X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

เลือกซื้อรถเข็นเด็ก สำหรับลูกแต่ละวัย ยังไง? ให้ปลอดภัย ใช้งานได้ดี

บทความ 10 นาที
เลือกซื้อรถเข็นเด็ก สำหรับลูกแต่ละวัย ยังไง? ให้ปลอดภัย ใช้งานได้ดี

เมื่อรถเข็นเด็กกลายมาเป็นไอเท็มจำเป็นสำหรับลูกน้อย ก็เลยจะชวนคุณพ่อคุณแม่มาดูวิธีเลือกซื้อรถเข็นเด็ก สำหรับลูกแต่ละวัย ให้ปลอดภัย และใช้งานได้ดีกันค่ะ

ในปัจจุบัน “รถเข็นเด็ก” นับเป็นอุปกรณ์ที่อาจมีความจำเป็นของหลายๆ ครอบครัวในการพาลูกน้อยออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน การเลือกรถเข็นเด็กให้เหมาะสมกับช่วงวัยของลูกน้อยจึงสำคัญมาก เพราะไม่เพียงช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกสบาย ปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังสะดวกสำหรับคุณพ่อคุณแม่ด้วย theAsianparent จะพาไปดูว่าควร เลือกซื้อรถเข็นเด็ก สำหรับลูกแต่ละวัย ยังไง? เพื่อให้เหมาะสมกับ ช่วงวัยของลูกน้อย พร้อมแนะนำปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อ ทั้งขนาด น้ำหนัก วัสดุ หรือฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่ารถเข็นเด็กที่เลือกจะเป็นเพื่อนคู่ใจที่ดีในการเดินทางไปกับลูกน้อย

เลือกซื้อรถเข็นเด็ก สำหรับลูกแต่ละวัย

▲▼สารบัญ

  • ทำไม? ต้อง “เลือกซื้อรถเข็นเด็ก” ให้เหมาะ สำหรับลูกแต่ละวัย
  • ปัจจัยสำคัญในการ เลือกซื้อรถเข็นเด็ก
  • รถเข็นเด็ก มีแบบไหนบ้าง
  • รถเข็นเด็กแบบคลาสสิก (Classic Stroller)
  • รถเข็นเด็กแบบพับได้ (Foldable Stroller)
  • รถเข็นเด็กแบบ Jogger
  • รถเข็นเด็กแบบ Twin
  • เลือกซื้อรถเข็นเด็ก สำหรับลูกแต่ละวัย ให้เหมาะสม ปลอดภัย ใช้งานได้ดี
  • เลือกซื้อรถเข็นเด็ก สำหรับลูกวัยแรกเกิด
  • รถเข็นเด็กสำหรับลูกวัย 6-18 เดือน
  • รถเข็นเด็กสำหรับลูกน้อยอายุ 2 – 4 ปีขึ้นไป
  • รถเข็นเด็กที่ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งานของคุณแม่ แนะนำโดย TAP
  • 1. รถเข็นเด็ก Cybex รุ่น Mios สำหรับลูกน้อยวัยแรกเกิด – 5 ขวบ
  • 2. รถเข็นเด็ก Cybex รุ่น Gazelle S แบบปรับเป็นสองที่นั่งได้ สำหรับวัยแรกเกิด – 4 ขวบ
  • 3. รถเข็นเด็ก Cybex รุ่น Libelle พับใส่ช่องเก็บสัมภาระบนเครื่องบินได้

ทำไม? ต้อง “เลือกซื้อรถเข็นเด็ก” ให้เหมาะ สำหรับลูกแต่ละวัย

Advertisement

รถเข็นเด็กที่ดี เหมาะสมกับช่วงวัย ขนาด และน้ำหนักตัว จะช่วยรองรับสรีระร่างกายของลูกน้อยได้อย่างดี ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บ ช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกสบายขณะนั่ง และคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเข็นได้อย่างคล่องตัวด้วยค่ะ ทั้งนี้ รถเข็นเด็กสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของลูกน้อยได้ มีหลากหลายรูปแบบและฟังก์ชันการใช้งานให้เลือกตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว โดยการเลือกซื้อรถเข็นเด็กมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาเพื่อให้ลูกสะดวกสบายและปลอดภัยตลอดการเดินทาง ดังนี้

