เรื่องของการโดนบูลลี่ในสังคมโรงเรียน เป็นเรื่องที่เด็กกลัวและไม่กล้าพูดต่อ ดังเช่นเรื่องของครอบครัวนี้ ที่ต้องมาพบความเจ็บปวดที่ว่า หลาน ม.2 ถูกบูลลี่ ตอนแรกก็ไม่เอะใจ แต่พักหลังเริ่มสงสัยว่า ทำไมถึงไม่อยากไปโรงเรียน
โดยเรื่องนี้ได้รับการเผยแพร่ผ่าน เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้แชร์โพสต์จากผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ม.2 ของโรงเรียนในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งสังเกตว่าช่วงหลังหลานไม่ชอบไปโรงเรียน ก่อนจะรู้ความจริงในเวลาต่อมาว่า หลาน ม.2 ถูกบูลลี่ โดยถูกนักเรียนกลุ่มหนึ่งทำตัวเป็นมาเฟียห้องรุมบูลลี่ โดยระบุว่า “หลานเราเรียนอยู่ชั้น ม.2 เริ่มสังเกตหลานว่า พักหลัง ๆ หลานไม่ชอบไปโรงเรียน เก็บตัวและไม่ค่อยร่าเริง และอ้างว่าไม่สบาย ปวดท้องบ่อย ๆ วันไหนไปเรียนบางวันก็โทรให้ที่บ้านไปรับ บอกว่าปวดท้องประจำเดือน เราก็ไม่ได้เอะใจหรอก
แต่ในที่สุดความจริงก็มาปรากฏ หลานเราถูกนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่ทำตัวเป็นมาเฟียของห้อง ข่มขู่ บูลลี่ แกล้ง ใส่ร้ายหลานเราสารพัดเพื่อไม่ให้เพื่อนในห้องคบ เพียงเพราะหลานเราเป็นเด็กอ่อนแอ ไม่สู้คน และมีรูปลักษณ์ที่ทำให้เพื่อนนำไปบูลลี่ หลานกลับมาบ้านชอบพูดว่าอยากดัดฟัน พูดทุกวัน แต่ความจริงคือมาเฟียของห้องล้อหลานของเราทุกวันว่าฟันเหยิน อีดำ รูปไม่ตรงปก และแอนตี้หลานเรา แม้กระทั่งเดินทางเดียวกันเพื่อขึ้นเรียนก็โดนด่า ไม่ให้เดินใกล้
และล่าสุดโทรมาข่มขู่และท้าตบ (บอกว่าพร้อมตบ มีแม่คอยซัพพอร์ต แม่เขาสอนมาแบบไหน) หลานบอกไม่ชอบใช้กำลัง ก็ยังเอาคำตอบว่าตบมั้ย เด็กสมัยนี้มันเกินไป เราบันทึกเสียงไว้หมดแล้ว ในสมัยนี้มันยังมีเด็กประเภทนี้อยู่ในสังคมของเราจริง ๆ เหรอ
ฝากถึงผู้ปกครองทุกคนให้สังเกตลูกหลานตัวเอง เราไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นแบบหลานเรา ในตอนนี้หลานเราเป็นโรคซึมเศร้าเลยก็ว่าได้ จากการที่เราประเมินเห็นนะ น้องร้องไห้ อยากย้ายโรงเรียน งานกลุ่มก็โดนกดดัน เพราะตัวคนเดียว โดนใส่ร้ายโดนบูลลี่จนไม่กล้าเอาตัวเองเข้าไปในกลุ่มของใคร เพราะกลัวจะโดนกระทำแบบเดิม
แล้วเรื่องนี้ผู้ปกครองของหลานเราไม่ได้นิ่งดูดาย วันนี้ได้ไปห้องปกครองของโรงเรียน เรื่องกำลังอยู่ในขั้นดำเนินการ ทางครอบครัวของเราเชื่อใจคุณครูทุกคนนะคะ แต่ถ้าสุดท้ายแล้วหลานของเรายังไม่ได้รับความเป็นธรรม และเด็กพวกนี้ไม่ถูกลงโทษ เราจะเอาคลิปเสียงทั้งหมดที่เด็กพวกนี้พูดมาลงให้ทุกคนได้ฟัง ให้สังคมได้ตัดสินและลงโทษ และคิดตามว่าถ้าเป็นลูกหลานของท่านโดนจะทำอย่างไร จะรับได้มั้ย (ครอบครัวเราไม่สามารถทำใจฟังคลิปจนจบเพราะมันเกินใจจะรับไหว) อกคนเป็นพ่อเป็นแม่จะขาดใจอยู่แล้ว เมื่อรู้ว่าลูกถูกรังแก ฝากครูช่วยประเมินเด็ก ๆ ด้วยนะคะ ยังมีเด็กที่ถูกรังแกอีกมากมาย ในวันที่เรายังป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้นได้ เราก็ต้องช่วยกันค่ะ ก่อนมันจะสายเกินไป”
(คลิกอ่านโพสต์ต้นฉบับ)
ผลกระทบของความรุนแรงที่มีต่อเด็ก
1. บาดแผลทางอารมณ์
