คนท้องไตรมาสที่สาม มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
คนท้องไตรมาสที่สาม มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง อาการที่แม่ท้องต้องเจอในช่วงโค้งสุดท้าย คนท้องต้องรับมือกับอาการเหล่านี้อย่างไร อาการแบบไหนอัตราย จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องไปพบแพทย์เมื่อไหร่ เจ็บท้องคลอดลูกเป็นแบบไหน วิธีดูแลตัวเองของคนท้องในไตรมาสที่สาม ช่วงนี้คุณแม่ต้องเจออะไรบ้างนะ
การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายคนท้อง
- เจ็บท้องหลอก: คนท้องในช่วงไตรมาสสุดท้ายมักจะมีอาการปวดท้องเป็นระยะๆ แต่ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นช่วงบ่ายหรือเย็น หรือหลังจากการออกกำลังกาย และการมีเพศสัมพันธ์ตอนท้องค่ะ แต่พอยิ่งใกล้คลอดเท่าไหร่ อาการบีบรัดก็จะยิ่งเกิดบ่อยขึ้น ถี่มากขึ้น และมีความรุนแรงมากขึ้น บางคนมีอาการท้องแข็งร่วมด้วย
- อาการปวดหลัง: ฮอร์โมนของคนท้องมีความเกี่ยวพันธ์กับกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานได้เช่นกัน เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ทำให้คุณแม่รู้สึกอึดอัดมากขึ้น และหญิงท้องที่ใหญ่มากขึ้นยิ่งทำให้จะลุก จะเดิน จะนอน จะนั่งก็ยิ่งลำบาก เวลาที่คุณแม่ปวดหลังขณะนั่งแนะนำให้พยายามเลือกเก้าอี้ที่มีพนักพิงหลังดีๆ หาแผ่นประคบร้อนหรือใช้น้ำแข็งประคบบริเวณที่ปวด จากนั้นควรหาเวลาออกกำลังกายเพื่อยืดกล้ามเนื้อบ้าง ที่สำคัญเลือกสวมรองเท้าส้นเตี้ย รองรับน้ำหนักตัวและรูปเท้าได้ดีค่ะ
- หายใจเร็วขึ้น: คนท้อง ท้องใหญ่อาจจะมีอากรเหนื่อยง่าย ทำให้ต้องหายใจเร็ว หรือถี่มากขึ้น เพื่อดึงเอาออกซิเจนเข้าไปในร่างกายมากๆ ดังนั้น คุณแม่ควรฝึกการหายใจเพื่อบริหารปอด สำหรับคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ การฝึกการหายใจเป็นสิ่งจำเป็นที่คุณแม่ควรฝึกไว้เช่นกันค่ั
- กรดไหลย้อน: อาการนี้ยังคงตามมาถึงไตรมาสที่ 3 เพราะคุณแม่มีขนาดหน้าท้องที่ใหญ่ขึ้น พื้นที่ในกระเพาะยิ่งน้อยลงไปอีก ทำให้การย่อยลำบาก โดยเฉพาะคุณแม่ที่ทานอาหารเสร็จแล้วแล้วนอนเลย เนื่องจากว่ากรดในกระเพาะอาหารไหลเข้าสู่หลอดอาหารทำให้เกิดอาการแน่น จุกเสียดท้อง วิธีป้องกัน คือ คุณแม่ต้องแบ่งอาหารออกเป็นมื้อเล็กๆ หลีกเลี่ยงอาหารทอด ผลไม้รสเปรี้ยว ช็อคโกแลต และอาหารที่มีรสเผ็ดค่ะ
- เส้นเลือดขอด และริดสีดวงทวาร: เมื่อร่างกายของคนท้องฉีดสูบเลือดเพิ่มขึ้น ทำให้คุณแม่เจอกับอาการเส้นเลือดบวมหรือเส้นเลือดขอดได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นขา หรือทางทวารหนักก็ตาม และสิ่งที่ตามมาคือ คุณแม่จะรู้สึกเจ็บปวดและคันเป็นอย่างมาก สำหรับวิธีแก้อาการเส้นเลือดขอดนะคะ แนะนำให้คุณแม่ยกขาขึ้นบ่อยๆ ออกกำลังกายบ้าง และถ้าไม่อยากเป็นโรคริดสีดวงทวารก็ให้ทานอาหารที่มีไฟเบอร์เยอะๆ ดื่มน้ำมากๆ สำหรับคุณแม่ที่เป็นอยู่แล้วอาจแช่น้ำอุ่นเพื่อบรรเทาอาการได้ค่ะ