ปัจจัยสำคัญในการ เลือกซื้อรถเข็นเด็ก

ช่วงวัยของลูกน้อย
  • วัยแรกเกิด ควร เลือกซื้อรถเข็นเด็ก ที่สามารถปรับเอนนอนได้ 170 องศา เพื่อรองรับสรีระของทารกที่ยังไม่แข็งแรง
  • วัยหัดคลาน ควร เลือกซื้อรถเข็นเด็ก ที่มีที่นั่งกว้างขวาง เพื่อให้ลูกมีพื้นที่ในการเคลื่อนไหว
  • วัยเตาะแตะ ควร เลือกซื้อรถเข็นเด็ก ที่สามารถปรับเอนนั่งได้หลากหลายระดับ และมีที่วางเท้าที่ปรับได้
น้ำหนักและขนาด
  • รถเข็นเด็กที่มีน้ำหนักเบาจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ยกและเคลื่อนย้ายได้สะดวก
  • ควรพิจารณาขนาดของรถเข็นให้เหมาะสมกับพื้นที่เก็บของและการใช้งาน
วัสดุ
  • ควรเลือกวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย ทนทาน และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น ผ้าฝ้าย หรือวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี
ระบบความปลอดภัย
  • ระบบสายรัดนิรภัยควรแน่นหนาและปรับได้ง่าย
  • มีที่กั้นเพื่อป้องกันลูกน้อยตกจากรถเข็น
  • มีเบรกที่ใช้งานได้ดี
ล้อ
  • เลือกขนาดและวัสดุของล้อให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่จะใช้งาน
  • ล้อขนาดใหญ่จะช่วยให้เคลื่อนที่ได้สะดวกบนพื้นผิวที่ขรุขระ
  • ล้อขนาดเล็กจะเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่แคบ
ฟังก์ชันเสริม
  • มีที่บังแดดเพื่อป้องกันแสงแดดและฝน
  • มีช่องสำหรับเก็บของใช้ส่วนตัวของลูก หรือตะกร้าเก็บของ สำหรับใส่ของใช้ต่างๆ
มือจับ
  • มือจับของรถเข็นควรอยู่ในระดับความสูงที่คุณพ่อคุณแม่ซึ่งเป็นผู้เข็นสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายเวลาเดิน

รถเข็นเด็กแบบพับได้

รถเข็นเด็ก มีแบบไหนบ้าง

การใช้รถเข็นเด็กนั้นสามารถช่วยให้พ่อแม่พาลูกน้อย แต่ละช่วงวัย ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้สะดวกสบายกว่า โดยเฉพาะลูกวัยทารกและวัยคลาน สามารถช่วยผ่อนแรงคุณพ่อคุณแม่ในการอุ้มเดินได้อย่างดี แต่ก็จะมีข้อจำกัดเรื่องความคล่องตัวอยู่บ้าง ซึ่งโดยปกติแล้วรถเข็นเด็กเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี แต่ในกรณีลูกน้อยวัยแรกเกิดจะมีกล้ามเนื้อคอที่ยังไม่แข็งแรง ส่งผลให้มีข้อจำกัดในการเลือกรถเข็นค่อนข้างมาก จึงแนะนำให้ใช้รถเข็นเด็กเมื่อลูกมีอายุ 6 เดือนขึ้นไป เพราะสามารถพยุงศีรษะด้วยตัวเองได้แล้ว การใช้งานจึงปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งสามารถเลือกรถเข็นได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันรถเข็นเด็กถูกออกแบบและพัฒนาให้ดีขึ้นมาก เช่น สามารถปรับการเข็นได้สองทิศทาง รองรับการแยกตัวออกมาเป็น Car seat หรือตะกร้าหิ้วทารกได้ เป็นต้น มาดูกันค่ะว่าปัจจุบันมีรถเข็นเด็กแบบไหนให้เลือกใช้งานกันบ้าง

  • รถเข็นเด็กแบบคลาสสิก (Classic Stroller)

