ถ้าคุณกำลังมองหาทางเลือกอื่น มาแทนที่น้ำยาล้างจานที่ซื้อตามร้าน แต่อยากได้ประสิทธิภาพในการล้างที่ดี และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การทำน้ำยาล้างจานด้วยตัวเองนั้นง่ายมาก อีกทั้งส่วนผสมก็มีราคาไม่แพงและหาได้ง่าย ๆ ในบทความนี้ เราจะพามาดู วิธีทำน้ำยาล้างจาน ได้ด้วยเองกันค่ะ
วิธีทำน้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างจานโฮมเมด
รวบรวมส่วนผสมที่จำเป็น
ขั้นตอนแรกในการทำน้ำยาล้างจานด้วยตัวเอง คือ การรวบรวมส่วนผสมที่จำเป็น คุณต้องใช้สารลดแรงตึงผิว เช่น แอมโมเนียม ลอริล ซัลเฟต ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดฟองและช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกได้ และ สารคีเลต เช่น โซเดียมซิเตรตหรือ EDTA ซึ่งช่วยให้ผลิตภัณฑ์คงตัวและป้องกันการสะสมของแร่ธาตุ สารกันบูดสำหรับสูตรป้องกันแบคทีเรีย และน้ำหอม เช่น น้ำมันหอมระเหย เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีกลิ่นหอม ถ้าหากชอบสีสันสวยงามสามารถทำได้โดยใช้ สารแต่งสีหรือสารเพิ่มฟอง เพื่อปรับแต่งน้ำยาล้างจานของคุณให้ดูสดใสน่าใช้งาน
บทความที่เกี่ยวข้อง : แนะนำ วิธี ล้างผัก และผลไม้ อย่างไร ให้สะอาด ปลอดภัย ปราศจากสารพิษตกค้าง
ตวงส่วนผสมตามสูตร
ขั้นตอนที่สองในการทำน้ำยาล้างจาน คือ การตวงส่วนผสมตามสูตร ก่อนที่จะเริ่ม ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น ถ้วยและช้อนตวง ชามผสมขนาดใหญ่ และภาชนะสำหรับจัดเก็บน้ำยาล้างจานที่เสร็จแล้ว อย่าลืมอ่านสูตรอย่างละเอียด และทำตามอย่างแม่นยำ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือต้องแน่ใจว่าคุณใช้ส่วนผสมที่ถูกต้องด้วยนะคะ
วัตถุดิบของแต่ละสูตร
1. น้ำยาล้างจานแบบปกติ
- เกล็ดสบู่คาสตีล ¼ ถ้วย (9 กรัม)
- น้ำ 2 ถ้วย (470 มล.)
- น้ำส้มสายชูกลั่นขาว 1 ถึง 2 ช้อนโต๊ะ (15 ถึง 30 มล.)
2. น้ำยาล้างจานผสมน้ำมันหอมระเหย
- น้ำ 1 ½ ถ้วย (353 มล.)
- เกล็ดสบู่คาสตีล ¼ ถ้วย (9 มล.) อัดให้แน่น
- สบู่เหลวคาสตีล ¼ ถ้วย (60 มล.)
- 2 ¼ ช้อนชาถึง 1 ช้อนโต๊ะ (10 ถึง 14 กรัม) ซูเปอร์โซดาซักผ้า
- กลีเซอรีน ½ ช้อนชา (1.5 กรัม)
- น้ำมันหอมระเหย 15 ถึง 40 หยด
3. น้ำยาล้างจานผสมบอแรกซ์
- น้ำ 2 ½ ถ้วย (600 มล.)
- บอแรกซ์ 1 ช้อนโต๊ะ (2 กรัม)
- โซดาซัก 1 ช้อนโต๊ะ (14 กรัม)
- น้ำส้มสายชูกลั่นขาว 2 ช้อนโต๊ะ (30 มล.)
- สบู่เหลวคาสตีล ½ ถ้วย (120 มล.)
