กลับไปทำงานหลังคลอด หรืออยู่เลี้ยงลูกที่บ้านดี แบบไหนที่จะทำให้ลูกมีความสุข

เมื่อครบกำหนดลาคลอดแล้ว คุณแม่หลายคนอาจกำลังคิดว่าจะกลับไปทำงานดีไหม หรือควรเลี้ยงลูกอยู่บ้านดี เพราะเมื่อคุณแม่ได้เลี้ยงลูกอย่างใกล้ชิด ก็อดเป็นห่วงกลัวว่าเจ้าตัวเล็กจะเป็นอะไรไหม วันนี้ theAsianparent จะพาคุณแม่มาดูกันว่าควร กลับไปทำงานหลังคลอด ดีไหม และมีวิธีเตรียมพร้อมสำหรับการกลับไปทำงานอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันค่ะ

 

กลับไปทำงานหลังคลอด ดีไหม?

หลังจากคลอดน้องแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่คุณแม่แทบทุกคนจะต้องคิดต่ออย่างหนัก คือจะเอายังไงกับชีวิตต่อจากนี้ดี หลังจากครบกำหนดลาคลอด ควรจะกลับไปทำงานหลังคลอดดีหรือไม่ หรือว่าจะอยู่บ้านเลี้ยงลูก เป็นแม่บ้านดี จะไปทำงานก็ห่วงลูก แต่จะอยู่บ้านเฉย ๆ ก็ห่วงเรื่องเงิน เรื่องค่าใช้จ่าย ทำแบบไหนลูกจะมีความสุขกว่ากัน

หนึ่งในคำถามแรกของคุณแม่หลังคลอด ก็คือเมื่อการลาคลอดสิ้นสุดลง ถึงเวลาที่จะต้องกลับไปทำงานแล้ว คุณแม่จะกลับไปทำงานที่บริษัทหรือไม่ หรือจะอยู่เลี้ยงลูกที่บ้านเป็นแม่บ้านดี เนื่องจากจะมีบางคนบอกว่า คุณแม่ควรเลี้ยงลูกเอง เพื่อให้เด็กที่เกิดมาได้อยู่กับแม่แท้ ๆ ของเขา จะได้มีความสุขที่สุด แบบที่เขาสมควรได้รับ

แต่สำหรับบางบ้าน ก็ไม่ได้สะดวกที่จะลาออกมาเลี้ยงลูก เรื่องจากยังมีปัญหาในด้านการเงิน ยิ่งพอมีลูก ก็จะมีค่าใช้จ่ายของลูกที่เพิ่มเข้ามา ดังนั้นการลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้าน แล้วให้คุณพ่อทำงานอยู่คนเดียว จึงเป็นเรื่องลำบากพอสมควร ทำให้คุณแม่หลายบ้านไม่กล้าที่จะลาออก แล้วเลือกที่จะกลับไปทำงานแทน ส่วนลูกนั้น บางครั้งจะฝากญาติ ๆ เลี้ยง คำถามต่อไปคือ แบบนี้ลูกจะมีความสุขมั้ย

จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเป็นกังวลเลยค่ะ เพราะนักวิจัยของฮาร์วาร์ด (Harvard researcher) เขาได้ศึกษาเรื่องความสุขของเด็ก ๆ โดยเปรียบเทียบระหว่างเด็กที่อยู่กับแม่ที่กลับไปทำงานหลังคลอด กับเด็กที่อยู่กับแม่ที่เลือกเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก ผลออกมาว่า จริง ๆ แล้ว การเลี้ยงดูเด็กทั้งสองแบบ ไม่ได้ส่งผลในเรื่องความสุขของเด็ก เด็กมีความสุขเหมือนกันไม่ว่าแม่จะกลับไปทำงาน หรือเป็นแม่บ้าน

บทความที่เกี่ยวข้อง : เมื่อต้องกลับไปทำงานตามปกติ 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 94

 

 

