึงอาหารเด็กเล็ก อาหารเสริม อาหารตามวัย ที่ใช้เลี้ยงทารกตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป โดยเนื้อหาของ พ.ร.บ. นี้ จะควบคุมเฉพาะวิธีการส่งเสริมการตลาดเท่านั้น ไม่ได้ห้ามการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ หรือห้ามให้คุณแม่เลือกให้ลูกทานนมผงแต่อย่างใด”
การที่ผู้ผลิตคอนเทนต์ต่าง ๆ ของ theAsianparent ซึ่งครอบคลุมสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และติ๊กตอก ตระหนักถึง ความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ รวมทั้งเข้าใจข้อกำหนดในการส่งเสริมการตลาดของนมผงมากขึ้น ก็จะสามารถนำความรู้ทั้งหมดนี้มาใช้ในการผลิตเนื้อหาผ่านสื่อต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง และมีความระมัดระวัง เพื่อสนับสนุนให้คุณแม่ทุกท่าน สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป และเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้นานเท่าที่ต้องการ เพื่อให้ลูกรักได้รับสารอาหารที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโต มีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี และเติบโตขึ้นมามีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง
บทความอื่นที่น่าสนใจ
นมแม่ ถาม – ตอบ (Q&A) ไขสารพันปัญหา “นมแม่” ปัญหาน้ำนม นมแม่ ให้นมลูก
นมแม่ ที่ปั๊มแล้วเก็บได้นานแค่ไหน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!