เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2567 มีหญิงสาวแชร์ประสบการณ์พบก้อน ” เนื้องอกในมดลูก ” ขนาดใหญ่เท่ากะละมัง เตือนผู้หญิงอย่าชะล่าใจหากประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมีอาการผิดปกติทางร่างกาย ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sopis Thongon Bumbim โพสต์ภาพก้อนเนื้องอกมดลูกขนาดใหญ่พร้อมกับข้อความเตือนผู้หญิงให้หมั่นตรวจสุขภาพ
เนื่องจากเธอเองเคยชะล่าใจ คิดว่าอ้วนลงพุง จนก้อนเนื้อโตจนส่งผลต่อสุขภาพ เธอเล่าว่า มีประจำเดือนไม่หยุดนานถึง 2 เดือน ออกมาเป็นลิ่มเลือดใหญ่เท่าไข่ไก่ เปลี่ยนผ้าอนามัยวันละ 22 แผ่น แต่ยังฝืนไปทำงานขายของตามปกติ คิดว่าตัวเองแค่ “อ้วนลงพุง” เพราะไม่มีอาการอื่นนอกจากประจำเดือนไม่หยุด จึงไปหาหมอที่คลินิก
คุณหมอตรวจภายในและพบความผิดปกติ ก้อนเนื้อในท้องใหญ่มาก จึงส่งตัวไปยังโรงพยาบาลมุกดาหารเพื่อขูดมดลูก ผลตรวจเบื้องต้นพบว่าก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ กลัวว่าจะเป็นมะเร็ง คุณหมอจึงขูดมดลูกเพื่อส่งชิ้นเนื้อไปตรวจ ต่อมาเธอถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิ์อุบล
ซึ่งมีแพทย์เฉพาะทางด้านสูตินรีเวชกรรมและมะเร็งนารีเวช ผลตรวจออกมาว่าไม่ใช่มะเร็ง แต่ก้อนเนื้องอกมดลูกมีขนาดใหญ่ถึง 33 เซนติเมตร เทียบเท่าเด็กใกล้คลอด ก้อนเนื้อทับท่อไต ทำให้ปัสสาวะบ่อย ทับลำไส้ ทำให้กินได้น้อย จุกอืด ประกอบกับเลือดไหลไม่หยุด ส่งผลทำให้อ่อนเพลีย ความดันขึ้น จนเกือบจะเป็นลม
เธอต้องรอคิวผ่าตัดนานถึง 1 เดือน แต่ด้วยสภาพร่างกายที่แย่ลง เลือดไหลไม่หยุด และเสี่ยงเสียชีวิต ทางครอบครัวจึงตัดสินใจปรึกษาหมอที่คลินิก และได้คิวผ่าตัดฉุกเฉินในวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยใช้ห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลมุกดาหาร ผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ที่มา: www.dailynews.co.th, www.thairath.co.th
เนื้องอกในมดลูก (Myoma Uteri หรือ Uterine Fibroid)
ไมโอมา หรือเนื้องอกมดลูก เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายที่พบบ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ เนื้องอกนี้เกิดจากเซลล์กล้ามเนื้อเรียบของมดลูก มักมีลักษณะเป็นก้อนกลม แข็ง คล้ายยาง โดยขนาดของเนื้องอกมดลูก มีขนาดที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่เล็กเท่าเมล็ดถั่วลันเตา ไปจนถึงใหญ่เท่าลูกเกรปฟรุต หรือมากกว่า ผู้หญิงบางคนอาจมีเนื้องอกหลายก้อนพร้อมกัน โดยไม่รู้ตัวเลย
สาเหตุของการเกิดเนื้องอกในมดลูก
ณ ปัจจุบันแพทย์ยังไม่สามารถหาสาเหตุของการเกิดเนื้องอกมดลูกยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ฮอร์โมนเพศหญิง พันธุกรรม และปัจจัยอื่น ๆ มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอกมดลูก โดยมีปัจจัยหลายอย่างที่เชื่อว่ามีส่วนในการเกิดเนื้องอกดังนี้
- ฮอร์โมน: ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนถูกผลิตโดยรังไข่ มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเนื้องอกมดลูก โดยระดับฮอร์โมนเหล่านี้จะสูงขึ้นในช่วงวัยเจริญพันธุ์และลดลงในวัยหมดประจำเดือน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ความเสี่ยงของการเป็นเนื้องอกมดลูกจะลดลงหลังหมดประจำเดือน
- พันธุกรรม: การมีประวัติครอบครัวที่มีเนื้องอกมดลูกอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกมดลูกได้ รวมถึงปัจจัยทางพันธุกรรมอื่น ๆ มีการค้นพบยีนบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับการเกิดเนื้องอกในมดลูก