ศาสตราจารย์แคทเธอรีน แมคคิน (Kathleen McGinn) ศาสตราจารย์ของโรงเรียนธุรกิจฮาร์วาร์ด (Harvard Business School) ได้บอกไว้ว่า “ผู้คนยังมีความเชื่อที่ว่า การที่คุณแม่หลังคลอดกลับไปทำงาน จะส่งผลกระทบต่อลูกของพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม การที่คุณแม่กลับไปทำงาน ไม่ได้ส่งผลต่อความสุขของเด็ก ๆ อย่างที่ใคร ๆ เชื่อกัน”

ศาสตราจารย์แคทเธอรีน แมคคิน และทีมวิจัยของเธอ ได้ศึกษาและสำรวจเรื่องนี้มากว่า 10 ปี โดยเก็บข้อมูลในการวิจัยจาก 100,000 ครอบครัว รวมทั้งสิ้น 29 ประเทศ ซึ่งใช้การตอบคำถามเกี่ยวกับผลกระทบของการทำงานของคุณแม่ที่มีต่อเด็ก

ในปี 2015 เธอได้เปิดเผยผลสำรวจ แล้วพบว่า ลูกสาวที่อยู่กับแม่ที่กลับไปทำงานหลังคลอด มีแนวโน้มที่จะสามารถหาเงินได้เยอะกว่าเมื่อเธอโตแล้ว โดยเงินเดือนของพวกเธอนั้น ตัวเลขสูงกว่าลูกสาวที่อยู่กับแม่ที่เป็นแม่บ้านเฉลี่ย 1,880 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 57,000 บาทต่อปี

ในส่วนของลูกชายนั้น ก็มีผลวิจัยออกมาเหมือนกันว่า ลูกชายที่อยู่กับแม่ที่กลับไปทำงานหลังคลอด จะมีแนวโน้มว่า เมื่อโตมาจะมีมุมมองทางเพศที่เท่าเทียมกว่า และให้เวลากับครอบครัวได้มากกว่า

คุณแม่จะอยู่บ้านเป็นแม่บ้าน หรือคุณแม่จะทำงานประจำ ทุกคนรายงานว่ามีความสุขเหมือนกัน อย่างไรก็ตามก็ยังมีคุณแม่บางส่วนที่ “รู้สึกผิด” เวลาที่ต้องทิ้งลูกไปทำงาน ศาสตราจารย์แคทเธอรีน แมคคิน กล่าวว่า เธอหวังว่างานวิจัยชิ้นนี้ จะช่วยให้คุณแม่พนักงานออฟฟิศรู้สึกผิดน้อยลง เมื่อเราค่อย ๆ เข้าใจว่าลูกหลานของเราไม่ได้เป็นทุกข์ จากการที่แม่กลับไปทำงานหลังคลอด

บทความที่เกี่ยวข้อง : 8 เหตุผลดี ๆ ที่ช่วยแม่ “ไม่รู้สึกผิด” เมื่อต้องกลับไปทำงานหลังคลอด

 

 

กลับไปทำงานหลังคลอดยังไงให้สบายใจ

  • หาคนเลี้ยงที่ไว้ใจได้

ถ้าหากคุณแม่จะกลับไปทำงาน สิ่งแรกที่ควรคิดถึงเลยก็คือ ใครจะเป็นคนเลี้ยงลูก โดยคนแรก ๆ ที่ควรนึกถึง ควรเป็นคนในครอบครัว เช่น คุณยาย คุณย่า เพราะมั่นใจได้เลยว่าท่านมีประสบการณ์ในการเลี้ยงเด็ก แถมจะต้องเลี้ยงลูกของคุณแม่อย่างสุดฝีมือแน่นอน ซึ่งนั่นก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้เยอะ ลูกอยู่กับคนที่ไว้ใจได้แน่ ๆ แต่ถ้าหากไม่มีญาติผู้ใหญ่ช่วยเลี้ยงจริง ๆ ก็ควรมองหาเนอสเซอรี่ที่มีคุณภาพ สภาพแวดล้อมดี และไว้ใจได้ เพื่อฝากดูแลลูกในช่วงที่คุณแม่ไปทำงานแทน

