สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ โดยเฉพาะสายเดินทางตะลอนทัวร์ การมีรถเข็นเด็กสักคันไว้ใช้งานนับว่าเป็นไอเท็มที่จำเป็น และการเลือกซื้อรถเข็นเด็กที่เหมาะสมกับลูกน้อยและตรงตามความต้องการใช้งานก็เป็นเรื่องสำคัญและต้องใส่ใจเป็นพิเศษ วันนี้ theAsianparent จะชวนมาทำความรู้จัก รถเข็นเด็ก 3 แบบ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในการกระเตงลูกน้อยเที่ยวได้ มาดูกันว่าจะ เลือกรถเข็นเด็กแบบไหนดี ? เดินทางง่าย ใส่คาร์ซีทได้ พับได้ ลุยได้ทุกที่ พร้อมรู้ข้อดี-ข้อเสียก่อนซื้อ ให้ได้รถเข็นเด็กที่ตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของครอบครัวมากที่สุด
ทำความรู้จัก รถเข็นเด็ก Travel System, Compact และ All-terrain
การเลือกซื้อรถเข็นเด็กสำหรับครอบครัวที่ชอบเดินทางนั้นสำคัญมาก เพราะรถเข็นไม่เพียงแค่เป็นพาหนะพาลูกน้อยออกไปข้างนอก แต่ยังเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองสำหรับลูกน้อยในระหว่างเดินทางอีกด้วย การเลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของครอบครัวจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เราจะมาเจาะลึกถึงรถเข็นเด็ก 3 ประเภทหลักๆ ที่เหมาะสำหรับครอบครัวนักเดินทาง พร้อมข้อดีข้อเสีย เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนก่อนตัดสินใจเลือกซื้อค่ะ
1. รถเข็นเด็ก Travel System (รถเข็นเด็กสำหรับการเดินทาง)
คือรถเข็นเด็กที่มาเป็นเซตพร้อมกับคาร์ซีท และอะแดปเตอร์สำหรับเชื่อมต่อคาร์ซีทเข้ากับรถเข็น บางรุ่นสามารถปรับใช้เป็นเปลเด็กได้ด้วย ทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถโยกย้ายลูกน้อยจากรถยนต์มายังรถเข็นได้ง่ายๆ และปลอดภัย โดยไม่ต้องปลุกลูก ทั้งนี้ รถเข็นเด็ก Travel System สามารถแบ่งประเภทได้อีก ดังนี้
|
ประเภทของรถเข็นแบบ Travel System
|
มาพร้อมคาร์ซีท |
- Travel Systems ที่มาพร้อมคาร์ซีทในตัว กับชุดเบาะหรือตะกร้าสำหรับเคลื่อนย้ายตัวลูกน้อยออกจากรถเข็นได้
|
ต้องซื้อคาร์ซีทเพิ่ม |
- แม้จะไม่ได้มาพร้อมคาร์ซีท แต่ส่วนใหญ่มักระบุว่ารถเข็นประเภทนี้สามารถเข้ากันได้กับคาร์ซีทแบบใด เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ซื้อเพิ่มแยกต่างหาก
- การซื้อคาร์ซีทแยก มักเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า แต่ดีตรงที่คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกคาร์ซีทที่ปลอดภัยได้
- แนะนําให้เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมก่อนเลือกรถเข็นแบบ Travel Systems เสมอ เนื่องจากคาร์ซีทเป็นไอเท็มนิรภัยที่จําเป็นสำหรับลูกน้อยมากกว่าค่ะ
|
Travel System สำหรับฝาแฝด |
- เป็นรถเข็น Travel Systems ที่สามารถติดคาร์ซีทสองที่นั่ง และ/หรือเปลเด็กสองใบเข้ากับโครงรถเข็นได้พร้อมกัน
|
Travel System สำหรับทารกและเด็กวัยหัดเดิน |
