“นั่นเพราะ เซลลูไลท์ ไม่ใช่ปัญหาไขมัน แต่เป็นปัญหาของผิว มันไม่เกี่ยวกับน้ำหนักตัวของคุณหรือว่าคุณลดน้ำหนักไปเท่าไร” นพ. โฮเวิร์ด มูราด แพทย์ผิวหนังฮอลลีวู้ดกล่าว
ปัญหากำจัดเซลลูไลท์ ไม่ได้ผลนั้นเกิดจากการที่ผู้หญิงไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเซลลูไลท์คืออะไร จึงไม่รู้วิธีรักษาที่ถูกต้องและบ่อยครั้งที่ความพยายามทุ่มเทไม่รู้จบให้กับการลดน้ำหนัก ควบคุมไขมันและดูแลผิวพรรณเพื่อรักษาเซลลูไลท์นั้นมักจบลงอย่างเปล่าประโยชน์
ที่มาของเซลลูไลท์
เซลลูไลท์ ไขมัน, กำจัด
เซลลูไลท์ (Cellulite) หรือใครหลาย ๆ คนเรียกว่า ผิวเปลือกส้ม ลักษณะขรุขระเป็นตะปุ่มตะป่ำ คล้ายผิวส้ม หรือผิวมะกรูด ส่วนใหญ่เซลลูไลท์ เกิดบริเวณ ต้นขา สะโพก ต้นแขน และหน้าท้อง ซึ่งในก้อนไขมันมีลักษณะเป็นก้อนเหนียว ๆ เซลลูไลท์จะแตกต่างกับไขมันธรรมดาในร่างกาย ซึ่งสามารถกำจัดเซลลูไลท์ด้วยการออกกำลังกาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะกำจัดออกไปได้ง่าย ๆ เพราะต้องมีความสม่ำเสมอในการออกกำลังกาย และคุมอาหาร จึงจะสามารถกำจัดได้
เซลลูไลท์เกิดกับใครได้บ้าง ?
เซลลูไลท์ ไม่ได้เกิดกับคนอ้วนเพียงอย่างเดียว ซึ่งในผู้หญิงที่มีรูปร่างผอมก็มีเซลลูไลท์ได้เช่นกัน ส่วนใหญ่ในผู้ชายจะมีไขมันน้อยกว่าผู้หญิง ยกเว้นกับผู้ชายบางคนที่อ้วนมาก ๆ ก็มีเซลลูไลท์ได้เหมือนกัน โดยผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 20 ปี ก็เริ่มมีการสะสมของเซลลูไลท์เช่นกัน
ประเภทของเซลลูไลท์ มีแบบไหนบ้าง ?
- Soft Cellulite เป็นเซลลูไลท์ที่สามารถพบได้บ่อยในเพศหญิง ที่มีอายุ 20 – 30 ปี โดยจะมีลักษณะเป็นก้อนขนาดเล็ก ริ้วลูกคลื่นแบบนิ่ม ส่วนใหญ่สาเหตุมาจากพันธุกรรม
- Hard Cellulite เซลลูไลท์ชนิดนี้ พบได้บ่อยในเพศหญิงที่มี 20 – 40 ปี ลักษณะของไขมันชนิดนี้ จะเป็นก้อนแข็งเล็ก ๆ ส่วนใหญ่พบแถวบั้นท้ายและสะโพก
- Flaccid Cellulite เซลลูไลท์ชนิดนี้ พบในผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป และไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ซึ่งจะมีลักษณะนุ่ม ๆ มีการหย่อนคล้อยของผิวหนัง และกล้ามเนื้อเหลว ส่วนใหญ่จะพบบริเวณหน้าท้อง รอบเอว ท้องแขน และคาง
- Edmatous Cellulite เซลลูไลท์ชนิดนี้ มักพบกับคนที่มีระบบการไหลเวียนของเลือดไม่ดี จึงทำให้เกิดการบวมน้ำ พบได้บ่อยบริเวณ สะโพก ต้นขา
- Mixed Cellulite เซลลูไลท์ชนิดนี้ มักพบได้บ่อยในผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว และผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย หรือชอบกินอาหารจำพวกไขมัน ของทอด
สาเหตุของการเกิดเซลลูไลท์
เซลลูไลท์
-
ไขมันส่วนเกินจากการกินอาหาร
การที่รับประทานอาหารจำพวก แป้ง ไขมัน ผลไม้ที่มีรสหวาน รวมถึงน้ำตาล เข้าไปในปริมาณที่มาก เมื่อร่างกายเผาผลาญไม่หมดจะทำให้เกิดไขมันสะสม และกลายเป็นเซลลูไลท์
