ในช่วงตั้งครรภ์ การรับประทานอาหารเป็นสิ่งสำคัญที่แม่ท้องต้องใส่ใจ คุณแม่หลายคนอาจเคยได้ยินกันว่าคนท้องห้ามกินอาหารทะเล โดยเฉพาะ “หอย” เพราะจะเป็นอันตรายต่อลูกในท้อง วันนี้เราจะพามาดูกันว่าจริง ๆ แล้ว ทำไมคนท้องห้ามกินหอย กินแล้วจะเป็นอันตรายอย่างไร ไปติดตามกัน
รู้จักความเชื่อเรื่องหอย
-
ความเชื่อ
ข้อห้ามอยู่ข้อหนึ่ง ที่พูดถึงกันค่อนข้างบ่อย เกี่ยวกับอาหารการกิน ก็คือ เขาบอกว่า คนท้องนั้นห้ามไม่ให้กิน “หอย” เรื่องนี้เป็นข้อห้ามที่บอกเล่าสืบกันมาจากคนสมัยก่อน ท่านว่าสาเหตุที่ห้ามไม่ให้คนท้องกินหอยนั้นก็เพราะ จะทำให้คลอดยาก เหมือนหอยที่ติดคาอยู่กับเปลือกออกมาไม่ได้ และยังทำให้เวลาคลอดจะมีกลิ่นคาวรุนแรง ดังนั้นจึงห้ามไม่ให้กิน ให้งดไว้เสียในช่วงตั้งแต่การตั้งครรภ์
-
ควรพิจารณาด้วยเหตุผล
หอยเป็นเนื้อสัตว์ที่มีเชื้อโรคปะปนง่าย ทั้งจากเปลือกหอยที่ล้างไม่สะอาด หรือปรุงอาหารแบบไม่สุก จึงอาจจะมีเชื้อโรคและพยาธิปะปนเวลารับประทาน ซึ่งจะทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษหรือท้องร่วงได้ง่าย แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการคลอดลูกยากแต่อย่างใด
ทำไมคนท้องห้ามกินหอย กินไม่ได้จริงหรือ
แม้ว่าหอย จะเป็นอาหารกลุ่มเสี่ยง ต่ออาการท้องเสีย แต่ก็มีประโยชน์อย่างมาก สำหรับคนทั่วไป และคนท้อง เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งโปรตีน เหล็ก และไอโอดีน บำรุงเลือดและร่างกายได้ดี แต่ข้อควรระวังคือ ควรรับประทานในปริมาณพอเหมาะ และสะอาด ปรุงสุกทุกครั้ง
ประโยชน์ของหอย
-
หอยขม
หอยขมเป็นหอยน้ำจืดขนาดเล็ก มีเปลือกเป็นเกลียวกลมยอดแหลม เปลือกหนาและแข็ง ผิวชั้นนอกเป็นสีเขียวแก่ ฝาปิดเปลือกเป็นแผ่นกลม ตีนใหญ่ จะงอยปากสั้นทู่ ตามีสีดำอยู่ตรงกลางระหว่างโคนหนวด ตัวผู้มีหนวดข้างขวาพองโตกว่าเส้นข้างซ้าย ลักษณะพิเศษของหอยชนิดนี้จะมีอวัยวะเพศทั้งเพศผู้และเพศเมียอยู่ในตัวเดียวกัน ออกลูกเป็นตัว และผสมพันธุ์ได้ด้วยตัวเอง
ในตำราแพทย์แผนไทย เปลือก และใช้ทั้งตัว สรรพคุณแก้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ท้องมาน อัมพาต แก้ธาตุดินพิการ บำรุงกระดูก รักษาอาการปวดกระดูก ขับเมือกมันในลำไส้ บำรุงถุงน้ำดี บำรุงลำไส้ แก้ต้อต่าง ๆ
-
หอยนางรม
หอยนางรมมีสารอาหารหลายอย่างเช่นโปรตีน สังกะสี เหล็ก โพแทสเซียม วิตามินดี และกรดไขมันโอเมก้า 3 โปรตีนและสังกะสีช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์และโพแทสเซียมช่วยปรับสมดุลของของเหลว กรดไขมันโอเมก้า 3 สนับสนุน การพัฒนาสมองของทารก และสามารถช่วยลดความเสี่ยง ของภาวะครรภ์เป็นพิษ และการคลอดก่อนกำหนด ธาตุเหล็ก ช่วยลดความเสี่ยง ในการเกิดโรคโลหิตจาง ซึ่งอาจพบได้บ่อยในการตั้งครรภ์
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องควรรู้ คนท้องกินหอยนางรมได้ไหม กินแล้วอันตรายหรือเปล่า?