มีขนาดใหญ่และแข็งแรง เหมาะสำหรับใช้งานในระยะยาว ส่วนใหญ่เป็นแบบ 4 ล้อ เป็นรถเข็นเด็กมาตรฐานที่หาซื้อได้ง่าย มีหลากหลายรูปแบบ ใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี แข็งแรงทนทาน กระจายน้ำหนักและทรงตัวได้ดี ลดความเสี่ยงต่อการพลิกคว่ำ ทั้งยังมีพื้นที่เก็บของใช้ใต้รถเข็นที่กว้างขวาง บรรจุสัมภาระได้ค่อนข้างมาก

  • รถเข็นเด็กแบบพับได้ (Foldable Stroller)

มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พับเก็บง่าย เหมาะสำหรับการเดินทาง ส่วนใหญ่เบาะนั่งและสายรัดต่างๆ ได้รับการออกแบบมาให้พอดีกับสรีระของเด็กแต่ละช่วงวัย บางรุ่นสามารถปรับเบาะเอนได้หลายระดับ มีร่มบังแดดที่กันรังสี UV และถอดเป็นคาร์ซีทได้ด้วย

  • รถเข็นเด็กแบบ Jogger

มีล้อขนาดใหญ่ เป็นรถเข็นสำหรับวิ่ง Jogging ไปพร้อมๆ กับคุณพ่อคุณแม่ ได้เพราะออกแบบให้ใช้เข็นในความเร็วที่เทียบเท่ากับการวิ่ง

  • รถเข็นเด็กแบบ Twin

เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีลูกแฝด หรือลูกที่มีอายุห่างกันไม่มาก มักถูกออกแบบให้มีประมาณ 2 – 3 ที่นั่ง มีล้อขนาดใหญ่ แข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก และปรับเอนนอนราบได้หลายระดับ ใช้งานได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด – 3 ปี โดยรถเข็นเด็กแฝดจะแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ

  1. แบบเบาะหน้า-หลัง ช่วยให้เข็นตีโค้งทางแคบได้ง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด
  2. แบบเบาะคู่ด้านข้าง ช่วยให้ดูแลลูกได้ง่าย แต่จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงเหมาะสำหรับการใช้ในเส้นทางที่มีพื้นที่กว้าง

ทั้งนี้ ก่อนเลือกซื้อรถเข็นเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรทดลองเข็นก่อนเพื่อดูว่ารู้สึกสบายหรือไม่ อาจพาลูกน้อยลองนั่งเพื่อให้แน่ใจว่าลูกรู้สึกสบายและรถเข็นพอดีกับขนาดตัว เหมาะสมกับช่วงวัย และสรีระร่างกายของลูก

รถเข็นเด็กแบบแฝด

เลือกซื้อรถเข็นเด็ก สำหรับลูกแต่ละวัย ให้เหมาะสม ปลอดภัย ใช้งานได้ดี

  • เลือกซื้อรถเข็นเด็ก สำหรับลูกวัยแรกเกิด

ลูกน้อยวัยแรกเกิดจะมีกล้ามเนื้อคอที่ยังไม่แข็งแรง ทำให้ไม่สามารถพยุงศีรษะได้ด้วยตัวเอง จึงต้องเลือกรถเข็นเด็กแรกเกิดที่มีคุณสมบัติรองรับคอ มีสายรัด และปรับเอนได้เท่านั้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถพิจารณาเลือกรถเข็นสำหรับวัยทารกจากปัจจัยต่อไปนี้

