คุณแม่ท้องชื่นชอบการกินมันฝรั่งเป็นพิเศษรึเปล่าคะ? ทานทุกวันเลยรึเปล่า? หากคำตอบคือ ใช่ ให้รู้ไว้เลยว่าคุณแม่กำลังมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์!
การศึกษาครั้งนี้ จัดทำโดยนักวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งพบว่า ผู้หญิงท้องที่กินมันฝรั่งทุกวันอย่างต่อเนื่อง จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากการศึกษานี้ค้นพบว่า มันฝรั่งมีแป้งที่เป็นตัวเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างรุนแรง
การศึกษาวิจัยจากกลุ่มผู้หญิงท้องกว่า 21,963 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ทานมันฝรั่งอย่างต่อเนื่องทุกวันด้วยวิธีการปรุงแบบอบหรือต้ม ซึ่งการศึกษาวิจัยครั้งนี้ใช้เวลายาวนานถึง 10 ปี จนพบว่า ผู้หญิงท้องกว่า 854 คนเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
สรรพคุณของมันฝรั่ง
มันฝรั่งไม่ควรแช่ ในตู้เย็น
- หัวมีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิตสูงและช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว (หัว)
- ช่วยลดไขมัน ด้วยการใช้หัวมันฝรั่งมาปรุงเป็นอาหารรับประทาน (หัว)
- ช่วยป้องกันและรักษาโรคโลหิตจางได้ เพราะร่างกายจะดูดซึมธาตุเหล็กกับวิตามินซีที่มีอยู่ในหัวมันฝรั่ง ซึ่งจะช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงในร่างกาย
- ใบมีสรรพคุณช่วยทำให้หลับ (ใบ)
- หัวมีสรรพคุณเป็นยาระงับประสาท (หัว)
- มันฝรั่งก็ช่วยบำรุงสมองได้ เพราะอุดมไปด้วยวิตามินบี 6 ที่เป็นตัวช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ทำให้ผลิตสารสื่อประสาทได้อย่างเป็นปกติ เช่น เซโรโทนิน (ช่วยกระตุ้นอารมณ์), กาบา (ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย), และอดรีนาลิน (ช่วยลดความเครียด) โดยปริมาณที่แนะนำให้รับประทานต่อวันคือ ครึ่งถึงหนึ่งถ้วยตวง (ทั้งแบบบดและแบบต้ม) และไม่ควรรับประทานมากกว่านี้ เพราะมีวิตามินซีอยู่ จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร จนทำให้รู้สึกท้องอืดเฟ้อได้
- ชาวเปรูจะนำมันฝรั่งมาทาบริเวณศีรษะเพื่อช่วยรักษาอาการปวดศีรษะ (หัว)
- มันฝรั่งมีวิตามินซีมาก จึงช่วยป้องกันไข้หวัดได้ (หัว)
- นอกจากจะช่วยป้องกันหวัดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย (หัว)
- ตำรับยาแก้คางทูม ให้ใช้มันฝรั่ง 1 ลูก นำมาฝนกับน้ำส้มสายชู แล้วนำมาทาบริเวณที่เป็น เมื่อแห้งแล้วให้ทาซ้ำจนหาย (หัว)
ประโยชน์ของมันฝรั่ง
คนท้องกินน้ำมะพร้าวได้ไหม
- หัวมันฝรั่งเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง คือ มีปริมาณของแป้ง โปรตีน แร่ธาตุ และวิตามินบางชนิดอยู่ในเกณฑ์สูง จึงใช้เป็นอาหารประจำวันได้เป็นอย่างดี ซึ่งประชาการในยุโรปและอเมริกาจะรับประทานมันฝรั่งเป็นอาหารหลักแทนข้าว ด้วยวิธีการนำมาต้ม ทอด อบ ฯลฯนอกจากนี้ยังพบว่าโปรตีนที่ได้จากมันฝรั่งมีคุณภาพสูงกว่าโปรตีนที่ได้จากถั่วลิสงอีกด้วย และด้วยการที่มันฝรั่งอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด
