เมื่อตั้งครรภ์ มักมีสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ ซึ่งอาการเริ่มแรกที่ผู้หญิงหลายคนสังเกตได้นั้นคือ การขาดประจำเดือน แต่อย่างไรก็ตาม คุณแม่บางคนอาจไม่ทันสังเกตว่าประจำเดือนมาไม่ปกติ และเริ่มมีอาการอื่น ๆ ตามมา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องอืดท้องเฟ้อ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ได้ บทความนี้จะพามาดู สัญญาณตั้งครรภ์ ในช่วงระยะแรกกันค่ะ
12 สัญญาณตั้งครรภ์ ในช่วงระยะแรก 1-2 สัปดาห์
สัญญาณตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงมีหลายอย่าง คุณแม่สามารถเช็กอาการคนท้องระยะแรกได้ดังนี้
1. รู้สึกหนาวขึ้น
หากรู้สึกว่าร่างกายเย็นลง มีอาการหนาวขึ้น คัดจมูกน้ำมูกไหล นั่นก็เพราะฮอร์โมนเอสโทรเจนเพิ่มมากขึ้น ทำให้เลือดในร่างกายไหลเวียนได้ดีขึ้น และมีเลือดเพิ่มมากขึ้น จนทำให้มีอาการจมูกบวม อาการต่อมาคือสารหล่อลื่นจะลดลง ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และแพ้ท้องค่ะ การซับน้ำมูกหรือเช็ดน้ำมูกบ่อยอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้ การทาครีมหรือโลชั่นบาง ๆ บริเวณจมูกช่วยได้ค่ะ
2. กินอะไรก็ไม่อร่อย
อยู่ ๆ ประสาทรับรสก็แย่ลงหรือดีขึ้นเกินไป ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดไม่อร่อยขึ้นมาซะงั้น ไม่ว่าจะปรุงเพิ่มขนาดไหน สาเหตุก็อาจจะเป็นเพราะฮอร์โมนแต่ไม่มีการอธิบายที่ชัดเจนในเรื่องนี้ค่ะ ข่าวดีก็คืออาการนี้มักจะดีขึ้นหรือหายไปเองเมื่อเข้าไตรมาสที่สอง
3. แพ้ควันและคาเฟอีน
อยู่ ๆ คุณก็เกิดดื่มลาเต้ระหว่างวันไม่ได้อีกต่อไป ร่างกายไม่ยอมรับคาเฟอีนขึ้นมาดื้อ ๆ ซะงั้น แน่นอนว่าฮอร์โมนเป็นคำตอบค่ะ เช่นเดียวกันการที่ร่างกายไวต่อคาเฟอีนและการได้กลิ่นควันต่าง ๆ อาจทำให้คุณเหงื่อออก และคลื่นไส้ได้ค่ะ
4. บางทีก็คลื่นไส้อยากอาเจียน
อาการคลาสสิกของสัญญาณตั้งครรภ์อย่างคลื่นไส้อาเจียน เป็นผลมาจากการฮอร์โมนเอสโทรเจนและการระบายน้ำมูก อาการที่บ่งบอกว่าคุณตั้งครรภ์นี้ อาจกินเวลาพอสมควรค่ะ คุณแม่บางคนอาจจะเป็นแค่ไตรมาสแรกแต่อาการนี้ก็อาจจะเป็นนานกว่านั้นได้ค่ะ การเปลี่ยนยาสีฟันที่มีรสอ่อนลง จะทำให้ลดอาการระคายเคือง และรู้สึกอยากอาเจียนได้ในขณะที่แปรงฟันค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : อาการคลื่นไส้คนท้อง เกิดขึ้นกับทุกคนไหม? อาการคลื่นไส้เกิดจากอะไร?
5. เหนื่อยง่าย
นอกเหนือจากคุณแม่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย หรือได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ ที่เป็นต้นเหตุของอาการง่วงเหงาหาวนอน อาการเหนื่อยง่ายก็อาจจะเป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณน่ะตั้งครรภ์ค่ะ ให้ดื่มน้ำเพิ่มขึ้นและดื่มด่ำไปกับการงีบหลับ ร่างกายของลูกกำลังพัฒนาอยู่ และนั่นก็ทำให้ร่างกายคุณแม่เหนื่อยล้าไม่น้อยค่ะ
6. หายใจไม่ทัน
เวลาที่เดินขึ้นบันไดไม่กี่ชั้นก็รู้สึกว่าหายใจไม่ทันเอาเสียแล้ว นี่อาจจะเป็นสัญญาณการตั้งครรภ์ได้ค่ะ และส่วนใหญ่อาการนี้คุณแม่จะเป็นไปตลอดในช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ค่ะ แอบน่าตกใจและน่ารำคาญเล็กน้อย เนื่องจากร่างกายต้องการออกซิเจนมากขึ้นในการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในครรภ์ค่ะ
7. รู้สึกไม่ดี กังวล หรือนอยด์ไปเอง
แม้ว่าจะค่อนข้างเป็นอาการที่คลุมเครือ เพราะไม่ว่าจะท้องหรือไม่ก็มีอาการแบบนี้ได้ แต่หากคุณแม่รู้สึกตัวว่าอ่อนไหวกับเรื่องต่าง ๆ ขี้แยมากขึ้น หรือกระทบจากเรื่องเล็กน้อยได้ง่าย มันอาจจะใช่ค่ะ คุณอาจจะท้องนั่นแหละ
8. จมูกไวขึ้น
คุณอาจจะเป็นคนที่จมูกไวอยู่แล้ว ได้กลิ่นอะไรไวกว่าคนอื่นเขา แต่ยิ่งคุณท้อง จมูกคุณจะไวขึ้นอีกค่ะ ฮอร์โมนเอสโทรเจนมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน กลิ่นหอม ๆ อาจจะดีถ้าจมูกไว แต่ส่วนใหญ่คุณแม่ก็จะไวต่อกลิ่นเหม็นด้วยเช่นกันค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำอย่างไรดีเมื่อ คนท้องเหม็นอาหาร ทานข้าวไม่ค่อยได้ อันตรายต่อลูกไหม?