อาการแพ้หอยเป็นอย่างไร
อาการแพ้หอย จะเกิดขึ้นภายใน 30 นาที หลังรับประทานหอย เริ่มจาก อาการชาบริเวณปาก ลิ้น และหน้า รู้สึกตัวลอย รู้สึกปวดแสบร้อนที่ลิ้น ในปาก และตามแขนขา ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วง หายใจลำบาก พูดไม่ชัด กลืนลำบาก เดินโซเซ กล้ามเนื้อสั่นกระตุก และชัก ต่อมากล้ามเนื้อหายใจจะเป็นอัมพาต การนำกระแสคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ใน 2-12 ชั่วโมง ดังนั้น หากคุณแม่ทราบอยู่แล้ว ว่าตนเองแพ้หอย ไม่ควรรับประทานเด็ดขาด
ประโยชน์ของอาหารทะเล
สัตว์มีเปลือก (Shellfish) จากทะเลมีปริมาณโปรตีนสูงและไขมันต่ำ โดยเฉพาะปูและกุ้ง อาหารทะเลประเภทนี้จึงเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและมีคุณภาพเมื่อรับประทานอย่างเหมาะสม สัตว์ทะเลมีเปลือกเหล่านี้ยังเป็นแหล่งแร่ธาตุที่สำคัญ อย่างไอโอดีน (Iodine) ที่จำเป็นต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์และสมอง วิตามินบี 12 ที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจ สังกะสีช่วยให้ระบบภูมิต้านทานทำงานได้เป็นปกติ นอกจากนี้ สัตว์ทะเลมีเปลือกบางชนิดยังมีสารแอสตาแซนทิน (Astaxanthin) หรือสารสีส้มที่มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยสารชนิดนี้จะช่วยยับยั้งและชะลอการเสื่อมของเซลล์ที่มีสาเหตุจากสารอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคบางโรค
วิธีการเลือกหอยให้ปลอดภัย
กุ้ง ปู และหอย ควรมีลักษณะสด มีเปลือกที่ดูใส มีกลิ่นคาวเล็กน้อยหรือไม่มีกลิ่นเลย ควรเลือกตัวที่ดูสดและยังมีชีวิต อาจสังเกตได้จากขาหรือหนวดที่ขยับได้ของกุ้งและปู หรือฝาหอยที่ปิดเมื่อใช้นิ้วแตะ หลีกเลี่ยงการซื้อหอยที่เปลือกมีรอยร้าวหรือแตก
อาหารประเภทไหนที่คนท้องควรหลีกเลี่ยง
นอกจากอาหารที่กล่าวไปนั้นยังมีอาหารประเภทอื่น ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงด้วย เช่น
- อาหารที่มีส่วนผสมของเกลือมาก เช่น อาหารดอง ขนมกรุบกรอบที่มีโซเดียมสูง เพราะเสี่ยงต่อครรภ์เป็นพิษ
- อาหารแช่แข็ง อาหารที่เก็บไว้ในระยะเวลานาน เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
- ตับ เนื่องจาก ตับ มีวิตามินเอค่อนข้างมาก ซึ่งหากมากเกินไป จะส่งผลต่อลูกในครรภ์ได้ แต่หากมีการปรุงสุกแล้ว สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่พอดี
- ปลาบางชนิด เช่น ปลากระโทงแทง ปลาฉลาม เนื่องจาก มีปรอทปริมาณมากไม่ปลอดภัยต่อร่างกาย
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินอาหารทะเล มีประโยชน์ต่อลูกน้อยในครรภ์ ช่วยพัฒนาสมอง
เคล็ดลับการเลือกซื้ออาหารทะเล ให้ปลอดภัย
-
ควรซื้อวัตถุดิบจากหลาย ๆ แหล่ง
เนื่องจาก การทำประมงบางพื้นที่ อาจเสี่ยงต่อการได้รับสารพิษจากน้ำเสีย หรือโรงงานอุตสาหกรรม การเลือกซื้อจากหลายแหล่งอาจช่วยลดความเสี่ยง ในการได้รับสารพิษน้อยลง
-
ควรปรุงวัตถุดิบที่ซื้อในวันเดียวกันหรือในระยะเวลาเร็วที่สุด
เพื่อให้ได้รับรสชาติ และสารอาหารอย่างเต็มที่ และยังเป็นการป้องกันการรับประทานอาหารที่เสื่อมคุณภาพ
-
อาหารทะเลเน่าเสียได้ง่าย
ควรรับประทานทันทีหลังปรุงเสร็จ หากต้องการเก็บ ควรแช่ไว้ในตู้เย็น
-
