คนท้องกินน้ำขิงได้ไหม แม่ท้องดื่มน้ำขิงจะเป็นอะไรหรือเปล่า?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ในช่วงตั้งครรภ์ เรื่องอาหารการกินเป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ควรใส่ใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการรับประทานสมุนไพรบางชนิด คุณแม่บางคนอาจสงสัยว่า คนท้องกินน้ำขิงได้ไหม กินได้มากเท่าไหร่ คนท้องกินน้ำขิงแล้วจะเป็นอะไรหรือเปล่า วันนี้ theAsianparent Thailand จะพาคุณแม่ทุกคนมาไขข้อสงสัยเอง พร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

 

คนท้องกินน้ำขิงได้ไหม?

สำหรับคุณแม่ที่กำลังสงสัยว่าคนท้องดื่มน้ำขิงได้ไหม คำตอบคือ ได้ค่ะ เพราะการดื่มน้ำขิงระหว่างตั้งครรภ์นั้น ให้ประโยชน์แก่คุณแม่มากมาย อย่างไรก็ตาม คุณแม่อาจจะต้องระมัดระวังปริมาณความเข้มข้นของขิง ไม่ให้เข้มข้น เผ็ดจนเกินไป หรือหวานจนเกินไป เพราะอาจส่งผลอันตรายให้แก่ร่างกายอย่างเช่น โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และยังส่งผลให้เกิดอันตรายต่อลูกในครรภ์ด้วย เช่น การคลอดก่อนกำหนด หรือภาวะการแท้งบุตร เป็นต้น ดังนั้นหากคุณแม่อยากรับประทานน้ำขิง ก็ควรกินในช่วงที่รู้สึกอยากก็พอแล้วค่ะ

 

คนท้องกินน้ำขิงได้มากเท่าไหร่?

โดยทั่วไปแล้ว น้ำขิงเป็นเครื่องดื่มที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่คุณแม่ควรระมัดระวังความเข้มข้นของขิง ไม่ให้เข้มข้นจนเกินไป โดยการรับประทานขิง 1 กรัมต่อวันนั้น เรียกได้ว่าปลอดภัยสำหรับคุณแม่เป็นอย่างมาก ซึ่งขิง 1 กรัมเท่ากับชาขิง 4 ถ้วย หรือชาขิงที่ทำจากขิงสด 1 ช้อนชานั่นเอง นอกจากนี้ยังไม่มีงานวิจัยที่พบว่าการรับประทานขิง จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ หรือเสี่ยงให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดด้วย อย่างไรก็ตามคุณแม่ที่กำลังใกล้คลอด เคยมีประวัติเลือดออก และแท้งบุตรมาก่อน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชาขิงไปก่อนดีกว่า เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย และลูกน้อยในครรภ์ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : น้ำขิง ดีต่อแม่ท้องอย่างไร? สรรพคุณของขิง มีดีช่วยเพิ่มน้ำนมแม่

 

 

สูตรน้ำขิงสำหรับคนท้อง

สำหรับสูตรน้ำขิงคนท้อง คุณแม่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการเตรียมน้ำร้อน 1 แก้ว จากนั้นนำขิงมาบดกรองผ่านผ้าขาวบางประมาณ 1 ช้อนชา แล้วนำมาผสมกับน้ำร้อนในแก้วที่เตรียมไว้ แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วอาจจิบน้อย ๆ เพื่อเช็กความเข้มข้นของขิง หากคุณแม่ไม่ชอบรสเผ็ดร้อน สามารถเติมความหวานได้ด้วยการเติมน้ำผึ้ง หรือเลมอนได้ค่ะ ยิ่งถ้าดื่มในตอนเช้า ๆ ก่อนรับประทาน ก็จะส่งผลดีให้แก่ร่างกายคุณแม่ได้เป็นอย่างดี

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ประโยชน์การดื่มน้ำขิงระหว่างตั้งครรภ์

การดื่มน้ำขิงระหว่างตั้งครรภ์ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามิน 4 ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส และโปรตีน เป็นต้น นอกจากนี้การดื่มน้ำขิง ยังสามารถช่วยให้ร่างกายคุณแม่ และลูกน้อย ได้รับประโยชน์ดังต่อไปนี้

  • ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

หากคุณแม่ดื่มน้ำขิงในช่วงตั้งครรภ์ ก็จะช่วยให้ร่างกายกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ลูกในครรภ์ได้รับปริมาณเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยปรับความดันโลหิต และช่วยทำให้เลือดแข็งตัวได้ช้าลงอีกด้วยค่ะ

  • ช่วยลดกรดในกระเพาะ

สำหรับคุณแม่ที่มีอาการเสียดท้อง แน่นท้อง และท้องอืด เพราะมีกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป สามารถดื่มน้ำขิงในช่วงมื้อเย็น เพื่อช่วยให้ร่างกายขับไล่ลมออกจากกระเพาะ และยังช่วยแก้ท้องอืด และปรับระบบการทำงานของลำไส้ให้กลับมาเป็นปกติได้