 

  • เตรียมของให้พร้อม

ถ้าหากคุณแม่จะกลับไปทำงาน สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมเลย คือ ของใช้จำเป็นสำหรับลูก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ผ้าอ้อมเด็ก ขวดนม นมแม่ หรือนมผง รวมไปถึงล้างพวกอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งขวดนม เครื่องปั๊มนม ไว้ให้เรียบร้อยตั้งแต่ตอนกลางคืน ตอนเช้าก่อนไปทำงานจะได้ไม่วุ่นวายในการเตรียมจัดของ และลดการลืมนู่นลืมนี่เวลารีบ ๆ ด้วย

 

  • เตรียมแผนสำรองเสมอ

อะไรก็เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ คุณแม่ที่จะตัดสินใจไปทำงาน จึงต้องเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ ถ้าหากลูกไม่สบาย หรือคนเลี้ยงไม่สามารถ ใครจะเลี้ยงลูกแทน ถ้าวันไหนมีงานด่วนต้องกลับดึก จะมีคนดูแลลูกให้หรือไม่ เหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นได้ตลอด ดังนั้นจึงต้องมีแพลนบีเสมอ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 6 วิธีให้นมลูกต่อไปหายห่วง ไร้สะดุดเมื่อแม่ต้องกลับไปทำงาน

 

  • คิดถึงเรื่องการปั๊มนม

สำหรับคุณแม่หลังคลอดเนี่ย การปั๊มนมถือเป็นเรื่องสำคัญเลย ดังนั้นคุณแม่เองควรจัดสรรเวลา แบ่งเวลาจากการทำงาน มาปั๊มนมสต๊อกเก็บเอาไว้อย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะเป็นการเตรียมนมให้กับลูกแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นการผลิตน้ำนมด้วย ถ้าหากไม่สะดวกปั๊มนมระหว่างเวลาทำงาน ก็ควรหาช่วงเวลาก่อนไปทำงาน หรือหลังเลิกงานมาปั๊มนมเตรียมไว้แทน

 

  • อย่าลืมดูแลตัวเอง

คุณแม่ที่กลับไปทำงาน จะต้องทั้งทำงาน รวมไปถึงเลี้ยงลูกไปด้วย จนบางครั้งนอนไม่พอ กระทบต่อสุขภาพ และสภาพจิตใจ ดังนั้นคุณแม่หลังคลอดต้องอย่าลืมดูแลตัวเองด้วย พักผ่อนให้เพียงพอ ในวันหยุดก็หาอะไรทำเพื่อผ่อนคลายบ้าง เพราะถ้าหากป่วยไปอีกคนนี่แย่เลย เป็นเวิร์กกิ้งมัมต้องสตรองค่ะ

 

หลังจากกลับไปทำงานแล้ว คุณแม่อาจรู้สึกกังวลเมื่อต้องห่างจากลูกน้อย ดังนั้นการวางแผนเตรียมตัวเพื่อกลับไปทำงานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ควรเตรียมพร้อมไว้ เพราะนอกจากจะช่วยคลายความกังวลใจแล้ว ยังเป็นการวางแผนเพื่อการดูแลลูกน้อยด้วย แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหนื่อย แต่เราเชื่อว่าคุณแม่จะค่อย ๆ ปรับตัวได้ค่ะ เราขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคนนะคะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

6 วิธีที่ต้องทำเมื่อต้อง “พาลูกไปที่ทำงาน” ลดโอกาสปั่นป่วนให้มากที่สุด

เผยเคล็ดลับ! เทคนิคเพิ่มน้ำนม และจัดตารางการปั๊มนมสำหรับ Working Mom!

คุณแม่ให้นมเตรียมตัวกลับไปทำงาน ต้องปั๊มนม สต็อกนมอย่างไร ให้ลูกมีนมกินอย่างเพียงพอ

ที่มา : hbswk.hbs.edu

บทความโดย

PP.