คุณแม่ขนลุก บรอกโคลีมีแมลง ลอยยั้วเยี้ย แม้ล้างผัก 4 รอบ!

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา จากกรณีที่เพจ หมอแล็บแพนด้า ได้โพสต์ภาพอาหาร เป็นเมนูแกงจืดหมูสับของคุณแม่คนหนึ่ง โดยใช้ บรอกโคลีมีแมลง เป็นวัตถุดิบประกอบ แต่หลังทำอาหารเรียบร้อยแล้ว พบ บรอกโคลีมีแมลง ฝูงแมลงลอยติดอยู่ใน ไขน้ำมันในแกงจืดเป็นจำนวนมาก

 

โดยข้อความระบุไว้ว่า “อวสาน แกงจืดหมูสับ บรอกโคลี ลูกรัก แช่น้ำเกลือครึ่งชั่วโมง ล้างน้ำเปล่า 4 รอบ ต้มเสร็จ แม่ถึงเห็นแมลงติดมันหมูเต็มไปหมด บรอกโคลีมีประโยชน์มาก แต่ก็สกปรกมาก ๆ ฝากเตือนแม่ ๆ ระวังกันด้วยน้า”

 

 

ทำเอาผู้ที่เห็นโพสต์ต่างถึงกับขนลุกไปตาม ๆ กัน เพราะบรอกโคลีเป็นผักที่นิยมรับประทานกันทั่วไป และคุณแม่หลายคนก็นำมาปรุงอาหารให้ลูกน้อยด้วย โดยมีคนเข้ามาบอกว่า แมลงดังกล่าวคือ เพลี้ยอ่อน ซึ่งเป็นแมลงศัตรูพืช

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

นอกจากนี้ มีผู้เข้ามาแนะนำวิธีการทำความสะอาดบรอกโคลี ด้วยการนำไปแช่น้ำ แล้วนำมาหั่น ก่อนล้างอีกครั้ง และนำไปลวก จากนั้นให้ล้างน้ำเย็นอีกรอบจึงนำไปประกอบอาหาร เพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่หลบซ่อนเช่นกรณีนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง : ฝึกลูกหยิบอาหารกินเอง เริ่มฝึกลูกได้เมื่อไหร่และฝึกอย่างไร?

 

ล้างผักอย่างไร ให้สะอาดปลอดภัยจากสารตกค้าง

ทำไมต้องล้างผัก?

การล้างผักทำให้สามารถกำจัดสิ่งสกปรก และสิ่งที่ปนเปื้อนอื่น ๆ ที่ติดมาได้ การล้างผักยังช่วยล้างยาฆ่าแมลงและสารเคมีอื่น ๆ ที่อาจติดอยู่บนพื้นผิวของผัก ทั้งนี้การล้างผักยังช่วยให้รสชาติ เนื้อสัมผัส และรูปลักษณ์ของผักดีขึ้น การล้างผักจะสามารถช่วยในการยืดอายุการเก็บรักษาได้นาน และสุดท้ายการล้างผักยังทำให้แน่ใจได้ว่า ทุกคนในครอบครัวจะได้รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและสะอาดเอี่ยม

 

วิธีล้างผักที่ถูกต้อง

ควรล้างผักก่อนรับประทานทุกครั้ง การล้างผักให้สะอาดสามารถช่วยขจัดสิ่งสกปรก แบคทีเรีย และยาฆ่าแมลงลงได้ ในปัจจุบันมีหลายวิธีมาก ๆ ช่วยในการล้างผัก ซึ่งวิธีพื้นฐานเลยนั่นคือ การล้างโดยใช้น้ำสะอาด และสามารถใช้น้ำผสมน้ำส้มสายชูแช่ผัก หรือจะใช้เบกกิ้งโซดา หลังจากนั้นให้ทำการแช่ทิ้งไว้ก่อน แล้วค่อยล้างออก หากต้องล้างผักและผลไม้ให้สะอาด ไม่จำเป็นต้องใช้ล้างด้วยสบู่ เพราะการรับประทานสบู่ไม่ใช่เรื่องดีนัก

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

หากคุณไม่ต้องการรับประทานผักและผลไม้ทันที ให้เก็บแช่ไว้ในตู้เย็น และนำมาล้างก่อนรับประทาน หากจะถามว่า จำเป็นต้องล้างผักก่อนรับประทานหรือไม่? ขอตอบเลยนะคะว่า เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำอย่างมากเลยค่ะ ที่จะต้องนำผักและผลไม้ มาล้างก่อนรับประทาน และต้องล้างให้ถูกวิธีด้วยนะคะ เพราะการล้างได้อย่างถูกวิธี จะสามารถขจัดสิ่งสกปรก แบคทีเรีย และยาฆ่าแมลงได้ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : แนะนำ วิธี ล้างผัก และผลไม้ อย่างไร ให้สะอาด ปลอดภัย ปราศจากสารพิษตกค้าง