4. วิธีทำน้ำยาล้างจาน จากมะกรูด ปลอดภัยไร้สารพิษ
- มะกรูด 1 กิโลกรัม
- เกลือ 400 กรัม
- N70 500 กรัม
- น้ำสะอาด 5-6 ลิตร
ผสมส่วนผสมให้เข้ากัน
เมื่อคุณได้ส่วนผสมที่จำเป็นทั้งหมดแล้ว จากนั้นก็นำมาผสมให้เข้ากัน เพื่อทำน้ำยาล้างจาน สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดได้รับการผสมอย่างทั่วถึง เพื่อให้ได้ความสมูทของน้ำยาล้างจาน อาจต้องการใช้เครื่องปั่น หรือเครื่องตีแป้ง เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมจะเนียนสนิทเป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้ว น้ำยาล้างจานก็พร้อมใช้งานค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : แนะนำ 8 น้ำยาล้างจาน ยี่ห้อไหนดี ขจัดคราบสะอาดหมดจด ล้างออกง่าย!
ทดสอบความสม่ำเสมอของน้ำยาล้างจาน
หลังจากผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องทดสอบความเนียน ความสม่ำเสมอของน้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างจานอาจเหนียวหรือเหลวมากเกินไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณสบู่ที่ใช้ ในการทดสอบความสม่ำเสมอ ให้ใช้ช้อนคนน้ำยาล้างจานประมาณ 1 นาที แล้วสังเกตเนื้อสัมผัส หากน้ำยาล้างจานเหลวเกินไป ให้เติมสบู่เหลวคาสตีลทีละน้อย ๆ เพื่อทำให้น้ำยาล้างจานข้นขึ้น หากน้ำยาล้างจานข้นเกินไป ให้เติมน้ำเล็กน้อยเพื่อเจือจางได้เลยค่ะ
บรรจุน้ำยาล้างจานไว้ใช้
เมื่อได้น้ำยาล้างจานแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การบรรจุใส่ขวดเพื่อใช้งาน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งาน ให้ค่อย ๆ เทน้ำยาล้างจานลงในภาชนะที่ใช้ซ้ำได้ หรือใส่ถุงที่สามารถปิดปากถุงได้อย่างมิดชิด ในการเลือกบรรจุภัณฑ์ ให้คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเช็กให้แน่ใจว่าบรรจุภัณฑ์เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานของเราหรือไม่ ตัวอย่างเช่น ส่วนผสมที่ไวต่อแสงอาจต้องใช้บรรจุภัณฑ์ทึบแสง และสิ่งสำคัญอีกอย่าง คือ การติดฉลากต้องชัดเจน ถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น ส่วนผสมที่ออกฤทธิ์ อายุการเก็บรักษา และสภาวะการเก็บรักษา ให้ครบถ้วน
สรุปได้ว่า การทำน้ำยาล้างจานใช้เองเป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดต้นทุนในการล้างจานอย่างมาก ใช้เพียงส่วนผสมง่าย ๆ ไม่กี่อย่าง เช่น สบู่คาสตีล น้ำกลั่น และน้ำมันหอมระเหย คุณก็สามารถทำน้ำยาล้างจานแบบอ่อน ๆ หรือแบบแรง ๆ ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความชอบของตัวเอง นอกจากนี้ยังทำน้ำยาล้างจานธรรมดา หรือน้ำยาล้างจานออร์แกนิกก็ได้ ด้วยส่วนผสมที่เหมาะสม ก็จะทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นได้อีกเยอะเลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง :
วิธีทำสบู่เหลว ออร์แกนิก สูตรจากธรรมชาติ พร้อมประโยชน์เน้น ๆ
8 วิธีเลือกน้ำยาล้างจาน เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย ถนอมมือ!
ประโยชน์ของ น้ำยาล้างจาน มีดีมากกว่าแค่ ทำความสะอาด
ที่มา : Wikihow, Wukihow
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!