- ปัสสาวะบ่อย: ในช่วงโค้งสุดท้ายคุณแม่จะรู้สึกปัสสาวะบ่อยขึ้นไปอีก เนื่องจากลูกน้อยเริ่มเลื่อนลงไปที่อุ้งเชิงกรานแล้ว เมื่อมดลูกกดทับกระเพาะปัสสาวะจึงทำให้คุณแม่ต้องปัสสาวะบ่อยๆ นั่นเองค่ะ สิ่งที่ต้องระวังก็คือ เวลาไปหรือจาม หัวเราะ หรือยกของ อาจทำให้คุณแม่เกิดอาการปัสสาวะเล็ดได้
การเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์ของคนท้อง
ในช่วงนี้คุณแม่มักจะเริ่มรู้สึกกลัวการคลอดลูก และกังวลมากขึ้น เช่น เราจะคลอดลูกเมื่อไหร่ เจ็บท้องแบบนี้จะคลอดลูกหรือเปล่า ต้องรีบไปหาหมอไหม ใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะคลอด ต้องทำอย่างไรระหว่างรอคลอด ยิ่งคิดยิ่งกังวลปนๆ กับความตื่นเต้นที่จะได้เจอลูกแล้ว คุณแม่อาจจะพูดคุยเรื่องราวเหล่านี้กับคุณแม่ท่านอื่นเพื่อลดความกังวลใจค่ะ
ในระหว่างที่รอลูกคลอด เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องเตรียมจัดกระเป๋าคลอด ของชิ้นไหนที่ต้องเตรียมไปโรงพยาบาล สิ่งไหนที่แม่ต้องใช้หลังจากออกจากโรงพยาบาล แล้วลูกน้อยต้องใช้อะไรบ้าง หลังกลับมาอยู่บ้านแล้วล่ะ อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ลูกต้องพร้อม อาจจะเอาเท่าที่จำเป็นก่อนก็ได้นะคะ
การดูแลตัวเองของคนท้องไตรมาสที่สอง
สำหรับแม่ท้องไตรมาสสุดท้ายอาจได้รับการตรวจมากขึ้น โดยคุณแม่จะทำการประเมินน้ำหนัก วัดความดันโลหิตของคุณแม่ สอบถามถึงอาการต่างๆ ระหว่างตั้งครรภ์ เพื่อหาคสามผิดปกติ วัคซีนบางชนิดที่คุณแม่จำเป็นต้องฉีด หรือวิธีคัดกรองลูกน้อยจากโรคต่างๆ สำหรับโรคที่มักเจอกับคุณแม่บ่อยๆ ได้แก่
- โรคเบาหวาน: โรคเบาหวานชนิดหนึ่งพบมากในหญิงตั้งครรภ์ คุณหมอมักจะให้คุณแม่ควบคุมอาหารเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือด เวลาคลอดลูกจะได้ไม่เป็นปัญหากับลูกน้อยในอนาคตค่ะ
- โรคโลหิตจาง: โรคนี้คนท้องก็เป็นบ่อยเช่นกัน ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กส่งผลให้เซลล์มีเม็ดเลือดแดงไม่เพียงพอในการลำเลียงออกซิเจนไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อเลือดไม่พอก็จะยิ่งทำให้คุณแม่เหนื่อยง่ายไปอีก วิธีเดียวคือการเสริมธาตุเหล็กค่ะ
ที่มา: self
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
คนท้องไตรมาสแรก มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง และควรดูแลตัวเองอย่างไรในช่วงนี้
คนท้องไตรมาสที่สอง มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ควรดูแลตัวเองอย่างไรในช่วงนี้
ทําไมคนท้องชอบนอน คนท้องนอนเยอะ คนท้องนอนนาน อันตรายหรือไม่ คนท้องนอนท่าไหนดี