ในขณะที่สาว ๆ หลายคนต่างบอกว่า ยาคุมเป็นสิ่งที่สาว ๆ ควรจะรู้ และศึกษาข้อมูลเอาไว้ แต่เชื่อเถอะว่า มีหลายคนที่ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับการใช้ยาคุม แถมตามท้องตลาดก็มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ยาคุมยี่ห้อไหนดี และ ยาคุมแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร? แล้วเราควรจะทานยาคุมกำเนิดแบบไหนกันแน่ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
ยาคุมยี่ไหนดี ที่เขาว่าเจ๋ง เจ๋งจริงหรือหลอก ?
ก่อนหน้านี้แอดก็มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการรับประทานยาคุมกำเนิดมากพอสมควร เพราะบางคนบอกว่ายี่ห้อนี้ดี ยี่ห้อนั้นเจ๋ง ยี่ห้อโน้นกินแล้วผิวสวย อกฟู แต่ทำไมพอเรากินกลับไม่เป็นอย่างเขา นั่นเป็นเพราะสาเหตุอะไรเรามาวิเคราะห์ไปพร้อม ๆ กันเลยนะคะ
1. ยาคุมยาส (Yaz)
![ยาคุมยี่ห้อไหนดี ยาคุมแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร?](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2022/05/controlp100003.jpg?width=700&quality=10)
Yaz เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ดังในกลุ่มของยาคุมกำเนิด ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศเยอรมัน ราคาสูงพอสมควรเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด โดยราคาอยู่ที่ 590 บาท โดยประมาณ ซึ่งแบรนด์นี้จะมีให้เลือกเพียงแบบเดียวคือ 28 เม็ด ในขณะที่ยี่ห้อ จะมีให้เลือกทั้ง 21 เม็ด และ 28 เม็ด
ยาส เป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่หลายคนบอกว่า ใครที่กลัวในเรื่องของอาการ “บวมยาคุม” หรืออาการ “บวมน้ำ” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาการที่ทำให้หลายคนรู้สึกว่าอ้วนขึ้น หรือมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก ยาส จัดว่าเป็นยาปรับฮอร์โมนชนิดหนึ่ง ที่มีส่วนผสมของ ดรอสไพรีโนน ที่สามารถช่วยลดอาการบวมน้ำจากตัวฮอร์โมน อีกทั้งยังสามารถช่วยลดอาการปวดประจำเดือน และอัตราขึ้นลงของฮอร์โมน ซึ่งเป็นสาเหตุของความหงุดหงิดเมื่อเข้าสู่ช่วงของการมีประจำเดือนเกิดขึ้น
ในจำนวนตัวยา 28 เม็ด จะมีเพียง 24 เม็ด ที่มีส่วนประกอบของตัวยา Drospirenone 3 มิลลิกรัม และ Ethinylestradiol 0.02 มิลลิกรัม สามารถสังเกตได้จากสีชมพูอ่อนของตัวเม็ดยา นอกจากนั้นจะมีเม็ดยาสีขาวจำนวน 4 เม็ด จะเป็นเม็ดแป้ง ซึ่งไม่มีส่วนประกอบของยาใด ๆ ทั้งสิ้น แต่มีเอาไว้ เพื่อป้องกัน การลืมทานยานั่นเอง
หากใครยังไม่เคยทานยาคุมกำเนิดมาก่อน การเริ่มต้นทานยาคุมกำเนิดยี่ห้อนี้ ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกลำดับต้น ๆ ที่จะมีผลกระทบค่อนข้างน้อย และไม่ทำให้ร่างกายเกิดอาการแปรปรวนอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : ราคายาคุมฉุกเฉิน แต่ละยี่ห้อเท่าไหร่บ้าง เทียบราคาอย่างละเอียด
2. ยาคุมไดแอน (Diane)
![ยาคุมยี่ห้อไหนดี ยาคุมแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร?](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2022/05/controlp100002.jpg?width=700&quality=10)
เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ยอดฮิต สำหรับสาวไทยหลาย ๆ คน รวมถึง สาวประเภทสอง ที่มักนิยมทานเพื่อการปรับฮอร์โมน เป็นยาคุมชนิด 21 เม็ด เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาในเรื่องของฮอร์โมนเพศชายที่สูงผิดปกติ หรือมีปัญหาเรื่องสิว ผิวมัน และขนดก รวมถึงอาการภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (Polycystic Overy Syndrome) และแน่นอนว่า คุณสมบัติหลักของยาคุมกำเนิดแบรนด์นี้ ยังคงมีคุณสมบัติหลักในการคุมกำเนิด
ไดแอน หรือ ไดแอน-35 จะมี ไซโปเทอโรนอาซีเดต (Cyproterone acetate) ที่ช่วยยับยั้งการทำงาน หรือการผลิตฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งเป็นสาเหตุของรูขุมขนที่กว้าง ผิวมัน รวมถึงขนที่ขึ้นดกอีกด้วย ซึ่งหลายคนที่รับประทานยาตัวนี้ไป แล้วทำให้ร่างกายมีสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นผิวที่มีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น หน้าอก สะโพก ก้น มีการขยาย ในบางคนจะบอกว่าอาการนี้คืออาการอ้วน หรือบวมยาคุม เนื่องจากความแรงของฮอร์โมนในตัวยานั่นเอง
ราคาถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบกับยาคุมกำเนิดทั่วไปตามท้องตลาด โดยราคาหน้ากล่องจะอยู่ที่ 215 บาท โดยจะมีด้วยกัน 21 เม็ด
บทความที่เกี่ยวข้อง : คุมกำเนิด แบบไหนดี ? …วิธีคุมกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพ ที่วัยรุ่นควรรู้!