- สามารถติดคาร์ซีท หรือเปลเด็ก 1 ตัว และเบาะที่นั่งรถเข็นปกติ 1 ที่นั่งได้
- สามารถซื้อรถเข็นเด็กที่มีฟังก์ชั่นเปลี่ยนสลับการใช้งานจากรถเข็นเด็กเพียงคันเดียว เป็นรถเข็นเด็กแบบคู่ได้ด้วย เหมาะสำหรับบ้านที่วางแผนจะมีลูก 2 คน ที่มีวัยใกล้ๆ กัน รถเข็นแบบนี้ตอบโจทย์ค่ะ
|
วิธีเลือกซื้อ รถเข็นเด็ก Travel System
รถเข็นเด็กแบบ Travel Systems นั้นสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ค่อนข้างหลากหลายค่ะ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ คุณพ่อคุณแม่ต้องเช็กให้ดีว่ารถเข็นประเภทนี้ตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวเราหรือไม่ อาทิ
- สามารถปรับเป็นรถเข็นแบบคู่ได้: โดยเฉพาะกรณีที่วางแผนครอบครัวไว้แล้วว่าจะมีลูกมากกว่า 1 คน ในวัยไล่เลี่ยวกัน การซื้อรถเข็นที่สามารถปรับเป็นแบบคู่ได้ก็จะช่วยให้สะดวกสบายขึ้นจากการซื้อเพียงครั้งเดียวแต่ใช้งานได้ตรงความต้องการในอนาคตค่ะ
- ที่จับปรับได้ เพราะคุณพ่อคุณแม่ส่วนมากมีความสูงที่แตกต่างกัน ดังนั้น รถเข็นเด็กแบบ Travel Systems ที่จะซื้อจึงควรปรับระดับที่จับได้ค่ะ
- เบาะนั่งแบบ 2 ทิศทาง สามารถสลับด้านได้ทั้งแบบหันหน้าออก และหันหน้าเข้าหาคุณพ่อคุณแม่
- มีอะแดปเตอร์เชื่อมต่อคาร์ซีทพร้อม รถเข็นแบบ Travel Systems บางรุ่นไม่มีอุปกรณ์สำหรับเชื่อมต่อคาร์ซีทบนโครงรถเข็น และต้องซื้อเพิ่ม คุณพ่อคุณแม่จึงต้องเช็กให้ดีก่อนซื้อค่ะ
- ตะกร้าหรือช่องเก็บของ เหมาะสำหรับคุณแม่สายช้อปปิ้ง หรืออาจใช้พกพาผ้าอ้อมและของใช้ของลูกน้อย ซึ่งโดยปกติช่องเก็บของในรถเข็นแบบ Travel Systems จะสามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 2 กิโลกรัม บางรุ่นได้ถึง 5 กิโลกรัมเลยค่ะ
- มีหลังคา เพื่อช่วยปกป้องลูกน้อยจากแสงแดด หรือฝนปรอยๆ รวมไปถึงช่วยกันลมด้วยค่ะ
2. รถเข็นเด็ก Compact Stroller (รถเข็นเด็กแบบพับได้)
คือ รถเข็นเด็กแบบพับได้ ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พับเก็บได้ง่าย พับแล้วลากได้ ตั้งได้เหมาะสำหรับการพกพาไปในที่ต่างๆ สะดวกต่อการเดินทาง ไม่ว่าจะขึ้นรถไฟ ลงเรือ ขึ้นเครื่องบิน ลงบันได ก็คล่องตัว
5 วิธีเลือกซื้อ รถเข็นเด็ก Compact
รถเข็นเด็กขนาดกะทัดรัดที่มีน้ำหนักเบา และพับง่าย อย่าง Compact Stroller นับว่าตอบโจทย์การท่องเที่ยววันหยุดของทั้งครอบครัว เนื่องจากสะดวกสบายต่อการเดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่ง 5 วิธีเลือกซื้อ รถเข็นเด็ก Compact ที่แนะนำคือ
- ความปลอดภัยสำคัญเป็นอันดับแรก ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ควรเลือกรถเข็นเด็กแบบ Compact ที่มีสายรัดเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยนะคะ
- น้ำหนักยิ่งเบา ยิ่งดี เพราะในทุกการเดินทางคุณพ่อคุณแม่ต้องวุ่นวายกับสัมภาระอื่นๆ ที่นำติดตัวไปด้วยอยู่แล้ว ดังนั้น น้ำหนักของรถเข็นที่เบา สามารถพกพากระโดดขึ้นและลงจากรถไฟ รถบัส หรือเครื่องบิน จึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกๆ เช่นกันค่ะ
- เช็กข้อจํากัดของสายการบิน โดยส่วนใหญ่ รถเข็นเด็กจะต้องเช็กอินกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ประตูขึ้นเครื่อง กรณีเป็นรถเข็นเด็กพับได้ ขนาดกะทัดรัด ก็สามารถนํารถเข็นไปยังที่นั่งได้เลย อย่างไรก็ตาม คุณควรตรวจสอบข้อจํากัดต่างๆ กับสายการบินทุกครั้ง เช่น
- สายการบินบางแห่งจะรวมน้ำหนักของรถเข็นเด็กในน้ำหนักสัมภาระที่ถือขึ้นเครื่องด้วย
- สายการบินส่วนใหญ่มักระบุว่า หากนํารถเข็นเด็กสำหรับเดินทางขึ้นเครื่อง จะต้องอยู่ในกระเป๋า และจะต้องเป็นไปตามเกณฑ์น้ำหนักและขนาดของสัมภาระถือขึ้นเครื่อง ซึ่งรถเข็นเด็กบางรุ่นจะมาพร้อมกับกระเป๋า แต่ก็มีบางรุ่นที่คุณพ่อคุณแม่ต้องซื้อกระเป๋าเพิ่มค่ะ
- ควรมีที่บังแดด การซื้อรถเข็นเด็ก Compact Stroller สำหรับเดินทางแบบพับได้เป็นเรื่องดีค่ะ แต่เนื่องจากความเล็ก กะทัดรัด พกพาง่าย ทำให้ฟังก์ชั่นบางอย่างของรถเข็นเด็กแบบ Compact บางรุ่นหายไปด้วย โดยเฉพาะ หลังคาบังแดด ที่กว้างและครอบคลุมพื้นที่บังแดดให้ลูกน้อยได้ดี ดังนั้น ไม่ว่าจะเลือกซื้อรถเข็นแบบ Compact ยี่ห้อใดก็ตามควรเลือกที่ยังมีฟังก์ชั่นการปกป้องลูกน้อยจากแสงแดดนะคะ
- ดูว่าปรับเอนนอนได้หรือไม่ รถเข็นเด็ที่ไม่สามารถปรับเอนได้นับว่าเป็นปัญหาใหญ่เรื่องการงีบหลับระหว่างเดินทางของลูกน้อยเลยค่ะ ซึ่งถ้าลูกไม่ได้นอนแล้วงอแง ปัญหาโลกแตกตามมาแน่นอน ดังนั้น รถเข็นเด็กแบบ Compact อาจไม่เหมาะสำหรับทารกแรกเกิดค่ะ เนื่องจากอาจมีฟังก์ชั่นการปรับเอนนอนที่จํากัด อย่างไรก็ตาม บางรุ่นอาจมีเบาะนั่งคล้ายเปลญวน หรือบางรุ่นก็ออกแบบมาเพื่อให้เอื้อต่อการงีบหลับของทารกที่สบายกว่ารุ่นอื่นๆ ค่ะ เลือกที่เหมาะกับลูกน้อยนะคะ
3. รถเข็นเด็ก All-terrain (รถเข็นเด็กสำหรับทุกพื้นที่/พื้นผิว)
คือ รถเข็นเด็กที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานบนพื้นผิวที่ขรุขระ เช่น สวนสาธารณะ หรือชายหาด มีล้อขนาดใหญ่และระบบกันสะเทือนที่ดี ให้คุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งด้วยรถเข็นเด็กที่แข็งแรง ลุยได้ทุกพื้นที่
ปัจจัยในการเลือกซื้อ รถเข็นเด็ก All-terrain
- ล้อ รถเข็นเด็ก All-terrain มักมียางออฟโรดขนาดใหญ่ 3 หรือ 4 เส้น ซึ่งจะช่วยป้องกันการเจาะ ล้อใหญ่เหมาะสำหรับการเข็นบนพื้นที่ขรุขระ
- น้ำหนักและขนาด รถเข็นเด็กออฟโรด All-terrain มักจะมีน้ำหนักมากกว่ารถเข็นเด็กมาตรฐาน ดังนั้น จำไว้เลยค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่อาจต้องแบกรถเข็นเด็กประเภทนี้ขึ้นรถ จึงควรซื้อรุ่นที่เราสามารถยกได้ นอกจากนี้ เช็กให้แน่ใจว่ารถเข็นเด็กจะพับได้เล็กพอที่จะใส่ในรถ หรือจัดเก็บได้โดยไม่เกะกะ
