สาวโสดติดเชื้อ HPV โรคที่สามารถติดได้ทางเพศสัมพันธ์ โดยเรื่องนี้เป็นข่าวที่ถูกเสิร์ช และแพร่หลายไปทั่วจีนแผ่นดินใหญ่ในเวลานี้ เพราะผลตรวจของพนักงานบริษัทคนดังกล่าวเป็นที่น่าตกใจ ทำให้สาธารณสุขต้องรีบออกมาแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับโรคดังกล่าวให้เร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนระวังตัว
จากรายงานข่าวของหญิงสาวท่านหนึ่งในประเทศจีนวัย 25 ปี ชื่อ เจิ้งหลี่เว่ย เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอทำงานยุ่งมากจนไม่มีเวลาหาแฟน และเมื่อไม่นานมานี้เธอรู้สึกว่าตัวของเธอนั้นมีบางอย่างผิดปกติ จึงเข้ารับการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยอาการเบื้องต้นของเธอคือบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ส่งกลิ่นเหม็น และมีตกขาวมากกว่าปกติ หลังจากที่เธอตรวจเสร็จแพทย์ได้แจ้งกับเธอว่าเป็น สาวโสดติดเชื้อ HPV (Human Papilloma Virus) หรือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่สามารถกระตุ้นให้เกิดมะเร็งในระบบสืบพันธุ์ หรือมะเร็งปากมดลูกได้ ซึ่งเธอก็สงสัยว่าทำไมเธอถึงเป็นโรคดังกล่าว เพราะเธอไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลยแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่เกิดมา
เจิ้งหลี่เว่ย ติดเชื้อ HPV ทั้งที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ (ขอบคุณภาพจาก www.baijiahao.baidu.com)
แพทย์จึงได้แจ้งให้เจิ้งหลี่เว่ยทราบว่า นอกจากการมีเพศสัมพันธ์แล้ว ยังมีวิธีอื่นที่สามารถทำให้เธอติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์นี้ หรือผลตรวจเลือดเป็นบวกจากการติดเชื้อ HPV ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- การติดต่อทางอ้อม การได้รับเชื้อผ่านการใช้ของร่วมกับผู้ติดเชื้อ HPV หรือการติดเชื้อผ่านเลือด และบาดแผล ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ทางอ้อมอื่น ๆ โดยหากมีการใช้เสื้อผ้า หรือมีบาดแผล และได้สัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้ออยู่ก่อนแล้ว ต่อให้คุณจะสุขภาพแข็งแรงขนาดไหนก็สามารถติดเชื้อ HPV ได้
- การติดเชื้อทางการแพทย์ (Iatrogenic) เมื่อเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ปฏิบัติงานและดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HPV พวกเขาอาจติดเชื้อด้วยตัวเองเนื่องจากความประมาทของตัวเอง และในขณะเดียวกันก็จะแพร่เชื้อไปสู่ผู้คนรอบข้างอีกครั้ง
- การติดเชื้อหลังจากภูมิคุ้มกันลดลง ระบบภูมิคุ้มกันถือเป็นเกราะป้องกันตามธรรมชาติของร่างกายของเรา ซึ่งจะสามารถช่วยป้องกันการเข้ามาทำลายร่างกายเราของไวรัสและแบคทีเรียจากโลกภายนอก หากภูมิคุ้มกันของเราลดลงการป้องกันของร่างกายจะลดลงตามไปด้วย และจะไม่สามารถต้านทานการเชื้อของไวรัสได้
บทความที่น่าสนใจ : มะเร็งปากมดลูก ภัยร้ายใกล้ตัวของผู้หญิง อันตรายถ้าไม่รีบตรวจ?
การติดเชื้อ HPV ไม่ได้ติดแค่การมีเพสสัมพันธ์เท่านั้น (ขอบคุณภาพจาก www.baijiahao.baidu.com)
ป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้อย่างไร?
1. การฉีดวัคซีน
การวัคซีน HPV เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไวรัส สามารถช่วยป้องกันไวรัส HPV ที่มีความเสี่ยงสูง 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดที่ 16 และชนิดที่ 18 ซึ่งติดเชื้อได้ง่ายที่สุดเช่นเดียวกับไวรัสที่มีความเสี่ยงต่ำบางชนิดที่อาจทำให้เกิดหูดหงอนไก่ (condyloma acuminatum) ปัจจุบันมีวัคซีน 3 ชนิดในการเลือกฉีด โดยการฉีดวัคซีนนั้นสามารถเลือกชนิดใดชนิดหนึ่งก็ได้ แต่ต้องฉีด 3 ครั้ง ซึ่งทางสูตินรีแพทย์แนะนำว่าให้ผู้หญิงไปรับการฉีดให้เร็วที่สุด หลังจากเริ่มมีประจำเดือน หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
2. ป้องกันระหว่างมีเพศสัมพันธ์
เมื่อชายและหญิงมีพฤติกรรมใกล้ชิด หรืออยู่ในวัยของการเจริญพันธุ์ พวกเขาจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV มากที่สุด และสิ่งที่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสรองลงมาจากการฉีดวัคซีนคือการใส่ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์ เพราะถุงยางอนามัยนั้นสามารถช่วยแยกไวรัสบางชนิดและหลีกเลี่ยงไวรัสเข้าสู่ร่างกายของผู้หญิงโดยตรง อย่างไรก็ตามไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสจากการกระทำรูปแบบอื่นได้ด้วยเช่นกัน
3. ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนหรือหลังมีประจำเดือน 2 วัน
การที่คุณมีเพศสัมพันธ์ในช่วงระหว่างหรือก่อนและหลังมีประจำเดือน 2 วันนั้นอาจทำให้กระดูกเชิงกรานอักเสบต่อเนื่องได้ง่าย โดยแพทย์ไม่อนุญาตให้มีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะว่าอาจเกิดการติดเชื้อที่สามารถทำลายเยื่อบุโพรงมดลูกได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นมะเร็งปากมดลูก หากผู้หญิงคนไหนที่ไม่อยากเป็นมะเร็ง หรือติดเชื้อ HVP ก็ขอแนะนำว่าให้เลื่อน หรือหยุดไปก่อน
4. ปรับปรุงภูมิคุ้มกันของร่างกาย
หลังจากภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น ระบบป้องกันของร่างกายจะแข็งแรงขึ้น และไวรัสจากภายนอกจะเข้าสู่ร่างกายของเราได้ยากขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถทำลายเชื้อโรคที่รับมาจากผู้อื่นเข้าสู่ร่างกายอีกด้วย โดยการทำลายไวรัสนั้นจะช่วยลดอัตราการเร่งการเปลี่ยนผันจากไวรัส HPV ให้เป็นลบ ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปากมดลูกด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากคุณติดเชื้อ HPV และคุณได้รับการรักษาโดยแพทย์แล้ว คุณยังต้องเริ่มต้นด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองด้วยการออกกำลังกาย และทานอาหารที่มีประโยชน์
บทความที่น่าสนใจ : ผัก ผลไม้ที่เสริมภูมิคุ้มกัน สามารถป้องกันและยับยั้งการติดเชื้อไวรัสได้
สิ่งที่แพทย์เตือนสำหรับผู้ติดเชื้อ HVP
นอกจากการป้องกันการติดเชื้อแล้ว สำหรับผู้ติดเชื้อ HVP ที่เข้าการรักษาจะต้องปฏิบัติให้ได้ขณะการรักษา เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนผันของเชื้อไวรัสจนกลายเป็นมะเร็งปากมดลูก โดยมีข้อกำหนดดังต่อไปนี้
- การกินอาหารรสจัด ผู้หญิงหลายคนเป็นเหมือนกันหมด โดยเฉพาะผู้หญิงแถบเอเชียที่มักจะควบคุมการรับประทานของเผ็ดไม่ได้ ถ้าพูดถึงอาหารของประเทศจีนที่มีรสเผ็ดแล้วคงหนีไม่พ้นหมาล่า ซึ่งแพทย์ได้ออกมาเตือนว่าในขณะที่ได้รับเชื้อ HVP และผู้ติดเชื้อทานอากหารที่มีรสจัดนั้นจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองบริเวณช่องคลอดมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจทำให้มดลูกเกิดความเสียหาย อีกทั้งยังทำให้เยื่อบุมดลูกมีการขนาดเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อคนที่ติดเชื้อ HVP เท่าไหร่ ดังนั้นคุณควรเลือกทานผักและผลไม้ เพื่อเสริมสร้างแร่ธาตุ และวิตามินให้กับร่างกาย สร้างเกราะป้องกันให้กับร่างกาย นอกจากนี้ควรรักษาสุขอนามัยในการซักชุดชั้นใน คุณควรซัก และตากให้แห้งภายในวันเดียว หรือตากในที่แดดจัด เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคที่อาจตกค้างอยู่ในเนื้อผ้า เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง
การกินอาหารรสจัดกระตุ้นเชื้อ HPV (ภาพโดย jcomp จาก freepik.com)
- การนอนดึก หรือการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะส่งผลต่อร่างกายของผู้ติดเชื้อโดยตรงแล้ว ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้ติดื้ออีกด้วย ซึ่งทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง และเชื้อไวรัส HVP สามารถทำลายเกราะป้องกันได้ง่ายยิ่งขึ้น
- หยุดมีเพศสัมพันธ์ระหว่างการรักษา การมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างการรักษานอกจากจะทำให้อวัยวะเพศได้รับผลกระทบแล้ว ยังเป็นการแพร่เชื้อสู่คนอื่น หรือคู่นอนได้อีกด้วย ดังนั้นระหว่างการรักษา ผู้ที่ติด HVP ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะทางใดก็ตามจนกว่าการรักษาจะผ่านไปได้ด้วยดี
เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน ได้เห็นข่าวแล้วก็ต้องเริ่มระวังตัว หรือเตรียมตัวฉีดวัคซีนกันได้แล้วนะคะ กันไว้ดีกว่าแก้ เพราะว่าโรคนี้เป็นแล้วไม่หายนะ มีแต่ตรวจแล้วผลเป็นลบเท่านั้น อย่าชะล่าใจสำหรับสาวโสดที่ยังซิง หมั่นสร้างภูมิคุ้มกัน และอย่าลืมไปตรวจสุขภาพประจำปีกันด้วยนะคะ ด้วยความปรารถนาดีจากเรา
บทความที่น่าสนใจ :
โรค HIV คือโรคอะไร ใช่โรคเอดส์ไหม ? มีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง ?
สาวโสดว่าไงเรื่องนี้ “จิ๋ม” ถ้าไม่ได้ใช้งาน อาจทำให้ฝ่อและตึงเครียด
อาหารเสริมเพื่อเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ที่ดีที่สุด15 ประเภท ภูมิคุ้มกันแข็งแรง