เพราะเรื่องของการลดน้ำหนัก ต้องมาพร้อมกับการควบคุมอาหารที่ดี และอีกหนึ่งในตัวช่วยที่หลายคนมองหาก็คือ โยเกิร์ตลดน้ำหนัก นั่นเองค่ะ เพราะโยเกิร์ตเป็นแหล่งที่ดีของโปรตีนและโพรไบโอติกส์ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งก็จัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่หลายคนชอบกินเป็นของว่าง ทั้งเพื่อเติมโปรตีนให้ร่างกาย หรือหวังผลช่วยระบายท้อง ทว่าการเลือกกินโยเกิร์ตที่ไม่กระทบเรื่องปริมาณน้ำตาล และไขมัน ก็ควรเลือกโยเกิร์ตไขมัน 0% น้ำตาลน้อย ซึ่งจะมียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้างลองมาเช็กกันหน่อย พร้อมส่องประโยชน์ของโยเกิร์ตไปพร้อมกับ theAsianparent กันเลยค่ะ
โยเกิร์ต ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากนมและมีหลากหลายชนิด เช่น โยเกิร์ตจากนมที่มีไขมันเต็มส่วน และโยเกิร์ตจากนมไขมันต่ำ ได้จากแพะหรือวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้าก็จะเพิ่มประโยชน์สูง นอกจากนี้ในโยเกิร์ตยังอุดมไปด้วยจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียดีอย่าง “โปรไบโอติก” การหมักนมจะได้แล็กโทสธรรมชาติหรือน้ำตาล ทำให้เกิดกรดแล็กติกและได้โปรตีนจากนมที่ข้นขึ้น ส่งผลให้โยเกิร์ตมีรสชาติที่โดดเด่นและเข้มข้น
โยเกิร์ต กับการลดน้ำหนัก
ผู้หญิงจำนวนมากกินโยเกิร์ต 1-2 ครั้งต่อวัน ส่วนใหญ่มักจะกินเป็นมื้อเช้า หากมื้อไหนกินอาหารเยอะเป็นพิเศษ ก็จะกินโยเกิร์ตตามเข้าไปเพื่อให้แคลอรี่ในร่างกายมีความสมดุล จากการศึกษาคนที่มีภาวะอ้วนพบว่า การกินโยเกิร์ตไขมันต่ำ 3 ครั้งต่อวัน สามารถลดจำนวนแคลอรี่ได้ 500 แคลอรี่ต่อวัน และสามารถลดไขมันได้อย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะไขมันบริเวณเอว ในขณะที่กล้ามเนื้อก็ไม่ได้ลดลง
นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างที่กินโยเกิร์ต 3 ครั้งต่อวัน ยังสามารถลดน้ำหนักได้มากกว่าปกติ 22% ลดไขมันในร่างกายได้ 61% ลดไขมันช่องท้องได้ 81% เมื่อเทียบกับกลุ่มตัวอย่างที่กินโยเกิร์ต 1 ครั้งต่อวัน แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่โยเกิร์ตทุกชนิดจะสามารถใช้ลดน้ำหนักในแบบเดียวกันได้ เพราะโยเกิร์ตบางชนิดมีปริมาณไขมัน และน้ำตาลสูง ซึ่งไม่สามารถทำให้น้ำหนักลดลงได้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง : นมลดน้ำหนัก แคลอรีต่ำ หาซื้อง่าย กับ 7 นมน้ำตาลน้อยเหมาะกับคนลดความอ้วน!
โภชนาการของ โยเกิร์ต
- โยเกิร์ตชนิดไม่มีไขมันและน้ำตาลน้อย 100 กรัม ให้พลังงาน 59 แคลอรี่
- แคลเซียม 150 มิลลิกรัม
- โปรตีน 10 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 3.6 กรัม
- ไขมัน 0.4 กรัม
หมายเหตุ : โยเกิร์ตบางยี่ห้อมีน้ำตาลและไขมัน ดังนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการลดน้ำหนัก ควรตรวจสอบปริมาณไขมันและน้ำตาลก่อนกิน
ประโยชน์ของโยเกิร์ต
- โปรตีนมากกว่านมธรรมดา ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
- ช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะมีโปรตีนอิ่มท้อง ติดนิสัยชอบกินจุบจิบ
- มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินดี เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
- มีโพรไบโอติกส์ กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยและปรับสมดุลลำไส้ แก้ท้องผูก ขับถ่ายดีขึ้น
- บรรเทาอาการท้องเสียจากแบคทีเรีย ลดแบคทีเรียในลำไส้