  1. ปรับเอนนอนได้หลายระดับ หรือปรับนอนราบได้ 170 องศา เพื่อให้ทารกสามารถเอนตัวนอนและหลับพักผ่อนได้อย่างสบายตัวตลอดการเดินทาง รวมทั้งมีสายรัดนิรภัยหรือระบบล็อก ได้แก่ ล็อกเอว ระหว่างขาและไหล่ และตัวล็อกควรแน่นหนา ไม่ดึงหลุดง่าย แต่แน่นจนเกินไป และปลดเข้าออกได้ไม่ยาก
  2. เป็นรถที่หันเข้าหาตัวผู้เข็น เพื่อให้มั่นใจว่าหากทารกน้อยเผลอหลับในรถเข็น คุณพ่อคุณแม่สามารถมองเห็นลูกน้อยได้ตลอดเวลา
  3. โครงสร้างแข็งแรง รวมถึงมีระบบกันสะเทือนที่ดี เพื่อช่วยดูดซับการกระเด้งและป้องกันการกระแทก
  4. มีที่เก็บของลูกน้อยวัยแรกเกิดนั้นมีข้าวของเครื่องใช้จำเป็นค่อนข้างมากค่ะ ตอนอยู่ในบ้านไม่เท่าไร เพราะหยิบใช้ได้สะดวกอยู่แล้ว แต่เมื่อต้องออกไปข้างนอกคุณแม่จะพบเลยว่า ขวดนมขาดไม่ได้ กระติกน้ำร้อนก็ต้องมี ผ้าอ้อมก็จำเป็น ของใช้ในการทำความสะอาดอื่นๆ ก็สำคัญ ดังนั้น รถเข็นเด็กสำหรับทารกจึงต้องเลือกที่มีความจุของที่เก็บของด้วยค่ะ
  5. มีหลังคา และระบายอากาศได้ดี เมื่อออกจากบ้านทารกน้อยควรได้รับการปกป้องจากสภาพอากาศที่อาจไม่เอื้ออำนวย รถเข็นเด็กที่มีหลังคา รวมทั้งมีช่องระบายอากาศที่เหมาะสมจึงจำเป็นค่ะ เพราะจะช่วยป้องกันลูกน้อยจากการสัมผัสกับแสงแดด ฝุ่นควัน สิ่งสกปรก และเชื้อโรคในอากาศ
  6. เลือกแบบใช้งานกับคาร์ซีทได้ หากคุณพ่อคุณแม่วางแผนที่จะใช้รถเข็นเด็กแรกเกิดเพียงไม่กี่เดือน คุณเลือกซื้อรถเข็นเด็กที่ราคาไม่สูงนัก และเลือกแบบที่มีสามารถใช้งานร่วมกับคาร์ซีทได้ เมื่อผ่านช่วงวัย 6 เดือนไปแล้วค่อยเปลี่ยนรถเข็นที่เหมาะสมตามช่วงวัยของลูกอีกครั้งค่ะ

รถเข็นเด็ก สำหรับทารกวัยแรกเกิด

 

  • รถเข็นเด็กสำหรับลูกวัย 6-18 เดือน

รถเข็นสำหรับลูกน้อยวัยหัดคลาน หรือกำลังหัดเดิน ยังควรมีหลังคาและการระบายอากาศที่ดีเช่นเดียวกับวัยแรกเกิดค่ะ นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับขนาดตัวของลูกด้วย โดยอาจพิจารณาเพิ่มเติมจากปัจจัยต่อไปนี้

  1. มีสายรัดนิรภัย 5 จุด เนื่องจากลูกวัยนี้เริ่มนั่งได้นานขึ้น มีความอยากรู้อยากเห็นโลกภายนอกมากขึ้น สายรัดนิรภัยจะช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่าลูกน้อยจะไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากการตกรถเข็น และสามารถนั่งอยู่บนรถเข็นเด็กได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
  2. มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายขึ้น เช่น ที่วางเท้าปรับได้ พนักพิงปรับได้ หรือสามารถปรับการเข็นทั้งแบบหันหน้าหาผู้เข็น และหันหน้าออกจากผู้เข็นได้ เพราะแม้ลูกวัยนี้จะอยากสำรวจโลกภายนอกมากแค่ไหน ก็ยังต้องการความอุ่นใจจากการได้มองเห็นคุณพ่อคุณแม่อยู่ในสายตาตลอดเวลาอยู่ดีค่ะ
  3. เลือกแบบพับได้ กรณีลูกน้อยอยู่ในวัยเตาะแตะ อาจมีบางช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่จะได้พาลูกลงจากรถเข็นมาเดินเล่นบ้าง เพื่อออกกำลังกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ดังนั้น รถเข็นแบบพับได้ซึ่งมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ก็ดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและเหมาะสมสำหรับลูกวัยนี้ค่ะ