  • ช่วยลดคอเลสเตอรอล

อย่างที่รู้กันดีกว่า น้ำขิงสามารถช่วยลดระดับไขมัน และช่วยดูดซึมคอเลสเตอรอลออกจากลำไส้ได้ หากคุณแม่อยากลดระดับไขมันส่วนเกิน ก็สามารถดื่มน้ำขิงเพื่อช่วยให้ร่างกายรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย และสบายตัวได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้กลิ่นของน้ำขิง ยังสามารถช่วยลดความเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ได้อีกด้วย

  • ช่วยลดอาการแพ้ท้อง

ในช่วงที่คุณแม่แพ้ท้อง การดื่มน้ำขิงสามารถช่วยคลายอาการอ่อนเพลียให้คุณแม่ได้ ทำให้คุณแม่รู้สึกอบอุ่น สบายตัว และผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น โดยเมื่อคุณแม่ได้จิบ และสูดดมกลิ่นของขิง ก็จะช่วยลดอาการเครียด และความวิตกกังวลในระหว่างตั้งครรภ์ได้อีกเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง : ขิงสรรพคุณมากล้นดีต่อร่างกาย 11 ประโยชน์เน้นๆ ของดีของมันต้องมีติดครัว!

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  • ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน

การดื่มน้ำขิงระหว่างตั้งครรภ์ ช่วยแก้อาการป่วยในช่วงตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหวัด ไอ มีเสมหะ หรือการเจ็บคอ การดื่มน้ำขิงจะช่วยบรรเทาอาการ และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยให้คุณแม่นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น

  • ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย

เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ ก็ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และทำให้ร่างกาย และกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ทำงานหนักขึ้นจนเกิดอาการปวดหลัง ดังนั้นการดื่มน้ำขิงสด ๆ ในปริมาณที่ไม่เข้มข้น จะช่วยบรรเทาอาการปวดตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดีค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ช่วยในการดูดซึมสารอาหาร

การดื่มน้ำขิง ช่วยให้ร่างกายของคุณแม่ดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ มาใช้ในร่างกายได้มากขึ้น และยังช่วยให้ลูกน้อยในครรภ์ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เพื่อการเจริญเติบโตของร่างกายได้อีกด้วย

  • ช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง

นอกจากการดื่มน้ำขิง จะช่วยให้ร่างกายคุณแม่แข็งแรง และได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว น้ำขิงยังมีวิตามินซี และธาตุเหล็กที่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้แก่ลูกน้อยในครรภ์ได้อีกด้วย รวมทั้งยังช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคพิการแต่กำเนิดได้อีกเช่นกันค่ะ

 

ข้อควรระวังในการดื่มน้ำขิง

แม้ว่าการดื่มน้ำขิงในระหว่างการตั้งครรภ์ จะช่วยให้ร่างกายคุณแม่ และลูกน้อยได้รับประโยชน์มากมาย แต่คุณแม่ก็ควรระมัดระวังการดื่มน้ำขิงที่เข้มข้น และมากเกินไป โดยข้อควรระวังในการดื่มน้ำขิงนั้น มีดังนี้

  • คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์การรับประทานผลิตภัณฑ์ขิง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณแม่สามารถดื่มน้ำได้มากน้อยเท่าไหร่
  • สำหรับคุณแม่ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำขิง เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นได้
  • หากคุณแม่ดื่มน้ำขิงในปริมาณที่เข้มข้นมากเกินไป ก็อาจเสี่ยงต่อภาวะการคลอดก่อนกำหนด หรือมีโอกาสที่จะทำให้เกิดการแท้งบุตรได้
  • ขิงเป็นสมุนไพรที่มีรสชาติเผ็ดร้อน หากคุณแม่มีอุณหภูมิในร่างกายที่สูงอยู่แล้ว ดื่มเข้าไปก็อาจจะเพิ่มความร้อนให้แก่ร่างกาย จนเกิดอันตรายแก่ลูกน้อยในครรภ์ได้

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ตอนนี้คุณแม่คงทราบกันแล้วใช่ไหมคะว่า คนท้องกินน้ำขิงได้ไหม หากคุณแม่อยากดื่มน้ำขิง ก็สามารถดื่มได้เลยนะคะ เพราะน้ำขิงอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย ทั้งนี้คุณแม่ก็ควรระมัดระวังไม่ให้น้ำขิงเข้มข้นมากจนเกินไปนะคะ เพราะหากดื่มเข้าไป ก็อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ได้

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ขนมปังขิง คืออะไร? ทำไมเด็ก ๆ เห็นแล้วต้องชอบ มาดูกัน

น้ำขิงแก้แพ้ท้อง ดี่มน้ำขิงเอาชนะอาการแพ้ ดีต่อแม่ท้องอ่อน

7 น้ำขิง ชาขิง ที่ดีที่สุดอร่อย ควรเลือกยี่ห้อไหนดีที่มีประโยชน์สูง

ที่มา : kapook, sanook, healthline

บทความโดย

Napatsakorn .R