- ลดปัญหาตกขาว จากเชื้อแบคทีเรียขาดความสมดุล
- โพรไบโอติกส์ช่วยลดการอักเสบและเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
- โยเกิร์ตมีทริปโตเฟน กรดอะมิโนที่ช่วยให้ง่วงนอน และยังกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนิน ช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย นอนหลับง่ายขึ้น
- ช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียด ความวิตกกังวล ทำให้จิตใจสงบขึ้น
- โพรไบโอติกส์ช่วยในการหลั่งสารสื่อประสาท ส่งเสริมการทำงานของสมองและความจำ
- โยเกิร์ตมีโพแทสเซียม แมกนีเซียม สารอาหารสำคัญที่ช่วยคงระดับความดันโลหิตให้สมดุล
- โพรไบโอติกส์ในโยเกิร์ตสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะโยเกิร์ตไขมันต่ำ
- ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ เนื่องจากโยเกิร์ตช่วยปรับสมดุลของระบบขับถ่าย
วิธีเลือกซื้อโยเกิร์ต
เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากโยเกิร์ตอย่างเต็มที่ และไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำตาลและไขมัน ควรเลือกซื้อโยเกิร์ตโดยพิจารณาตามนี้
- เลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ไม่ผสมผลไม้หรือน้ำผลไม้ เพื่อเลี่ยงปริมาณน้ำตาลเกินความจำเป็น
- เลือกโยเกิร์ตน้ำตาลน้อยกว่า 10 กรัม หรือเลือกชนิดไม่เติมน้ำตาล
- เลือกโยเกิร์ตไขมันต่ำ ไม่มีไขมันที่ระบุว่าไขมัน 0%
- เลือกโยเกิร์ตที่มีให้พลังงานน้อย มีปริมาณแคลเซียมสูง แต่โซเดียมต่ำ
- ควรเลือกโยเกิร์ตที่ผลิตใหม่ เพราะยิ่งผลิตหลายวันจุลินทรีย์ชนิดดีก็จะลดลงไป
- เลือกโยเกิร์ตที่เสริมสารอาหารอื่น ๆ เช่น เพิ่มใยอาหาร เพิ่มโพรไบโอติกส์ มีแคลเซียมและวิตามินสูง เป็นต้น
- อ่านฉลากโภชนาการให้ถี่ถ้วน เพื่อให้รู้ว่าเราจะได้สารอาหารอะไรจากโยเกิร์ตถ้วยนี้บ้าง
อย่างไรก็ตามโยเกิร์ตมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท เช่น โยเกิร์ตพร้อมดื่มที่มักจะเติมน้ำตาลและแต่งกลิ่น-สีผลไม้, โยเกิร์ตคงตัวที่คล้าย ๆ ไอศกรีม, โยเกิร์ตชีส ที่มักจะมาในรูปของเนื้อครีมข้น ๆ , ไอศกรีมโยเกิร์ต, กรีกโยเกิร์ต ที่มีโปรตีนสูง คาร์โบไฮเดรตต่ำ อุดมไปด้วยแคลเซียม แต่จะมีปริมาณโซเดียมมากกว่าโยเกิร์ตประเภทอื่น ๆ และโยเกิร์ตไขมันต่ำ ซึ่งจะมีไขมันน้อยกว่าโยเกิร์ตประเภทอื่น ๆ ประมาณ 50% และให้แคลอรีน้อยกว่าด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : เมนูอกไก่ลดน้ำหนัก อาหารคลีนเพื่อสุขภาพ ทำง่ายไล่พุงกะทิ ได้ประโยชน์ครบ!
โยเกิร์ตลดน้ำหนัก ที่แนะนำ
1.Meiji Bulgaria Yoghurt Mild Sweetened Flavour
เริ่มต้นกันด้วย Meiji Bulgaria Yoghurt ตัวนี้เป็นโยเกิร์ตจากแบรนด์เมจิบัลแกเรีย หลายคนน่าจะคุ้นเคย เป็นสูตรปราศจากไขมัน 0% พร้อมคัดสรรจุลินทรีย์ LB81 สายพันธุ์แท้จากบัลแกเรียประเทศต้นกำเนิดโยเกิร์ต นอกจากจะมีคุณสมบัติช่วยให้ขับถ่ายดีขึ้น ช่วยปรับสมดุลระบบลำไส้ ไม่มีส่วนผสมของสารปรุงแต่งและสารทำให้คงตัว ทำให้ได้รสชาติแบบธรรมชาติ และได้เนื้อโยเกิร์ตที่แน่น นอกจากไขมัน 0% แล้ว แคลอรีก็น้อยเช่นกันค่ะ ทานแล้วไม่ทำให้อ้วน
2.ซีพี-เมจิ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
ต่อกันด้วยโยเกิร์ต เมจิ สูตรไขมัน0% รสออริจินัล เป็นโยเกิร์ตเนื้อนุ่มสูตรเฉพาะ สูตรไขมัน 0% แคลอรี่น้อย น้ำตาลก็น้อย เต็มไปด้วยประโยชน์จากจุลินทรีย์โพรไบโอติก และเป็นโยเกิร์ตที่มีแคลเซียมสูง ช่วยในส่วนของกระบวนการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง เหมาะสำหรับทานตอนไดเอทเป็นอาหารมื้อเช้า หรืออาหารว่าง