รถเข็นเด็ก สำหรับจ๊อกกิ้งได้

  • รถเข็นเด็กสำหรับลูกน้อยอายุ 2 – 4 ปีขึ้นไป

ลูกวัยนี้มีพัฒนาการด้านร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์แล้ว สามารถเดินหรือวิ่งได้อย่างมั่นคง จึงดูเหมือนว่าแทบไม่จำเป็นต้องใช้รถเข็นเด็กแล้วก็ได้ อย่างไรก็ตาม ในบางโอกาสโดยเฉพาะการต้องเดินในระยะทางที่ไกลและใช้เวลานาน ก็อาจทำให้ลูกน้อยอ่อนล้าได้เช่นกัน จึงทำให้รถเข็นเด็กยังคงสามารถรองรับความต้องการใช้ในกรณีนี้ได้ โดยสิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกรถเข็นเด็กสำหรับลูกวัย 2 – 4 ปี คือ

  1. เลือกแบบพับได้ เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทาง สามารถพับเก็บได้ง่าย และน้ำหนักเบา
  2. ป้องกันการสะเทือนได้ดีเมื่อลูกน้อยโตขึ้น คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจมีแผนที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับลูก เช่น เดินช้อปปิ้ง เที่ยวสวนสัตว์ หรือเอ็กซ์ตรีมแบบการวิ่งจ๊อกกิ้ง ดังนั้น ควรเลือกรถเข็นเด็กที่ป้องกันการสั่นสะเทือนได้ดี หรือแบบ Jogger ที่มีล้อขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้ลูกสามารถอยู่บนรถเข็นขณะที่ทำกิจกรรมร่วมกับคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยมากที่สุด

รถเข็นเด็กสำหรับวัย 2 ขวบขึ้นไป

 

รถเข็นเด็กที่ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งานของคุณแม่ แนะนำโดย TAP

รถเข็นเด็ก Cybex รุ่น Mios

1. รถเข็นเด็ก Cybex รุ่น Mios สำหรับลูกน้อยวัยแรกเกิด – 5 ขวบ

เป็นรถเข็นขนาดกลาง ดีไซน์สีหรูหรา ทันสมัย น้ำหนักเบา รูปร่างเพรียวบาง รถเข็นเด็ก Cybex รุ่น Mios มาพร้อมฟังก์ชั่นครบครัน ช่วยให้การเดินทางในเมืองเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

  • พับเก็บได้ง่ายด้วยมือเดียว การปรับเอนและพับรถเข็นทำได้ด้วยมือเดียว พับได้อย่างกะทัดรัด สะดวกในการจัดเก็บและไม่ใช้พื้นที่มาก
  • เบาะนั่งที่ปรับได้หลายทิศทาง เปลี่ยนทิศทางที่นั่งได้ตามอารมณ์ของลูกน้อย ไม่ว่าจะอยากมองหน้าคุณพ่อคุณแม่ หรือต้องการมองโลกใบใหม่ การหมุนที่นั่งทำได้ง่ายและรวดเร็ว
  • ระบบกันสะเทือนทุกล้อ ช่วยให้เข็นได้ลื่น ออกแบบมาสำหรับพื้นผิวที่หลากหลาย ระบบกันสะเทือนล้อทุกล้อทำให้การเดินทางราบรื่นและสะดวกสบาย แม้แต่พื้นผิวที่ขรุขระ
  • สายรัดแบบใหม่ ที่สามารถดึงได้ครั้งเดียว ทำให้การรัดลูกน้อยปลอดภัยและรวดเร็ว แค่ดึงสายเดียวก็สามารถติดตั้งและรัดสายได้พร้อมกัน
  • ระบบเดินทาง 4-in-1 สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมที่แตกต่างกันได้มากถึง 4 แบบ และใช้งานร่วมกับคาร์ซีท CLOUD T i-SIZE PLUS ของ Cybex ได้ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่พร้อมรับทุกสถานการณ์ในการเดินทางกับลูกน้อย
  • หลังคากันแดด XXL ที่สามารถขยายใหญ่ได้ ปกป้องลูกน้อยขณะเดินเล่นในทุกฤดูกาล
  • พนักพิงปรับได้ จากท่านั่งตรงไปจนถึงท่านอนราบ และที่พักขาก็สามารถปรับได้ตามตำแหน่งของที่พนักหลังด้วย