- อายุ: ความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอกมดลูกจะเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีอายุ 30-40 ปี
- การตั้งครรภ์: การตั้งครรภ์และการคลอดบุตรจะลดความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอกในมดลูก
- น้ำหนักตัว: ผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะเกิดเนื้องอกมดลูก
- เชื้อชาติ: ผู้หญิงผิวดำมีแนวโน้มที่จะเกิดเนื้องอกในมดลูกมากกว่าผู้หญิงเชื้อชาติอื่น ๆ ปัจจัยสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรม
- การดำเนินชีวิต: การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงหรือไม่สมดุล และการไม่ออกกำลังกายอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอกมดลูก
เนื้องอกมดลูกมีกี่ชนิด
เนื้องอกมดลูก แบ่งออกเป็น 3 ชนิดใหญ่ ๆ ดังนี้
1. เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกใต้เยื่อบุโพรงมดลูก (Submucous myoma)
เป็นเนื้องอกชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นใน โพรงมดลูก ใต้เยื่อบุโพรงมดลูก มักพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุระหว่าง 30-50 ปี ซึ่งสาเหตุของเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกใต้เยื่อบุโพรงมดลูกยังไม่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศหญิง โดยเฉพาะเอสโตรเจน เนื้องอกชนิดนี้มักมีขนาดเล็กแต่สามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้นได้และก่อให้เกิดอาการ ดังนี้
- ประจำเดือนมาผิดปกติ (ประจำเดือน มามากผิดปกติ, ประจำเดือนมานาน หรือมีเลือดออกกะปริดกะปรอย)
- ก้อนเนื้อในมดลูกโตเร็ว (คลำพบก้อนทางช่องคลอด, ปวดท้องน้อย, ปัสสาวะบ่อย หรือท้องผูก)
- มีบุตรยาก (แท้งลูก, ทารกในครรภ์เสียชีวิตในครรภ์ หรือคลอดก่อนกำหนด)
บทความที่น่าสนใจ: ประจำเดือนผิดปกติ แบบไหนส่อมีบุตรยาก
2. เนื้องอกในกล้ามเนื้อมดลูก (Intramural myoma)
อีกชื่อหนึ่งว่า “เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก” เป็นเนื้องอกชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในชั้นกล้ามเนื้อของมดลูก ซึ่งถือเป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุดในเนื้องอกของมดลูก เนื้องอกนี้มีลักษณะเป็นก้อนแข็ง มักจะไม่ใช่มะเร็งและไม่แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย ทั้งนี้อาการของเนื้องอกในกล้ามเนื้อมดลูกอาจแตกต่างกันไปตามขนาดและตำแหน่งของเนื้องอก อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- ประจำเดือนมามากผิดปกติ (Menorrhagia)
- ปวดท้องหรือปวดบริเวณเชิงกราน
- ปัสสาวะบ่อยหรือรู้สึกท้องผูก
- มีความรู้สึกอึดอัดหรือมีเนื้องอกโตขึ้นทำให้มดลูกขยายตัว
3. เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกใต้เยื่อบุช่องท้อง (Subserous myoma)
เป็นเนื้องอกชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นจากกล้ามเนื้อมดลูก ลักษณะของเนื้องอกชนิดนี้คือ จะโตยื่นออกไปจากตัวมดลูก มักไม่ค่อยมีอาการ แต่หากก้อนมีขนาดใหญ่ อาจจะมีอาการดังต่อไปนี้
- ปวดท้องน้อย อาการปวดท้องน้อยมักเกิดขึ้นบริเวณท้องน้อยด้านล่าง อาจจะมีลักษณะเป็นการปวดหน่วง ๆ หรือปวดแบบจี๊ด ๆ บริเวณที่ปวดจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเนื้องอก