- นอกจากจะใช้เป็นอาหารของมนุษย์โดยตรงแล้วยังนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ได้อีกด้วย ด้วยการใช้หัวสดต้มหรือหมักเป็นอาหารของวัว ควาย และสุกรมันฝรั่งสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง เช่น การนำมาทำแป้ง นำมาหั่น ๆ บางแล้วทอดกรอบ
- มันฝรั่ง ลดความอ้วนได้นะ ! หลาย ๆ คนอาจเคยเข้าใจผิดว่าหากรับประทานมันฝรั่งมากก็จะยิ่งทำให้อ้วน แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้อย่างที่คุณคิดทั้งหมด ซึ่งความจริงก็คือ เจ้ามันฝรั่งนี้แหละที่เป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักและความอ้วนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะจะช่วยทำให้อิ่มท้องได้นาน ทำให้ไม่รู้สึกหิวง่าย และช่วยลดการกินจุกจิก อีกทั้งมันฝรั่งยังเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำและอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด แต่อย่างไรก็ตามถ้านำมันฝรั่งมาปรุงแบบผิดวิธี มันก็ทำให้อ้วนได้เหมือนกัน เพราะมันฝรั่งสามารถดูดซับเครื่องปรุงต่าง ๆ โดยเฉพาะน้ำมันได้มากถึง 30-40% คุณอาจจะเคยชินกับการกินฝรั่งในรูปของมันฝรั่งทอด เฟรนช์ฟรายด์
- มันฝรั่งสามารถช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาได้เพราะมันฝรั่งมีเอนไซม์ที่ทำให้สีผิวดูอ่อนและจางลงได้ จึงช่วยลดความหมองคล้ำลงได้ชั่วคราว วิธีนี้จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการแก้ปัญหาตาคล้ำอย่างเร่งด่วนได้เป็นอย่างดี วิธีการก็คือให้นำมันฝรั่งมาฝานบาง ๆ นำมาแปะดวงตาไว้ประมาณ 15-20 นาที (หากนำมันฝรั่งไปแช่เย็นก่อนนำมาใช้ก็จะยิ่งดี เพราะจะช่วยลดปัญหาตาบวมและทำให้ตาสดชื่นได้ด้วย)
ลูกกิน เยอะ
5.มันฝรั่งก็ทำให้ผิวชุ่มชื้นได้ ด้วยการใช้น้ำมันฝรั่งต้ม 4 ช้อนโต๊ะ และนม 140 มิลลิกรัม ขั้นตอนแรกให้นำมันฝรั่งมาต้ม แล้วกรองเอาน้ำต้มที่ได้มา 4 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงไปในนมแล้วคนให้เข้ากัน เก็บใส่ขวดแล้วยำไปแช่เย็น เมื่อจะนำมาใช้ก็ให้เขย่าขวดก่อน แล้วนำมาทาหน้าด้วยการนวดเบา ๆเป็นวงกลม ทิ้งไว้สักครู่แล้วจึงใช้ผ้าซับออก
6.มันฝรั่งกับการทำความสะอาดผิว ให้ใช้น้ำต้มมันฝรั่ง 2 ช้อนชา, สบู่ป่น 2 ช้อนชา, เนย 2 ช้อนชา, และน้ำมันอัลมอนด์ 8 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนแรกให้นำสบู่และน้ำมันอัลมอนด์ใส่ถ้วย และอุ่นในน้ำร้อนจนผสมเข้ากัน จากนั้นใส่เนยลงไปคนและตามด้วยน้ำต้มมันฝรั่ง แล้วนำออกจากเตาและคนต่อไปอีกจนส่วนผสมเย็นตัวลง เสร็จแล้วเก็บไว้ในขวด เมื่อจะใช้ก็ให้นำครีมที่ได้มาใช้ทำความสะอาดใบหน้าเหมือนโลชั่น ด้วยการนวดคลึงใบหน้าเบา ๆ เป็นวงกลม ทิ้งไว้สักครู่ แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น
7.มาส์กหน้ามันฝรั่งสูตรผิวกระชับผิวเต่งตึงกระชับรูขุมขน และทำให้เลือดไหลเวียนดี ด้วยการใช้มันฝรั่งป่น 2 ช้อนโต๊ะ แล้วให้เทน้ำอุ่นลงในถ้วยที่ใส่มันฝรั่งป่นและคนเข้ากันจนเนื้อข้น ก่อนมาส์กหน้าให้ใช้ครีม หรือน้ำมันเบบี้ออยล์เล็กน้อยทาใบหน้าให้ทั่ว