- ความคล่องตัว หากเลือกรถเข็น All-terrain ที่มีล้อหน้าหมุนได้ จะทำให้ง่ายต่อการเดินเล่นรอบสวนป่า หรือในพื้นที่ที่มุมแคบๆ
- มีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ ลองพิจารณาตำแหน่งพื้นที่ที่ต้องการใช้รถเข็นเด็กก่อนค่ะว่าเราจะใช้ในเมือง หรือในเขตชนบทต่างจังหวัด สภาพพื้นที่โดยรวมที่จะใช้งานเป็นแบบไหน เช็กให้แน่ใจว่ารถเข็นเด็กมีความหนาบางมากพอที่จะใส่ประตูได้ง่าย หรือติดเปลเด็ก/คาร์ซีทเข้ากับโครงรถเข็นได้ เป็นต้น
- ความสะดวกสบาย การเลือกรถเข็นเด็กที่เบาะนั่งสบายจําเป็นอย่างยิ่งค่ะ รองรับสรีระลูกน้อยได้ดีในขณะนอนราบ รวมถึงมีระบบกันสะเทือนที่ดีด้วย ซึ่งจะช่วยให้ลูกนั่งได้สะดวกสบาย สนุกกับการเดินเล่น และทำกิจกรรมกลางแจ้งค่ะ
เลือกรถเข็นเด็กแบบไหนดี ? ระหว่าง Travel System, Compact และ All-terrain
การจะ เลือกรถเข็นเด็กแบบไหนดี ? ระหว่าง Travel System, Compact และ All-terrain ขึ้นอยู่กับว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องการใช้งานรถเข็นเด็กในรูปแบบไหน มีวิธีเดินทางอย่างไร มีความทนทานและความแข็งแรง ใช้งานในพื้นที่และสภาพอากาศแบบไหน ยังต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับอายุของลูกน้อยด้วยค่ะ จึงจะสามารถตอบโจทย์การเดินทางของครอบครัวได้
|
ส่อง! ข้อดี-ข้อเสีย ระหว่าง Travel System, Compact และ All-terrain
|
|
ข้อดี |
ข้อเสีย |
Travel System Stroller |
- สะดวกสบายในการเดินทาง เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีการเดินทางบ่อยๆ
- ช่วยประหยัดเวลาและแรงในการเปลี่ยนที่นั่งของลูกน้อย
- สามารถประหยัดได้มากขึ้นเนื่องจากซื้อทั้งรถเข็นและคาร์ซีทพร้อมกัน
|
- มีราคาค่อนข้างสูง
- บางรุ่นมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก อาจไม่สะดวกในการพับเก็บและขนย้าย
|
Compact Stroller |
- พกพาสะดวก เหมาะสำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะ หรือการเดินทางโดยเครื่องบิน
|
- ไม่เหมาะสำหรับเด็กทารกแรกเกิด เนื่องจากอาจไม่มีพื้นที่สำหรับนอนราบ และอาจมีที่เก็บของจำกัด
|
All-terrain Stroller |
- เหมาะกับการใช้งานนอกบ้าน และสำหรับครอบครัวที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง
|
- มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก อาจไม่สะดวกในการพกพาไปในที่ต่างๆ
|
ที่มา : www.which.co.uk , www.didofy.com , www.choice.com.au , maxicosisa.co.za
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
5 วิธีเลือกเก้าอี้กินข้าวเด็ก ให้เหมาะสม ปลอดภัย สะดวกสบายทุกมื้อ
วิธีเลือกซื้อ คาร์ซีทสำหรับเด็ก คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับพ่อแม่ชาวไทย
25 ที่สุดปัง พาลูกเที่ยวหน้าหนาว 2568 / 2025 บรรยากาศสุดฟินเช็คอินกัน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!