ควรเก็บวัตถุดิบในอุณหภูมิที่เหมาะสมและมิดชิด
โดยปลา กุ้ง และหมึก ควรล้างให้สะอาดก่อน ซับให้แห้ง จากนั้นนำไปใส่ลงในถุงซิปล็อกหรือกล่องพลาสติกที่ปิดสนิท แล้วนำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา ส่วนหอยก็สามารถเก็บแช่แข็งในตู้เย็นได้เหมือนกัน
-
หากแพ้ควรงดรับประทาน
หากแพ้อาหารทะเล ควรงดการรับประทาน หรือปรุงอาหารด้วยสัตว์ทะเลชนิดนั้น เด็ดขาด และจัดวางอาหารทะเลชนิดนั้นแยกกับอาหารประเภทอื่น ๆ
-
เลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ
เพื่อป้องกัน การได้รับสารเคมีที่ใช้ในการยืดอายุอาหาร
-
ตรวจสอบวันหมดอายุทุกครั้ง
ในการเลือกซื้ออาหารทะเลแช่แข็ง ควรตรวจสอบวันหมดอายุก่อนทุกครั้ง และเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ไม่มีรอยฉีกขาด
-
ล้างมือให้สะอาด
ล้างมือด้วยสบู่อย่างน้อย 20 วินาทีทุกครั้งหลังสัมผัสอาหารสด
-
ล้างอุปกรณ์เครื่องครัวให้สะอาด
ล้างอุปกรณ์ทำครัว อย่างมีดและเขียง ให้สะอาดก่อนนำไปใช้หั่นอาหารชนิดอื่น
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไขข้อข้องใจ คุณแม่ตั้งครรภ์กินกุ้งสด ได้ไหม คุณแม่สายอาหารทะเลทั้งหลายควรรู้
อาการในคนท้องกินอะไรถึงช่วยได้
-
โลหิตจาง
ช่วงที่ตั้งครรภ์เม็ดเลือดแดงจะถูกสร้างเพิ่มขึ้น เพื่อนำออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงร่างกายของคุณแม่กับเจ้าตัวน้อย และเพื่อชดเชยการสูญเสียเลือดในขณะคลอดอีกด้วย ถ้ารู้สึกเหนื่อย หน้าซีด มือเล็บซีด เป็นลมง่าย ก็น่าสงสัยว่าจะได้รับธาตุเหล็กน้อยไป อาหารที่ควรรับประทาน เช่น ตับ เนื้อไม่ติดมัน อาหารทะเล นม ไข่ งา ถั่วเหลือง ผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง ผักปวยเล้ง และมะเขือเทศ วิตามินซีช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น แต่ไม่ควรซื้อวิตามินสำเร็จรูปมากินเอง ควรปรึกษาคุณหมอที่ฝากท้องก่อน
-
ท้องผูก
ขณะตั้งครรภ์ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่คอยป้องกันมดลูกบีบตัวแรง กลับทำให้กล้ามเนื้อลำไส้ผ่อนคลายและหดตัวน้อยไปด้วย ลำไส้จะเคลื่อนที่ช้าลง น้ำถูกดูดซึมกลับเข้าร่างกายจำนวนมาก ทำให้อุจจาระแข็ง เกิดอาการท้องผูกได้ ยิ่งถ้าเป็นเส้นเลือดขอดบริเวณทวารหนัก เนื่องจากน้ำหนักของมดลูกไปทับเส้นเลือดดำตรงนั้นพอดีกลายเป็นริดสีดวงได้ง่าย ๆ ควรรับประทานอาหารให้เป็นเวลา ดื่มน้ำมาก ๆ รับประทานผัก ผลไม้ และอาหารที่มีเส้นใยสูง เพื่อช่วยในการขับถ่าย เช่น รำข้าว ข้าวซ้อมมือ ขี้เหล็ก มะขาม ลูกพรุน ไม่ควรซื้อยาระบายมารับประทานเอง เพราะอาจเป็นอันตรายต่อเด็กในครรภ์
ตอนนี้คุณแม่ก็คงได้คำตอบกันแล้วว่า ทำไมคนท้องห้ามกินหอย แต่หากคุณแม่อยากกินจริง ๆ ควรปรุงให้สุกก่อน และรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะการรับประทานหอยที่ไม่สะอาดและปรุงไม่สุก ก็อาจเสี่ยงต่อเชื้อโรคและแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินหอยแครงได้ไหม แม่ท้องอยากกินหอยแครง ทำไงดี
คนท้องกินปูได้ไหม? ปูนึ่ง ปูไข่ดอง และเมนูอื่น ๆ จะดีกับครรภ์หรือไม่?
อาหารแสลงห้ามกินหลังคลอด กินแล้วน้ำนมหด เลือดลมตี แม่ลูกอ่อนต้องระวัง!!
ที่มา : th.openrice, pobpad, paolohospital