การต้อง กลับไปทำงานหลังคลอด อาจเป็นสิ่งที่ทำให้คุณแม่รู้สึกผิดและแย่เอามาก ๆ ที่ต้องฝากลูกให้คนอื่นดูแล แต่ด้วยเกียรติของพ่อแม่ที่ทำงานเพื่อวันพรุ่งนี้และเพื่อลูก ขอให้หยุดคิดสักวินาทีและให้กำลังตัวเองเพื่อที่จะตัดสินใจในสิ่งที่รู้ดีอยู่แล้วว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัว
แทนที่จะรู้สึกท้อแท้กับความรู้สึกผิด ขอให้ชื่นชมกับเหตุผลใน 8 ข้อนี้ ที่จะช่วยให้แม่มีความรู้สึกอัศจรรย์กับการที่ต้อง กลับไปทำงานหลังคลอด
#1 คุณไม่จะเป็นต้องเป็น “แม่” ตลอดเวลา
ให้รู้ว่าผู้หญิงเราเป็นได้มากกว่า “แม่” นอกจากต้องเลี้ยงลูก เมื่อคุณแม่ต้องออกจากบ้านไปทำงานในทุก ๆวัน และเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้หญิงทำงานและยังมีโอกาสได้พักบ้างในช่วงกลางวัน
#2 คุณจะแปลกใจว่าเมื่อต้องกลับไปทำงานอีกครั้งมันไม่ทำให้เครียดเลย
หนึ่งในความกลัวอันยิ่งใหญ่ของคุณแม่ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านคือการกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มความเครียดเข้าไปอีก เมื่อต้องทำงานเต็มเวลาและการเป็นแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูก แต่จากการศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่า ไม่เพียงแม่ที่ออกไปทำงานนอกบ้านนั้นจะมีความสุขกว่าแม่ที่เป็นแม่บ้านอยู่กับบ้าน แต่ยังแสดงให้เห็นว่ามันไม่มีความเครียดทางจิตเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ในทางกลับกันนั้นคุณแม่ที่ไม่ได้ออกไปทำงานและเลี้ยงลูกอยู่กับบ้านเพียงอย่างเดียว กลับมีปัญหาในการเผชิญกับความเครียดที่มากขึ้นและมีอัตราตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าที่มากขึ้น
#3 การใช้เวลาอยู่กับลูกมากอาจไม่ดีเท่ากับการใช้เวลาที่มีน้อยแต่มีคุณภาพก็ได้นะ
คุณแม่ที่เลี้ยงลูกอยู่บ้านเต็มเวลานั้นได้ใช้เวลามากมายหลายชั่วโมงกับลูกในทุก ๆ วัน แต่มันกลับกลายเป็นว่าปริมาณเวลาที่ใช้ไปนั้นไม่ได้มีความหมายเลยเมื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพจากเวลาที่ได้ใช้ไป จากการศึกษาในระดับใหญ่เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้แสดงให้เห็นว่า แท้จริงแล้วปริมาณของเวลาที่พ่อแม่ได้ใช้กับลูกนั้นมันไม่มีผลกับพัฒนาการของเด็ก ๆ แต่อาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีด้วยซ้ำ เมื่อใช้เวลาไปอย่างไม่มีความหมายและพ่อแม่ก็ไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจัง
เรื่องดี ๆ ที่จะทำให้แม่รู้สึกว่าการกลับไปทำงานไม่ใช่เรื่องผิด! อ่านหน้าถัดไปเลย >>
#4 เมื่อแม่ต้องกลับไปทำงาน ก็ทำให้คุณพ่อมาแบ่งเบาภาระได้มากขึ้น
ในสังคมยุคใหม่ที่ไม่ควรจะมองข้ามบทบาทของพ่อว่ามันแตกต่างไปจากบทบาทของแม่ แต่ก็ยังคงมีสำหรับครอบครัวที่คุณพ่อนั้นต้องเป็นฝ่ายออกไปทำงานหาเงินนอกบ้านในขณะที่คุณแม่เป็นแม่บ้านอยู่กับบ้าน ความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูลูกนั้นจึงไม่ถูกแบ่งแยกอย่างเสมอภาค แต่เมื่อพ่อแม่ต้องออกไปทำงานทั้งคู่ ก็ช่วยให้ทั้งสองทำงานเป็นทีม โดยที่ผลัดกันช่วยดูแลลูกในส่วนที่เท่า ๆ กันได้
#5 เมื่อฝากลูกไว้กับสถานรับเลี้ยงเด็กให้คุณมองว่าเขาเป็นมืออาชีพ
เมื่อคุณตัดสินใจให้ลูกเข้าเนอสเซอรี่ ให้คุณคิดไว้ว่าสิ่งที่ทำให้นั้นจะเป็นการช่วยสอนลูก รวมถึงประโยชน์อื่น ๆ เช่น พัฒนาการที่ดีตามมา การเลิกใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปได้ ใช้มือจับช้อนส้อมเป็น การรู้จักเข้าสังคมของลูก ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เนอสเซอรี่จะเป็นผู้ช่วยสอนลูกคุณได้นอกเหนือจากที่พ่อแม่สอนด้วย
#6 ใช้จ่ายรายได้จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองไม่ง้อสามี
แน่นอนว่าเมื่อคุณแม่มีเงินเดือนเป็นของตัวเอง คุณก็ยังคงมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แต่ก็จะไม่หงุดหงิดเลยถ้าอยากจะได้ชุดดี ๆ ซักชุดหรือ 3 ชุด โดยควักเงินในกระเป๋าจ่ายด้วยเงินของตัวเอง
#7 คุณจะเป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกได้
จากการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าคุณแม่ที่ออกไปทำงานนั้นจะส่งผลในทางที่ดีกับอาชีพการงานและการเงินของลูก ๆ ในอนาคตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกสาวที่คุณแม่เป็น working mom จบการศึกษาสูง จะมีโอกาสที่ได้รับการจ้างงานและได้อยู่ในตำแหน่งของการบริหารและมีรายได้สูง ดังนั้นแค่การออกไปทำงานคุณแม่ก็พูดได้ว่าเป็นการช่วยให้ลูก ๆ ได้ค้นพบกับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตอนาคตของพวกเขาได้
#8 ความเป็นบ้านที่สมบูรณ์ไม่ใช่อยู่ที่การมีบ้านที่เรียบร้อยอย่างเดียวหรอก
เมื่อคุณแม่ต้องกลับออกไปทำงานตลอดสัปดาห์ มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะต้องคอยถูพื้นและทำความสะอาด จัดเก็บบ้านให้เรียบร้อยสมบูรณ์ในทุกวัน แน่นอนว่าทุกสิ่งไม่มีอะไรที่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก แม้กระทั่งบ้าน แต่คุณสามารถเติมเต็มสิ่งเรานี้ให้ดีได้ด้วยการใช้วันหยุดที่คุณมีทำมัน แม้แต้ที่จะใช้อยู่ร่วมกับลูกด้วย
Credit content : www.popsugar.com.au
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
12 วิธีสานสายสัมพันธ์ ฉบับพ่อแม่ทำงาน
13 วิธีการเลี้ยงดูลูกให้สมองทำงานดีแบบที่พ่อแม่สร้างได้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!