- ท้องอืด เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกใต้เยื่อบุช่องท้องขนาดใหญ่ อาจจะไปกดเบียดอวัยวะข้างเคียง เช่น ลำไส้ใหญ่ ทำให้เกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย
- ปวดหลัง เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกใต้เยื่อบุช่องท้องขนาดใหญ่ อาจจะไปกดทับเส้นประสาทบริเวณหลัง ทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรัง
วิธีการรักษา เนื้องอกในมดลูก
การรักษาเนื้องอกมดลูก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดและตำแหน่งของเนื้องอก เพราะเนื้องอกมดลูกขนาดเล็กบางชนิดอาจไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา, รักษาตามอาการ ผู้หญิงบางรายอาจไม่มีอาการใด ๆ จากเนื้องอกมดลูก ในขณะที่บางรายอาจมีอาการต่าง ๆ เช่น เลือดออกประจำเดือนมาก ปวดท้อง หรือมีปัญหาในการมีบุตร เป็นต้น และรักษาตามความต้องการมีบุตร ผู้หญิงที่ต้องการมีบุตรอาจต้องการการรักษาที่ช่วยให้พวกเขามีบุตรได้ นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งการรักษาเป็นแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัดได้อีกด้วย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
การรักษาเนื้องอกในมดลูกแบบไม่ผ่าตัด
- การเฝ้าสังเกตการณ์ เหมาะสำหรับเนื้องอกมดลูกขนาดเล็ก ไม่มีอาการ และผู้ป่วยไม่ต้องการมีบุตร แพทย์จะนัดติดตามอาการและขนาดของเนื้องอกเป็นระยะ
- ใช้ยา ยาบางชนิดสามารถช่วยลดอาการของเนื้องอกมดลูก เช่น ยาแก้ปวด ยาฮอร์โมน ยาคุมกำเนิด ยาแก้อักเสบ เป็นต้น
- การอุดหลอดเลือด วิธีนี้ใช้สำหรับเนื้องอกมดลูกที่มีขนาดใหญ่ แพทย์จะสอดสายสวนเข้าไปในหลอดเลือดแดงที่ขาหนีบไปจนถึงเนื้องอก แล้วฉีดสารที่ทำให้หลอดเลือดอุดตัน ก้อนเนื้องอกที่ขาดเลือดจะฝ่อลงไปได้เอง
- การรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง วิธีนี้ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อทำลายเนื้องอกมดลูก เหมาะสำหรับเนื้องอกมดลูกที่มีขนาดเล็กถึงปานกลาง
การรักษาเนื้องอกในมดลูกแบบผ่าตัด
- การผ่าตัดส่องกล้อง วิธีนี้ใช้กล้องขนาดเล็กสอดผ่านช่องคลอดหรือหน้าท้องเพื่อผ่าตัดเนื้องอกมดลูก แผลมีขนาดเล็ก ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว
- การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง วิธีนี้ใช้สำหรับเนื้องอกมดลูกที่มีขนาดใหญ่ หรืออยู่ในตำแหน่งที่ผ่าตัดส่องกล้องไม่ได้ แผลมีขนาดใหญ่ ผู้ป่วยฟื้นตัวนานกว่าการผ่าตัดส่องกล้อง
- การผ่าตัดตัดมดลูก วิธีนี้ใช้สำหรับเนื้องอกมดลูกที่มีขนาดใหญ่หลายก้อน หรือผู้ป่วยมีอาการรุนแรง
ทั้งนี้หลังจากรับการรักษาแล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น การรับประทานยา การติดตามอาการ และการดูแลสุขภาพทั่วไป เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์เช่นเดิม
เนื้องอกมดลูกเป็นภาวะที่สามารถจัดการได้ หากผู้ป่วยมีความรู้และเข้าใจในอาการและวิธีการรักษา การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และการดูแลสุขภาพตนเองอย่างถูกต้องจะช่วยให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ที่มา: ch9airport.com, www.vejthani.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
ตรวจฟรี! มะเร็งเต้านม-ปากมดลูก ทุกเสาร์สัปดาห์แรก และสัปดาห์ที่สาม ตลอดปี 67
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกระหว่างตั้งครรภ์ ปลอดภัยหรือไม่?
เนื้องอกรังไข่ สัญญาณโรคมะเร็งรังไข่ที่ผู้หญิงต้องระวัง
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!