เด็กที่ถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกทอดทิ้ง จะมีความรู้สึกเจ็บปวดอยู่ภายในใจ เด็กจะรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า โทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุของความรุนแรง เด็กจะขาดความเชื่อใจคน จะรู้สึกสิ้นหวังและเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มีแนวโน้มในการทำร้ายตนเองและฆ่าตัวตายในที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง : หยุด Bully เพราะเรื่องที่เกิดเป็นปมในใจ ไม่ใช่เรื่องน่าขำ
2. บาดแผลทางร่างกาย
เด็กที่ถูกทำร้ายจะมีบาดแผลและรอยฟกช้ำตามร่างกาย ในบางกรณีอาจมีการแตกหักของกระดูก เช่น แขนหรือขาหัก จนมีปัญหาสุขภาพเรื้อรังตามมา ในกรณีที่บาดเจ็บสาหัสก็อาจทำให้เสียชีวิตได้
3. ผลกระทบในระยะยาว
จากการสำรวจพบว่า เด็กที่ถูกทำร้ายไม่ว่าจะทางใด มีแนวโน้มที่มีการศึกษาต่ำ เพราะอาจเลิกเรียนกลางคัน ในระยะยาวจะมีอาการเจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น เป็นโรคซึมเศร้า จากการสำรวจยังพบว่า ผู้ที่มีประวัติถูกทำร้ายและใช้ความรุนแรงในวัยเด็ก เมื่อโตขึ้นมีความเป็นไปได้ที่จะก่ออาชญากรรมร้ายแรง
4. ผลกระทบต่อครอบครัว
ครอบครัวที่มีสมาชิกตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง จะมีปัญหาในการรับมือกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของเหยื่อ เช่น มีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว หรือ พฤติกรรมปิดกั้นตนเองจากสังคม เป็นต้น
หยุด Bully พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องตลก
เพราะผลกระทบที่เกิดจากการบูลลี่ เป็นการกระทบในวงกว้างทั้งผู้ถูกกระทำ ผู้กระทำ และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ การถูกบูลลี่ เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับใคร เพราะมันสามารถสร้างบาดแผลทั้งทางร่างกายและจิตใจได้ ดังนั้นมาดูกันว่าพฤติกรรมใดบ้างที่เข้าข่าย และเราต้องหยุดมัน ก่อนที่จะสร้างผลกระทบให้กับคนอื่น
- ล้อหรือเปรียบเทียบรูปร่าง, หน้าตา, เพศ, รสนิยม
- ตั้งฉายาให้คนอื่นด้วยปมด้อย
- แซวแรงจนเจ้าตัวอาย ตบท้ายด้วยหยอก หยอก
- หลอกให้กินของที่แพ้หรือไม่ชอบ
- ลวนลามทางเพศ ทั้งคำพูดและท่าทาง
- ล้อข้อแตกต่าง, ความเชื่อทางศาสนา
- ล้อเลียนและแตกย้ำความผิดพลาด
- แกล้งเพื่อนต่อหน้าคนอื่นหรือในที่สาธารณะ
การ Bully หรือการกลั่นแกล้งผู้อื่น เป็นการกระทำที่ผิดทั้งกฎหมายและจริยธรรมทางสังคม ซึ่งการกระทำเหล่านั้นสามารถส่งผลกระทบรุนแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทำให้ผู้กระทำไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข ทุกคนในสังคมจึงจำเป็นต้องตระหนักถึงความร้ายแรงของการ Bully เพื่อช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรง และความเสียหายที่จะตามมา เพราะไม่มีควรสมควรได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างเพียงเพราะเกิดมาแตกต่าง หรือเพียงเพราะความสะใจของผู้อื่น!
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เปิดคำสอน แอนนี่ บรู๊ค หลังลูกชายถูกบูลลี่ “เป็นคนประหลาด”
เด็กถูกบูลลี่ จนอยากฆ่าตัวตาย ร้องขอเชือกจากแม่ หลังถูกเพื่อนล้อเรื่องรูปร่าง
โรงเรียนไม่ใช่เซฟโซน แม่ชาวจีนคุกเข่า ร้องขอความเป็นธรรม วอนเอาผิดเด็กรุมทรมานลูกสาว
ที่มา : facebook
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!