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

น้ำที่จะใช้ล้างผักและผลไม้

หลายคนมีความคิดว่าปกติแล้ว เราควรล้างผักและผลไม้หรือไม่ บางคนก็มีความเชื่อที่ว่าการล้างผักและผลไม้ จะเป็นการกำจัดสารอาหารที่สำคัญออกไป ในขณะที่บางคนก็เชื่อว่า เราควรล้างผักเพราะจะได้กำจัดแบคทีเรียออกไป และถ้าหากคุณต้องการที่จะล้างผักและผลไม้ คุณใช้น้ำแบบไหน นั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ คุณไม่ควรใช้น้ำที่ร้อนหรือเย็นเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อคุณภาพของผักได้ อุณหภูมิที่ดีที่สุดคือน้ำอุ่น ที่ควรใช้ล้างผักและผลไม้ค่ะ

 

จำเป็นต้องล้างผักและผลไม้หรือไม่ ?

คุณควรล้างผักและผลไม้ทุกครั้ง ก่อนที่จะรับประทาน การล้างจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกลงได้ แบคทีเรียและสารเคมีที่อาจอยู่บนพื้นผิวของผักและผลไม้ให้ออกไปได้ โดยมีหลายวิธีในการล้างผักและผลไม้ อย่างแรกคือล้างด้วยน้ำสะอาด ก็เพียงพอสำหรับผักและผลไม้ส่วนใหญ่โดยปกติทั่วไป ถ้าหากต้องการระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องการความสะอาดมากยิ่งขึ้น ให้ล้างด้วยน้ำส้มสายชูที่เจือจาง หรือเบกกิ้งโซดาจะได้ผลดีที่สุด

 

 

กำจัดแบคทีเรียได้ด้วยการล้างผักจริงหรือ ?

คนทั่วไปมักคิดว่า การล้างผักและผลไม้ด้วยน้ำเปล่า จะช่วยกำจัดแบคทีเรียทั้งหมด และทำให้กินได้อย่างปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตาม นี่ก็ไม่ใช่ความเชื่อที่ถูกทั้งหมด เพราะในการล้างผักและผลไม้ด้วยน้ำเปล่า ก็ไม่เพียงพอที่จะกำจัดแบคทีเรียทั้งหมดออกมาได้ ผลจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฟลอริดา ในการล้างผักผลไม้ด้วยน้ำเปล่า ก็สามารถลดปริมาณแบคทีเรียบนพื้นผิวของผักและผลไม้ได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าหากต้องการให้สะอาดขึ้น ให้ใช้วิธีให้น้ำไหลผ่าน และใช้มือถูทำความสะอาดผักเบา ๆ วิธีนี้ก็จะช่วยลดปริมาณสารเคมีตกค้างได้ 50 % ค่ะ

 

เพราะฉะนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการล้างผัก ที่ช่วยกำจัดแบคทีเรียออกไปได้ นั้นก็คือ การล้างผักและผลไม้ด้วยเบกกิ้งโซดา เพราะเบกกิ้งโซดาเป็นสารฆ่าเชื้อแบบธรรมชาติ ที่จะสามารถฆ่าแบคทีเรียได้โดยไม่ทำอันตรายต่อผัก หากต้องการล้างผักและผลไม้เบกกิ้งโซดา ทำได้โดยเติมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา ลงในภาชนะในน้ำอุณหภูมิปกติ จากนั้นใส่ผักหรือผลไม้ลงไปแช่ไว้ 5 นาที หลังจากผ่านไป 5 นาที ให้นำผักและผลไม้ขึ้นจากน้ำ และล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งค่ะ

 

การล้างผักนั้นสำคัญอย่างมาก ในการที่จะกำจัดเชื้อแบคทีเรีย และสารเคมีปนเปื้อนอื่น ๆ ที่ตกค้างอยู่ในผักผลไม้ ดังนั้น วิธีการที่ง่ายและสะดวกที่สุดสำหรับการล้างผัก ก็คือนำผักผลไม้ มาล้างด้วยเบกกิ้งโซดาหรือใช้น้ำส้มสายชูเจือจาง หรือจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไว้ใช้สำหรับล้างผักที่มีขายทั่วไปก็ได้ค่ะ หากว่าไม่แน่ใจ ว่าต้องล้างอย่างไร ให้เช็กดูจากฉลากบนบรรจุภัณฑ์ หรือสอบถามจากร้านขายของก่อนซื้อได้เลย เพื่อที่จะได้นำมาใช้งานได้อย่างถูกวิธีค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

วิธีทำน้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างจานโฮมเมด ปลอดภัย ไร้สารเคมี

9 ผัก ผลไม้สีขาว ประโยชน์ดี ๆ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ได้อย่างไรบ้าง ?

วิธีเก็บผักสลัด ยังไง? ให้อยู่ได้นาน และสดใหม่อยู่เสมอ

ที่มา :

www.sanook.com

บทความโดย

Kanjana Thammachai