การลดความอ้วนแบบเร่งด่วน ทำให้ร่างกายเกิดการขาดสารอาหาร จนทำให้เกิดการสะสมของอาหารและไขมัน เมื่อไขมันส่วนเกินไม่ได้ถูกำจัดออกไป ก็จะทำให้เกิดเซลลูไลท์ตามมา
การไม่ออกกำลังกาย จะทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดทำงานได้อย่างไม่เต็มที่ ทำให้การกำจัดของเสียและน้ำเหลืองคั่งค้าง ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที
การนั่งนาน ๆ หรือยืนนาน ๆ ก็จะทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดขัดข้องได้เช่นกัน นอกจากจะทำให้เกิดเซลลูไลท์แล้ว อาจจะทำให้เกิดเส้นเลือดขอดได้อีกด้วย
การดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยขับถ่ายของเสียได้เป็นอย่างดี
การดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้การกำจัดของเสียทำงานไม่ดี และทำให้ตับขจัดสารพิษออกได้ไม่ดีอีกด้วย
บางคนกินน้อยแต่ก็อ้วน เนื่องจากมีโรคประจำตัว เกี่ยวกับระบบเผาผลาญ เช่น โรคต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย ก็จะทำให้เกิดปัญหาของเซลลูไลท์ตามมาได้
ความเครียดจะทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง จนทำให้เกิดการสะสมของเสียในกล้ามเนื้อ และเกิดเซลลูไลท์ได้
การตั้งครรภ์เกิดจากความไม่สมดุลของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงทำให้เกิดเซลลูไลท์ได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : ออกกำลังกายสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ด้วย พิลาทิส ดีหรือไม่
วิธีกำจัดเซลลูไลท์
เซลลูไลท์
การออกกำลังกายเป็นวิธีกำจัดเซลลูไลท์ที่ดีที่สุด และยังช่วยให้ระบบการเผาผลาญในร่างกายสมดุลอีกด้วย ควรออกกำลังกาย วันละ 30 – 40 นาที และควบคุมการกินอาหารอย่างเหมาะสม
ลดอาหารที่มี แป้ง ความมัน ไอศกรีม อาหารที่เค็มจัด และอาหารแปรรูป ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ และมีไขมันต่ำ ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
การกินผัก และผลไม้จะช่วยลดเซลลูไลท์ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากผักและผลไม้ จะช่วยกระตุ้นให้ขับสารพิษออกมา และกำจัดเซลลูไลท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ควรอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งที่นานเกินไป ควรลุกนั่งเพื่อกระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือด ยิ่งคนที่ทำงานอยู่กับที่ยิ่งควรขยับร่างกายบ่อยๆ เพราะหากปล่อยไว้จะยิ่งทำให้เกิดเซลลูไลท์ได้
ที่มา :medthai
บทความที่อาจจะสนใจ
วิธีลดน้ำหนักแบบไม่ต้องออกกำลังกาย
วิถีการกินอาหารเมดิเตอร์เรเนียน คืออะไร ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ
ส้มตำช่วยลดน้ำหนัก ได้ไหม? ควรกินอย่างไรให้ได้ประโยชน์?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!