8.มาส์กหน้ามันฝรั่งสูตรบำรุงผิวหน้า ให้ใช้น้ำต้มมันฝรั่ง 7 1/2 ช้อนโต๊ะ, ขี้ผึ้ง 3 3/4 ช้อนโต๊ะ, น้ำมันโจโจ้บา 1/4 ช้อนโต๊ะ, และบอแร็กซ์ 1/4 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนแรกให้ใช้ความร้อนอ่อน ๆ ละลายขี้ผึ้งและน้ำมันให้เข้ากัน ใส่ผงบอแร็กซ์ตามลงไปในน้ำต้มมันฝรั่ง แล้วค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมดังกล่าวลงไปคนกับขี้ผึ้งที่ละลายแล้ว เสร็จแล้วเอาขึ้นจากเตาและคนต่อไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมเย็นตัว แล้วนำมาทาใบหน้าด้วยการนวดเบา ๆ เป็นวงกลม เสร็จแล้วทิ้งไว้สักครู่ แล้วใช้ผ้าซับออก (สูตรนี้สามารถนำมาใช้ทามือ ทาผิว เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวอ่อนนุ่มได้อีกด้วย)
ข้อสำคัญในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ พบว่า :
กินแอปเปิ้ลตอนท้อง
- ผู้หญิงท้องที่ทานมันฝรั่งอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับผู้หญิงที่ทานน้อยกว่า
- ผู้หญิงท้องที่ทานมันฝรั่งมากกว่า 5 ครั้งต่อสัปดาห์ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์!
ยิ่งน่าสนใจไปกว่านั้น เมื่อผู้หญิงท้องเหล่านี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนเมนูอาหารการกิน ด้วยการให้ทานผักใบเขียวและพืชตระกูลถั่วต่าง ๆ แทนการทานมันฝรั่ง ผลที่ได้คือ :
- ผู้หญิงท้องที่ทานผักใบเขียวและพืชตระกูลถั่วต่าง ๆ แทนการทานมันฝรั่งนั้น จะสามารถลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้มากถึง 12 เปอร์เซ็นต์
แต่อย่างไรก็ตามการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างเท่านั้น ยังไม่สามารถยืนยันแน่นอนได้ว่าการทานมันฝรั่งจะเป็นสาเหตุที่แน่นอนของการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ยังคงต้องทำการศึกษาวิจัยกันต่อไปอีกมาก
อ่านวิธีการลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หน้าถัดไปเลยค่ะ
วิธีการลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
พัฒนาการการตั้งครรภ์,ท้องสัปดาห์ที่ 14,ลูกในท้องเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำว่า คุณผู้หญิงสามารถลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้ด้วยการดูแลรักษาสุขภาพและมีหลักการกินที่ดีอย่างถูกต้อง หากคุณผู้หญิงวางแผนที่จะตั้งครรภ์ ให้ปฏิบัติเช่นนี้ค่ะ :-
- รักษาน้ำหนักให้เพิ่มขึ้นอย่างคงที่ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่เพิ่มปริมาณอาหารมากเกินไป
- ดื่มน้ำสะอาดอย่างพอเพียงในแต่ละวัน
- รักษาระดับการเคลื่อนไหวของร่างกายหรือการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
- ปรึกษาหมอสูติฯทุกครั้ง หากคุณต้องทานยาเมื่อพบว่าเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
มันฝรั่งต้ม
หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดมีความสงสัยอยากสอบถามเกี่ยวกับความเสี่ยงของโรคดังกล่าว สามารถแสดงความคิดเห็นด้านล่างได้เลยค่ะ
ที่มาจาก theasianparent
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
6 เมนูอาหารเช้าคนท้อง ได้ประโยชน์เต็มๆ
หัวปลาต้มมะละกอดิบ อาหารเพิ่มน้ำนมให้คุณแม่
การวิจัยพบ กินมันฝรั่งมากเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!