9. ท้องอืด ท้องเฟ้อ ลมเยอะขึ้น
ปริมาณเอสโทรเจนที่เพิ่มขึ้นจะทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เกิดการคลายตัว เพื่อเตรียมสำหรับการคลอดลูก แม้จะดูเหมือนข้ออ้างในการเรอหรือตด แต่มันก็เป็นกลไกการทำงานของร่างกายจริง ๆ นะคะ
10. เต้านมขยาย รู้สึกไว และคล้ำขึ้น
หนึ่งในสัญญาณแรก ๆ ของการตั้งครรภ์คือหน้าอกมีความเปลี่ยนแปลงค่ะ เช่น คล้ำขึ้น และเห็นเส้นเลือดดำได้ชัดมากขึ้น ยังกับมีแผนที่อยู่บนนมแหนะ รวมถึงอาการเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะด้านข้างและบริเวณรักแร้ค่ะ เป็นเพราะเนื้อเยื่อเต้านมนั้นมีความไวต่อฮอร์โมนที่ปล่อยออกมา เป็นอาการเดียวกับที่สาว ๆ รู้สึกก่อนเมนส์จะมา เนื่องจากฮอร์โมนโพรเจสทอโรนสูงขึ้นนั่นเอง
11. ปวดท้องน้อย ปวดหลังช่วงล่าง เป็นตะคริว
อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากำลังมีการปลูกถ่ายเกิดขึ้นในตัวคุณแม่ค่ะ การหดตัวนี้จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนแรก มดลูกจะมีการขยายตัวสำหรับตัวอ่อนในครรภ์
12. เวียนหัว หน้ามืด เป็นลม
อาการเดียวกันกับการก้าวลงหลังจากเล่นรถไฟเหาะตีลังกานี้ เกิดขึ้นได้เมื่อลุกขึ้นเร็วไป ปกติจะมาพร้อม ๆ กับอาการแพ้ท้องด้วยนะคะ เนื่องจากฮอร์โมนส่งผลต่อการขยายของหลอดเลือด จึงทำให้เกิดอาการเวียนหัวได้นั่นเองค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องเวียนหัว หน้ามืด เกิดจากอะไร มีวิธีแก้อาการวูบบ่อยไหม
เคล็ดลับดูแลตัวเองเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์
หลังจากที่คุณแม่ตั้งครรภ์ การดูแลตัวเองถือเป็นเรื่องสำคัญที่สำคัญมาก เพราะตอนนี้ในร่างกายของคุณแม่มีอีกชีวิตอยู่ด้วยแล้ว ดังนั้น เพื่อพัฒนาการที่ดีและความปลอดภัยของลูก คุณแม่อย่าลืมดูแลด้วยนะคะ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยควรเลือกอาหารที่มีคุุณค่าทางโภชนาการสูง เน้นอาหารประเภทเนื้อสัตว์ นม ไข่ ผักผลไม้ แทนการใช้แป้ง น้ำตาล หรือของหมักดอง เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงสิ่งเร้าที่ทำให้เกิดอาการแพ้ท้องมากขึ้น
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา และน้ำอัดลม เป็นต้น
- นอนกลางวัน การนอนหลับพักผ่อนระหว่างวันเป็นเรื่องสำคัญมาก แม่ท้องควรหาเวลานอนประมาณ 30-60 นาทีต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน
- ดูแลสุขภาพช่องปาก การดูแลสุขภาพช่องปากก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะคนท้องมักมีปัญหาฟันผุ และเหงือกอักเสบได้ง่าย
- ออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์ เป็นสิ่งที่คุณแม่ก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การปั่นจักรยาน พิลาทิส และการยืดกล้ามเนื้อ
- สังเกตอาการท้องของตัวเองเสมอ หากพบว่าคุณแม่มีอาการเลือดทางจากช่องคลอด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ตั้งครรภ์ระยะแรกอาจไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาสักเท่าไหร่ บางคนอาจมีอาการแพ้ท้องรุนแรง บางคนอาจไม่มีอาการใด ๆ เลย เพราะฉะนั้น หากคุณแม่สังเกต สัญญาณตั้งครรภ์ ก็ควรซื้อชุดตรวจตั้งครรภ์มาตรวจ หรือไปตรวจกับแพทย์เพื่อจะได้ทราบผลที่แน่ชัด จะได้รีบไปฝากครรภ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
10 สัญญาณคลอดก่อนกำหนด แม่ท้องเช็กด่วน! ถ้าไม่อยากต้องเสียลูก
อาการคนท้องเดือนแรก มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง คุณอาจจะยังไม่รู้ตัว
สัญญาณอันตรายของคนท้อง อาการผิดปกติของคนท้องที่ต้องไปพบแพทย์ด่วน
ที่มา : wehavekids, s-momclub
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!