รถเข็นเด็ก Cybex รุ่น Gazelle S

2. รถเข็นเด็ก Cybex รุ่น Gazelle S แบบปรับเป็นสองที่นั่งได้ สำหรับวัยแรกเกิด – 4 ขวบ

รถเข็นขนาดใหญ่ ที่มีความแข็งแรงทนทาน แต่ยังสามารถพับเก็บง่าย โดดเด่นด้วยการใช้งานแบบปรับเป็นสองที่นั่งได้ และตะกร้าเก็บของขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกมากกว่าหนึ่งคน หรือต้องการพื้นที่เก็บสัมภาระเยอะ นอกจากนี้ รถเข็นเด็ก Cybex รุ่น Gazelle S ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจ คือ

  • เป็นรถเข็นเดี่ยวที่ปรับเปลี่ยนเป็นรถเข็นคู่ได้อย่างง่ายดาย
  • ปรับได้มากกว่า 20 รูปแบบการใช้งาน ตามหลักสรีรศาสตร์ของลูกน้อย
  • ใช้งานร่วมกับคาร์ซีท CLOUD T i-SIZE PLUS ของ Cybex ได้
  • มาพร้อมกับตะกร้าช้อปปิ้งขนาดใหญ่ 2 ใบ ถอดออกง่าย และรับน้ำหนักได้มากถึง 13 กิโลกรัม
  • สายรัดแบบดึงครั้งเดียวที่เป็นเอกลักษณ์ Cybex
  • สามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ร่วมกับ Gazelle S Cot หรือ เบาะนิรภัยสำหรับทารก
  • หลังคากันแดด XXL UPF50+ ปกป้องลูกน้อยจากสภาพอากาศด้วยหลังคากันแดดที่สามารถขยายได้ พร้อมช่องระบายอากาศเพื่อการไหลเวียนของอากาศที่ดี
  • ที่จับปรับระดับได้ ตามความสูงของคุณพ่อคุณแม่ โดยปรับได้ง่ายด้วยมือเดียวเช่นกัน

 

รถเข็นเด็ก Cybex รุ่น Libelle

3. รถเข็นเด็ก Cybex รุ่น Libelle พับใส่ช่องเก็บสัมภาระบนเครื่องบินได้

เป็นรถเข็นเด็กขนาดเล็ก เหมาะสำหรับเด็ก 6 เดือนที่สามารถนั่งได้ด้วยตัวเองแล้วถึงประมาณ 4 ขวบ หรือน้ำหนักไม่เกิน 22 กิโลกรัม ดีไซน์เรียบง่าย แต่มีสไตล์ และด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 6 กิโลกรัม ทำให้สามารถพับเก็บได้ง่าย เหมาะกับครอบครัวที่ชอบเดินทาง ไม่ว่าจะไปโดยรถยนต์ รถไฟ หรือเครื่องบิน ก็สามารถพกพา รถเข็นเด็ก Cybex รุ่น Libelle ไปด้วยได้ทุกที่ เพราะฟังก์ชั่นที่ครบครันถูกใจคุณพ่อคุณแม่

  • สามารถพับได้เล็กมาก ใส่ช่องเก็บสัมภาระบนเครื่องบินได้
  • ใช้งานร่วมกับคาร์ซีท CLOUD T i-SIZE PLUS ของ Cybex ได้
  • ระบบรัดสายรัดที่ดึงเพียงครั้งเดียว เอกลักษณ์ของ Cybex รัดลูกน้อยได้ในไม่กี่วินาที เพียงใช้มือเดียวในการปรับสายรัดให้พอดีกับตัว
  • เบาะนั่งสบาย ระบบระบายอากาศได้ดี
  • ปรับเอนได้ไม่จำกัด และที่พักขาปรับได้ ทำให้ลูกน้อยมีความสุขและรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง เมื่อลูกต้องการพักผ่อนจากความตื่นเต้นของการเดินทาง ก็หลับได้อย่างสบายบน รถเข็นเด็ก Cybex รุ่น Libelle
  • มีระบบกันสะเทือนล้อหน้าที่นุ่มนวล ช่วยให้การเดินทางราบรื่น สะดวกสบาย

 