3.ดัชชี่ โยเกิร์ต Fat 0%
อีกหนึ่งโยเกิร์ตที่หลายคนเลือกทาน ตัวนี้เป็นโยเกิร์ตสูตร 0% ไม่มีไขมันเลย แคลอรี่ต่ำเพียง 80 แคล และมีน้ำตาลเพียง 8 กรัม เป็นโยเกิร์ตเนื้อเนียนได้รสชาติหวานเปรี้ยว ทานแล้วไม่อ้วน จะทานเป็นมื้อเช้าหรือเป็นอาหารว่างก็ดีทั้งหมดค่ะ
4.โยเกิร์ต ปาร์ตี้ แดรี่ light ไขมัน 0%
โยเกิร์ต Party Dairy Light Original ไขมัน 0% ตัวนี้เป็นโยเกิร์ตที่ผลิตจากจุลินทรีย์ สเตรปโทค็อกคัสเทอร์โมฟิลัส, แล็กโทบาซิลลัส เดลบรึคคิไอ ซับสปีชีส์ บัลแกริคัส, บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส สูตร Light 0% ที่เด็ดตรงที่ไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอลเลย ให้พลังงานเพียง 60 กิโลแคลอรี มีน้ำตาลเพียงแค่ 1 % มีโพรไบโอติก 2000 ล้านตัว มีแคลเซียมสูงอีกด้วย ถูกใจคนรักสุขภาพมาก ๆ เลยค่ะ
5.โยลิดา โยเกิร์ตไขมันต่ำ
โยลิดา โยเกิร์ตธรรมชาติไขมันต่ำเกรดพรีเมียม เนื้อโยเกิร์ตชนิดคงตัวไม่เหลว รสชาติเนื้อสัมผัสละเอียดแน่นแบบธรรมชาติแท้ ๆ ผลิตด้วยกรรมวิธีพิเศษ ด้วยการเติมเชื้อแบคทีเรียประเภทที่ดีคือแล็กติกแอซิดแบคทีเรีย มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ส่งผลดีต่อระบบกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายมีความแข็งแรง แถมยังมีแคลเซียมและโปรตีนสูง ไขมันต่ำและคอเลสเตอรอลต่ำอีกด้วยนะคะ
6.ริวอง ซอยเกิร์ต รสธรรมชาติ
ตัวนี้เป็นโยเกิร์ตจากนมถั่วเหลือง 100% ที่มีโปรตีนที่ช่วยรักษาสมดุลระดับฮอร์โมนในเพศหญิง ควบคุมระดับไขมันในเลือด และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย แถมยังไม่มีส่วนผสมคอเลสเตอรอล ที่เป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจ และสมองไขมันที่มีใน ซอยเกิร์ตเป็นไขมันชนิด ไม่อิ่มตัวชนิดเชิงเดี่ยว เป็นไขมันดี ทานแล้วดีต่อสุขภาพ ไม่อ้วนแน่นอนค่ะ
7.โยเกิร์ต ริชเชส เพิ่มใยอาหาร รสธรรมชาติ
มากันที่โยเกิร์ตตัวสุดท้ายกับ โยเกิร์ต ริชเชส เพิ่มใยอาหาร รสธรรมชาติ ตัวนี้เป็นโยเกิร์ตสูตรไขมัน 0% ให้พลังงานอยู่ที่ 80 กิโลแคลอรีเท่านั้น และมีน้ำตาลน้อยกว่า 7 กรัม บอกเลยค่ะว่าน้อยมาก ๆ แถมโยเกิร์ตตัวนี้ยังเป็นสูตรที่เพิ่มใยอาหารเข้ามามากกว่าแบรนด์อื่น ๆ อีกด้วยนะคะ ทำให้ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้ดี คนที่ท้องผูกต้องถูกใจแน่นอนค่ะ
จะเห็นได้ว่าโยเกิร์ตนอกจากจะมีสารอาหารที่มีประโยชน์ทางโภชนาการแล้ว โยเกิร์ตยังช่วยลดความอ้วนได้ด้วยแบคทีเรียโปรไบโอติก ที่ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหารของคุณอีกด้วย หากรู้จักโยเกิร์ตกันดีขึ้นแล้ว ก็หาโยเกิร์ตไขมันต่ำ ไร้น้ำตาลหรือน้ำตาลต่ำ เพื่อดูแลสุขภาพกันให้ดี เฮลท์ตี้กันทุกคน ใครอยากเติมโพรไบโอติกส์ให้ร่างกายอย่างง่าย ๆ ก็กินโยเกิร์ตทุกวันได้นะคะ เพราะจะได้สารอาหารดี ๆ อย่างอื่นด้วย ทั้งโปรตีน แคลเซียม วิตามินต่าง ๆ ซึ่งเป็นคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อร่างกายทั้งสิ้น
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
5 วิธี ลดน้ำหนัก เห็นผลไว ไม่โยโย่ น้ำหนักลดแถมสุขภาพดีระยะยาว
ลดน้ำหนัก 3 เดือน ควบคู่กับสูตรลับกำหนดอาหาร ยังไงก็ได้ผล!
เริ่มต้นลดน้ำหนัก ไม่ยากอย่างที่คิด อยากผอมต้องอ่าน!
ที่มา : kapook, hellokhunmor