ก่อนรับพี่เลี้ยง ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อพิจารณาอะไรบ้าง?
ในยุคที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ต้องทำงานนอกบ้านเช่นนี้ ทำให้หลายครอบครัวมีความจำเป็นต้องรับพี่เลี้ยงเข้ามาช่วยดูแลลูก เนื่องจากความต้องการพี่เลี้ยงในปัจจุบันมีมากขึ้นจนพี่เลี้ยงที่มีสัญชาติไทยมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการ บางครอบครัวจึงจำเป็นต้องรับพี่เลี้ยงชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวพม่า ลาว กัมพูชา เข้ามาดูแลลูก เนื่องจากพี่เลี้ยงต้องอยู่กับเด็กเกือบตลอดเวลา คุณพ่อคุณแม่จึงควรปรึกษาคุณหมอเพื่อช่วยพิจารณาเกี่ยวกับสุขภาพของพี่เลี้ยงก่อนการรับเข้ามาทำงาน โดยการตรวจคัดกรองสุขภาพทางกาย คือตรวจหาโรคติดเชื้อที่อาจติดต่อจากพี่เลี้ยงไปสู่ลูก และสุขภาพทางใจ คือสภาพจิตใจและอารมณ์ของพี่เลี้ยงค่ะ
โรคติดเชื้อที่ติดต่อจากพี่เลี้ยงไปสู่เด็กได้บ่อยมีอะไรบ้าง?
โรคติดเชื้อที่พบว่าติดต่อจากพี่เลี้ยงทั้งชาวไทยและต่างชาติในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น พม่า ลาว กัมพูชา ได้บ่อยมากคือ วัณโรค คุณพ่อคุณแม่อาจปรึกษาคุณหมอเพื่อตรวจคัดกรองวัณโรคให้พี่เลี้ยงโดยการตรวจเอ็กซเรย์ปอดหรือทำการทดสอบการติดเชื้อวัณโรคด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติมหากสงสัยได้ค่ะ นอกจากนี้โรคติดเชื้อที่ทำให้มีอาการท้องเสียเช่นไทฟอยด์ หรืออหิวาตกโรค ซึ่งสามารถปนเปื้อนในอาหารและน้ำดื่มก็อาจพบได้ในพี่เลี้ยงโดยเฉพาะชาวต่างชาติ เช่นพม่า ซึ่งคุณหมอจะสามารถตรวจคัดกรองได้โดยการตรวจอุจจาระ และส่งอุจจาระไปเพาะเชื้อถ้าสงสัยว่ามีการติดเชื้อค่ะ การติดเชื้อปนเปื้อนทางการรับประทานอีกชนิดที่อาจตรวจพบได้คือไวรัสตับอักเสบเอค่ะ ซึ่งเชื้อโรคชนิดนี้อาจทำให้มีอาการตับอักเสบ ตาเหลืองตัวเหลืองได้ โดยบางครั้งผู้ป่วยอาจไม่มีอาการเลย แต่สามารถแพร่เชื้อมาสู่คนอื่น ๆ ที่ใกล้ชิดได้ ซึ่งเราจะสามารถตรวจคัดกรองได้ด้วยการเจาะเลือดค่ะ
นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตเบื้องต้นร่วมกับปรึกษาคุณหมอว่าพี่เลี้ยงมีการติดเชื้อที่บริเวณผิวหนังหรือไม่ เช่นหิด เชื้อรา หรือผิวหนังอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจติดต่อมายังลูกได้ง่ายนะคะ
มีโรคติดเชื้ออื่น ๆที่สามารถติดต่อจากพี่เลี้ยงไปสู่เด็กได้อีกหรือไม่?
นอกจากโรคที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้วก็ยังมีโรคติดเชื้ออื่นๆที่มีโอกาสพบติดต่อจากพี่เลี้ยงไปสู่เด็กได้บ้างนะคะ เช่น โรคพยาธิลำไส้ รวมทั้งโรคที่ติดต่อทางเลือดและสารคัดหลั่ง เช่น โรคไวรัสตับอักเสบบี เป็นต้น ซึ่งการพิจารณาตรวจคัดกรองโรคเหล่านี้ คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษากับคุณหมอถึงความจำเป็น แต่ละกรณีไปค่ะ
คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาสภาพจิตใจและอารมณ์ของพี่เลี้ยงอย่างไร?
เนื่องจากพี่เลี้ยงต้องอยู่ใกล้ชิดกับลูกมาก และบางครั้งอาจต้องอยู่ตามลำพังกับลูก คุณพ่อคุณแม่ควรได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่เลี้ยงเพื่อจะได้ทราบถึงลักษณะนิสัย สภาพจิตใจและการแสดงออกซึ่งอารมณ์ เช่น ความเครียด การควบคุมอารมณ์ เป็นต้น เพื่อป้องกันปัญหาการทำทารุณกรรมและการใช้ความรุนแรงต่อลูกนะคะ
ที่หมอเล่ามาทั้งหมดเป็นข้อแนะนำเบื้องต้นที่คุณพ่อคุณแม่สามารถปรึกษาคุณหมอเพื่อพิจารณาก่อนรับพี่เลี้ยงเข้ามาดูแลลูก พี่เลี้ยงแต่ละท่านอาจมีปัจจัยอื่น ๆ นอกจากนี้ ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่ไม่แน่ใจก็สามารถปรึกษาคุณหมอเพื่อช่วยประเมินได้ค่ะ
10 ข้อควรคิดก่อนจ้างพี่เลี้ยงเด็ก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!