3. ยาคุมยาสมิน 14 เม็ด (Yasmin)
![ยาคุมยี่ห้อไหนดี ยาคุมแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร?](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2022/05/controlp100001.jpg?width=700&quality=10)
ยาสมิน เป็นยาคุมกำเนิดที่ถูกผลิตออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการกับผู้บริโภคอย่างแท้จริง เนื่องจากบางคนจะรู้สึกว่า ไดแอน มีฮอร์โมนที่สูงมากจนเกินไป ทำให้ร่างกายมีอัตราการเปลี่ยนแปลงสูง ในขณะที่ ยาส ก็มีราคาที่สูงพอสมควร เมื่อเทียบว่าเราจะต้องรับประทานต่อเนื่องทุก ๆ เดือน ดังนั้น ยาสมิน จึงเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง ยาส และไดแอน นั่นเอง
ยาสมิน จะมีตัวยา Esthinylestradiol 0.030 mg. ซึ่งจะน้อยกว่า ไดแอน แต่จะมีส่วนผสมของ Drospirenone เช่นเดียวกับ ยาส แต่สามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่ายาส พอสมควร และที่สำคัญ ส่วนผสมดังกล่าว ทำให้ยาสมิน เด่นในเรื่องของการควบคุมฮอร์โมนไม่ให้เกิดอาการบวมยาคุม หรือบวมน้ำ เช่นเดียวกับ ไดแอน แต่ยังคงช่วยในเรื่องของการรักษาสิว ผิวพรรณ เพราะมีตัวต้านฮอร์โมนเพศชายอยู่ในส่วนผสมนั่นเอง
ราคาหน้ากล่องของ ยาสมิน จะอยู่ที่ 440 บาท นับว่าเป็นราคาที่ไม่รุนแรงมาก ยิ่งถ้าเทียบกับประสิทธิภาพของตัวยาแล้ว ถือว่าคุ้มค่ากับการจ่ายเพื่อดูแลตัวเอง และเพื่อการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย
4. ยาคุมกำเนิดพรีม (PREME) และ บี-เลดี้ (B-Lady)
![ยาคุมยี่ห้อไหนดี ยาคุมแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร?](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2022/05/controlp100004.jpg?width=700&quality=10)
เป็นยาคุมแบบ 21 เม็ด มีส่วนประกอบของยาเหมือนกับ Diane-35 ทุกอย่าง ดังนั้นจึงมีสรรพคุณที่ใกล้เคียงกันมาก แต่เพราะเป็นยาคุมที่มีระดับเอสโตรเจนสูง จึงอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้มากขึ้น เช่น คลื่นไส้อาเจียน เลือดออกกะปริดกะปรอย *** สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยรับประทานยาคุมมาก่อน ไม่แนะนำให้ใช้ยาตัวนี้
5. ยาคุมซูซี่ (Sucee)
![ยาคุมยี่ห้อไหนดี ยาคุมแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร?](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2022/05/controlp100005.jpg?width=700&quality=10)
อีกหนึ่งแบรนด์ที่ตัวยาเทียบเท่ากับ แบรนด์ ไดแอน แต่มีราคาถูกกว่า และเป็นที่นิยมของคนไทยมาอย่างยาวนาน เพราะ Biopharm บริษัทของไทย เป็นผู้ผลิต โดยจะมีให้เลือก 2 ชนิด ทั้งแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด ใครที่อยากอุดหนุนขอไทย มาใช้แบรนด์นี้ได้ ซึ่งคุณสมบัติ และประสิทธิภาพ ไม่ได้แพ้กัน อีกทั้งบริษัทนี้ ยังผลิตตัวยามากมายออกจำหน่าย ดังนั้น การันตีถึงมาตรฐานการผลิตตัวยาออกมาจัดจำหน่ายให้คนไทยได้ใช้กันในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งราคาหน้ากล่องจะอยู่ที่ 180 บาท เท่านั้นเองค่ะ
6. ยาคุมกําเนิดมินิดอซ (Minidoz)
![ยาคุมยี่ห้อไหนดี ยาคุมแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร?](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2022/05/controlp100006.jpg?width=700&quality=10)
เป็นยาคุมแบบ 28 เม็ด มีตัวยาเจสโทดีน 0.06 มิลลิกรัม และยาเอธินิล เอสตราไดออล 0.03 มิลลิกรัมยาคุมยี่ห้อนี้มีปริมาณฮอร์โมนยาค่อนข้างน้อย จึงช่วยลดอาการข้างเคียงต่าง ๆ ได้ดี อีกทั้งช่วยลดสิว ลดอาการปวดหัวไมเกรนได้ สำหรับคนที่ไม่เคยกินยาคุมมาก่อน สามารถเริ่มจากยายี่ห้อนี้ได้
7. Oc-35 ผลิตโดย Pharmaland
![ยาคุมยี่ห้อไหนดี ยาคุมแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร?](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2022/05/controlp100009.jpg?width=700&quality=10)
Oc-35 เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากประเทศเยอรมัน หากดูจากส่วนผสมต่าง ๆ ที่ระบุเอาไว้ จะเห็นได้ว่ามีส่วนผสมแบบเดียวกันกับ ไดแอน (Daian) ไม่ว่าจะเป็นชื่อตัวยา หรือแม้กระทั่งปริมาณของตัวยา จะต่างกันก็คงเป็นที่ราคาที่ขายตามท้องตลาด จะมีราคาที่ถูกกว่า ไดแอน เกือบครึ่ง ดังนั้นใครที่ต้องการยาคุมกำเนิดแบบเดียวกับไดแอน แถมยังได้ความอึ๋มเพิ่มเติมเข้าไปด้วย สามารถหาซื้อได้ในราคา 100++ เท่านั้นเอง
8. เมลิแอน (Meliane)
![ยาคุมยี่ห้อไหนดี ยาคุมแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร?](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2022/05/controlp100010.jpg?width=700&quality=10)
สำหรับผู้ที่ไม่เคยกินยาคุมกำเนิดมาก่อน และกลัว หรือกังวล ในเรื่องของผลข้างเคียงจากตัวยา ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน รวมถึงอาการบวมยาคุม หรือบวมน้ำ สามารถใช้ยาคุมกำเนิด เมลิแอน ตัวนี้ได้ค่ะ เนื่องจากระดับฮอร์โมนในตัวยานั้นมีไม่มากจนเกินไป ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์น้อยมาก โดยยาคุมกำเนิด แบรนด์นี้ จะมีด้วยกัน 21 เม็ด ดังนั้นเมื่อทานหมดแผง จำเป็นจะต้องเว้นห่างออกไปอีก 7 วัน จึงจะเริ่มทานแผงใหม่ ส่วนใครที่มีอาการ PMS ก่อนมีรอบเดือน ตัวยาคุมกำเนิดนี้ ยังช่วยบรรเทา ไม่ให้เกิดอาการดังกล่าวได้ดีอีกด้วย
9. Minny ของ Biopharm
![ยาคุมยี่ห้อไหนดี ยาคุมแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร?](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2022/05/controlp100011.jpg?width=700&quality=10)
สำหรับผู้ที่เคยทานยาคุมกำเนิดที่มีระดับฮอร์โมนรุนแรง จนรู้สึกว่าร่างกายรับไม่ไหว แล้วต้องการปรับเปลี่ยนยาคุมกำเนิดเป็นแบบอื่น แต่จะให้หักดิบทันที ก็กลัวจะเกิดผลกระทบกับร่างกาย ก็สามารถเลือกยาคุมกำเนิดแบรนด์นี้ไปใช้ต่อได้ค่ะ เพราะระดับฮอร์โมนอยู่ในปริมาณที่ต่ำ และสามารถควบคุมการปรับเปลี่ยนระดับฮอร์โมนที่พุ่งสูงจากยาคุมกำเนิดแผงก่อนที่คุณเคยทานมา จนกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ยังคงคุณสมบัติของการคุมกำเนิดให้กับคุณได้เป็นอย่างดี แบรนด์นี้จะมีให้เลือก ทั้ง 2 ขนาด คือ ชนิด 21 เม็ด และ 28 เม็ด ซึ่งราคาหน้ากล่องจะอยู่ที่ 185 บาทเท่านั้นค่ะ
10. ยาคุม Belara
![ยาคุมยี่ห้อไหนดี ยาคุมแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร?](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2022/05/controlp100012.jpg?width=700&quality=10)
ยาคุมน้องใหม่ สำหรับยาคุมกำเนิด ซึ่งเจ้าของแบรนด์การันตีว่า คุณจะได้ปริมาณตัวยาเทียบเท่ากับไดแอน แต่จะไม่ส่งผลกระทบในเรื่องของอาการบวมน้ำ บวมยาคุม ไม่มีอาการมึนหัว คลื่นไส้ อาเจียร แต่อย่างใด สรุปคือ คุณจะได้ฮอร์โมนเพศหญิงที่สูง แต่ไม่มีอาการข้างเคียง และยังมีตัวต้านฮอร์โมนเพศชายอีกด้วย และแน่นอนว่า คุณสมบัติขนาดนี้ ราคาก็คงไม่แพ้กัน ซึ่งราคาหน้ากล่องจะอยู่ที่ 530 บาท จัดว่าสูงพอสมควร สำหรับตลาดยาคุมกำเนิดที่ประเทศไทยเรา
11. Exluton ของ MSD
![ยาคุมยี่ห้อไหนดี ยาคุมแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร?](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2022/05/controlp100013.jpg?width=700&quality=10)
ยาคุมกำเนิด สำหรับคุณแม่ให้นมลูก หลายคนประสบปัญหามีลูกหัวปีท้ายปี เพราะช่วงที่ให้นมลูกนั้น จะทานยาคุมกำเนิด ก็กลัวจะเกิดผลกระทบกับเด็ก MSD จึงแก้ปัญหาด้วยการผลิตตัวยาคุมกำเนิด ที่สามารถใช้ได้ในแม่ที่กำลังให้นมลูก ซึ่งราคาก็ไม่แพงเลย หาใครที่ต้องการคุมกำเนิด หลังจากคลอดมาใหม่ ๆ เพราะต้องการให้ร่างกายได้พักฟื้น แถมยังมีเวลาดูแลเจ้าตัวน้อยแล้วล่ะก็ แนะนำ Exluton นี่เลยค่ะ ซึ่งราคาหน้ากล่องจะอยู่ที่ 130 บาทเท่านั้นค่ะ
12. โพสตินอร์ (Postinor) หรือ ยาคุมฉุกเฉิน
![ยาคุมยี่ห้อไหนดี ยาคุมแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร?](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2022/05/controlp100014.jpg?width=700&quality=10)
โพสตินอร์ หรือที่รู้จักกันว่า ยาคุมฉุกเฉิน ยาคุมชนิดนี้จะมีเพียง 2 เม็ดเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้รับประทานยาคุมเป็นประจำ และไม่ได้ป้องกันขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งยาประเภทนี้ ไม่ควรที่จะทานบ่อย เพราะอาจจะเกิดผลข้างเคียงเยอะมากในระยะยาว เช่น การตั้งครรภ์นอกมดลูก การอาเจียร หรือมีเลือดออกผิดปกติ ดังนั้น ตามชื่อยาเลยค่ะว่า ยาตัวนี้จะต้องใช้เฉพาะเกิดเหตุฉุกเฉินเท่านั้น
ยาคุมฉุกเฉินนี้ จำเป็นจะต้องทานเม็ดแรกภายใน 24 ชม. หลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่พึงประสงค์ หลังจากนั้น 12 ชม. จึงทานยาเม็ดที่ 2 ตาม เพียงเท่านี้ ก็สามารถคุมกำเนิดได้แล้วค่ะ แม้ว่าจะไม่สามารถการันตีว่าจะสามารถคุมกำเนิดได้ 100% ก็ตาม
การทานยาคุมกำเนิดให้ดี และไม่เป็นโทษกับร่างกาย รวมถึง ไม่ทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน จำเป็นจะต้องกินอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 4 เดือนขึ้นไป จึงจะเห็นผลชัดเจน และร่างกายสามารถปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้ยาคุมแต่ละแบรนด์ จะต้องเหมาะสมกับร่างกาย และความต้องการของผู้รับประทาน เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาคุมกำเนิดนั่นเอง
หากคุณผู้หญิงยังมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับการกินยาคุมทั้งแบบทั่วไป และแบบฉุกเฉิน สามารถศึกษาเพิ่มได้จากบทความที่เรารวบรวมไว้ให้ คลิก
อ่านประสบการณ์จริงของผู้หญิงที่กินยาคุม Yaz
ยาคุม yaz ราคาเท่าไร ยาคุม yaz ดี ไหม กินดีไหมคะ แนะนำหน่อยค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ยาคุมกินช้าสุดกี่วัน เกิน 72 ชั่วโมง ยังทานยาคุมฉุกเฉินได้อยู่ไหม ?
กินยาคุมฉุกเฉินบ่อย มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง กินบ่อยไปแล้วควรทำอย่างไร ?
กินยาคุมตอนท้อง ท้องแล้วกินยาคุม อันตรายต่อลูกในท้องไหม
ที่มา : healthline, medicalnewstoday
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!