ทำไมท้องแล้วขี้เกียจ คนท้องนอนเยอะ เหนื่อยง่าย หิวง่าย ผิดปกติหรือเปล่า?

ทำไมท้องแล้วขี้เกียจ นอนเยอะ เหนื่อยง่าย

พอมาเป็นแม่คนแล้ว ก็ต้องเจอความเปลี่ยนแปลงมากมาย จนบางครั้งคุณแม่ตั้งครรภ์ก็งง ๆ ว่าอันไหนที่เรียกว่าอาการปกติ อันไหนที่เรียกว่าผิดปกติ อย่าง “ความขี้เกียจ” นี่ก็เป็นอีกสิ่งที่หลายคนสงสัย ปกติก่อนตั้งท้องก็เป็นคนขยัน ทำงาน ออกกำลังกายทุกวัน แต่ ทำไมท้องแล้วขี้เกียจ เกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา คนท้องนอนเยอะ นอนนาน เหนื่อยง่าย ไม่อยากทำอะไร หิวก็บ่อย กิน ๆ นอน ๆ แบบนี้ผิดปกติหรือเปล่านะ

จริง ๆ แล้วคุณแม่ทั้งครรภ์ทั้งหลาย ต้องลองสำรวจตัวเองกันดูก่อนนะ ว่าขี้เกียจที่ว่านี่ ขี้เกียจในระดับไหน อยากนอนทั้งวัน นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ นอนไม่หลับ เหนื่อยง่ายกว่าปกติ หิวง่าย กิน ๆ นอน ๆ หรือไม่มีอารมณ์อยากทำอะไรเลย แต่ละอาการก็จะมีคำอธิบายแตกต่างกันออกไปค่ะ

ท้องแล้วนอนเยอะ

อาการอ่อนเพลีย นอนเยอะ นอนนาน แป๊บ ๆ ก็ง่วงอีกแล้ว อยากงีบ อยากเอนหลังสักหน่อย อันนี้เป็นอาการปกติของคุณแม่ตั้งครรภ์ เนื่องจากร่างกายเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม รวมไปถึงฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยปกติแล้วคุณแม่ตั้งครรภ์ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง แต่ถ้าหากนอนเยอะเกินไปอาจไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่

นอนเยอะไปอันตราย?

อะไรที่มากเกินความพอดี ย่อมไม่ดีต่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์แน่นอนอยู่แล้ว หากเริ่มนอนเยอะเกิน 8 ชั่วโมงบ่อย ๆ นอนทั้งวัน ไม่อยากขยับตัวไปทำอย่างอื่นเลย นี่อาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ได้

• คุณแม่ตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์เยอะ หรือน้ำหนักตัวเยอะ การนอนนาน ๆ จะทำให้น้ำหนักของร่างกายไปกดทับส่วนอื่น ๆ เป็นเวลานาน ซึ่งนั่นจะทำให้คุณแม่เกิดอาการปวดเมื่อย และไม่สบายเนื้อตัวได้
• นอนนานทำให้จุดเสียด แน่นท้อง ถ้าหากคุณแม่ตั้งครรภ์นอนนานเกินไป น้ำหนักจะไปกดทับการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดแก๊สในกระเพราะและลำไส้ ส่งผลให้คุณแม่อึดอัด แน่นท้อง
• นอนมากเกินไป ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เนื่องจากน้ำหนักของครรภ์ ไปกดทับเส้นเลือด อาจทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์เวียนหัว และหน้ามืดได้
• การนอนหลับเยอะไปในช่วงกลางวัน อาจส่งผลให้คุณแม่ตั้งครรภ์นอนไม่หลับในตอนกลางคืน ซึ่งนั่นไม่ดีต่อสุขภาพของคุณแม่เลย ควรนอนหลับให้เป็นเวลาจะดีกว่านะ

ท้องแล้วเหนื่อยง่าย

ในบางครั้ง คุณแม่ตั้งครรภ์อาจมีอาการเหนื่อยง่าย รู้สึกว่าทำอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เหนื่อย อ่อนเพลีย จนไม่อยากจะทำอะไร นั่นเพราะร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์ จะมีการเผาผลาญพลังงานมากขึ้นกว่าปกติ พอเกิดกระบวนการเผาผลาญพลังงาน ร่างกายดึงพลังงานออกไปใช้เยอะ ก็เลยทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและเหนื่อยง่ายกว่าปกตินั่นเอง

สำหรับวิธีการแก้นั้นก็ไม่ยาก ให้คุณแม่ลองหันมาสำรวจตัวเองดูสิว่าตัวเองพักผ่อนเพียงพอแล้วหรือยัง ไม่ควรเข้านอนดึก ควรพักผ่อนให้เป็นเวลา นอนหลับประมาณ 8 ชั่วโมง ถ้าหากง่วงระหว่างวันให้เงียบสักหนึ่งชั่วโมงพอ และควรทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเต็มที่

แต่ถ้าหากคุณแม่ตั้งครรภ์เหนื่อยง่าย รวมไปถึงมีอาการผิดปกติร่วมด้วย เช่น เวียนหัว หน้ามืด หอบ นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคโลหิตจางได้ ให้ลองปรึกษาแพทย์ที่คุณแม่ฝากครรภ์ไว้ และพยายามทานอาหารที่มีธาตุเหล็กเสริมขึ้น เช่น ตับ ข้าวกล้อง ถั่ว หรือพวกอาหารเสริมธาตุเหล็ก

ท้องแล้วหิวง่าย

เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์มักจะหิวง่ายหิวบ่อยนั้น เกิดจากการที่ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้นกว่าปกติ ดึงพลังงานไปใช้เยอะขึ้น จึงทำให้ร่างกายส่งสัญญาณว่าคุณแม่ต้องกินเพิ่มแล้วนะ โดยคุณแม่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะหิวก็ต่อเมื่อพลังงานที่มีอยู่ถูกนำไปใช้จนหมดแล้วนั่นเอง

คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการพลังงานมากกว่า 300 แคลอรี่ต่อวัน จึงควรกินเพื่อเพิ่มพลังงานประมาณ 100-300 แคลอรี่ต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่ตั้งครรภ์และลูกน้อยในครรภ์ รวมไปถึงดื่มน้ำเยอะ ๆ ให้ได้ปริมาณประมาณ 40 – 60 ออนซ์ต่อวันด้วย

ถ้าหากคุณแม่คนไหนที่กินครบทุกมื้อแล้ว แต่ยังหิวบ่อยอยู่ แนะนำให้แบ่งกินเป็นมื้อย่อย ๆ ด้วย อาจจะทานเป็นผลไม้ระหว่างวันแทน เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานเพียงพอ แต่ถ้าหากรู้สึกว่าน้ำหนักเริ่มดีดมากขึ้นเกินไปแล้ว ให้ระวังพวกอาหารที่มีน้ำตาลสูง หลีกเลี่ยงขนม น้ำอัดลม น้ำตาล เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง

Source : americanpregnancy

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

คนท้องนอนไม่หลับกลางคืน ทำอย่างไรดี วิธีแก้อาการนอนไม่หลับแบบได้ผล!

8 น้ำผลไม้ ที่แม่ท้องควรดื่ม คนท้องกินแล้วดีต่อลูกในครรภ์

5 ประโยชน์ของการออกกำลังกายของคนท้อง คนท้องออกกำลังกาย