พบกับรถเข็นทั้ง 3 รุ่น ของ Cybex ได้ที่ แผนกเครื่องใช้สำหรับเด็ก ชั้น 5 เซ็นทรัล ชิดลม หรือช้อปออนไลน์ได้ที่ www.central.co.th นะคะ

 

บทความจากพันธมิตร
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
ใหม่ ! S-26 Gold 3 เอกสิทธิ์เฉพาะ หนึ่งเดียวของเอส – 26 ที่ผสมแอลฟา สฟิงโกไมอีลิน สูตรเฉพาะที่แม่เลือก
ใหม่ ! S-26 Gold 3 เอกสิทธิ์เฉพาะ หนึ่งเดียวของเอส – 26 ที่ผสมแอลฟา สฟิงโกไมอีลิน สูตรเฉพาะที่แม่เลือก

การจะ เลือกซื้อรถเข็นเด็ก สำหรับลูกน้อยแต่ละวัย เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความละเอียดรอบคอบในการพิจารณานะคะ แต่หากสามารถเลือกซื้อรถเข็นเด็กที่เหมาะสมกับลูกน้อยแล้ว ก็อาจช่วยให้ทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยมีความสุขกับการออกไปข้างนอกมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้รถเข็นเด็กจะสามารถใช้ได้จนถึงลูกที่มีอายุ 6 ปี แต่เมื่อเด็กมีอายุได้ประมาณ 1 ปี คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกได้หมั่นฝึกเดิน เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ไม่ควรให้นั่งรถเข็นเป็นเวลานานๆ เพราะจะทำให้ลูกเดินได้ช้า และติดการอุ้มหรือการนั่งรถเข็นมากจนเกินไปค่ะ

 

ที่มา : www.thebump.com , www.motherschoice.com.au , th.my-best.com , hd.co.th , medthai.com , www.britaxthailand.com

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เก้าอี้กินข้าวเด็กระดับพรีเมียม ดีต่อพัฒนาการของลูกน้อยยังไง? คุ้มค่ากว่าจริงไหม?

วิธีเลือกซื้อ คาร์ซีทสำหรับเด็ก คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับพ่อแม่ชาวไทย

พาลูกเที่ยวตอนกี่เดือน ทารกเดินทางได้ตอนกี่เดือน เคล็ดลับเดินทางครั้งแรกกับทารก

 

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

จันทนา ชัยมี

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • เลือกซื้อรถเข็นเด็ก สำหรับลูกแต่ละวัย ยังไง? ให้ปลอดภัย ใช้งานได้ดี
แชร์ :
  • ลูกกลายเป็นเด็กมีปัญหา เพราะโตมาในบ้านที่ไม่มีใคร "กอด" กันเลย

    ลูกกลายเป็นเด็กมีปัญหา เพราะโตมาในบ้านที่ไม่มีใคร "กอด" กันเลย

  • รวมสูตรลับสุดฮา (แต่ได้ผล!) 9 วิธีหลอกลูกให้กินผัก โดยไม่ร้องไห้

    รวมสูตรลับสุดฮา (แต่ได้ผล!) 9 วิธีหลอกลูกให้กินผัก โดยไม่ร้องไห้

  • แม่รู้ไหม ลูกไอเวลานอน มีโรคอะไรแฝงอยู่?

    แม่รู้ไหม ลูกไอเวลานอน มีโรคอะไรแฝงอยู่?

  • ลูกกลายเป็นเด็กมีปัญหา เพราะโตมาในบ้านที่ไม่มีใคร "กอด" กันเลย

    ลูกกลายเป็นเด็กมีปัญหา เพราะโตมาในบ้านที่ไม่มีใคร "กอด" กันเลย

  • รวมสูตรลับสุดฮา (แต่ได้ผล!) 9 วิธีหลอกลูกให้กินผัก โดยไม่ร้องไห้

    รวมสูตรลับสุดฮา (แต่ได้ผล!) 9 วิธีหลอกลูกให้กินผัก โดยไม่ร้องไห้

  • แม่รู้ไหม ลูกไอเวลานอน มีโรคอะไรแฝงอยู่?

    แม่รู้ไหม ลูกไอเวลานอน มีโรคอะไรแฝงอยู่?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว