อุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับลูกน้อย แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้ว ยังได้การปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม เรื่องแบบนี้จะยิ่งทำให้คนเป็นพ่อแม่ใจสลาย ดังเช่นเรื่องนี้ ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่ง กับเหตุการณ์ที่ ลูกอนุบาล 2 รร.ดังฝั่งธน เสียชีวิตปริศนา
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดย ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนเพื่อความยุติธรรม ทนายดังในโซเชียล โดยเจ้าตัวได้โพสต์ผ่านทาง รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงเหตุการณ์ ลูกอนุบาล 2 รร.ดังฝั่งธน เสียชีวิตปริศนา โดยระบุข้อความว่า มีผู้ปกครองน้องอนุบาล 2 โรงเรียนเอกชนราคาแพงเล่าให้ฟังว่า ลูกล้มในห้องเรียน กลับมาบ้านเสียชีวิตแบบงง ๆ
หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ผู้ปกครองได้สอบถามไปยังโรงเรียน เพื่อถามหากล้องวงจรปิดในห้องเรียน กลับได้รับคำชี้แจงว่า ในห้องมี แต่กล้องดันบังเอิญเสียวันนั้น และเมื่อสอบถามต่อ โรงเรียนแจ้งว่า จะช่วยค่าทำศพ 20,000 บาท
(คลิกดูโพลสต์ต้นฉบับ)
สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ชาวเน็ตทั้งหลายที่มีลูกหลาน หรือบรรดาผู้ปกครอง ต่างเข้ามาคอมเมนต์ แสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกันผู้ปกครองบางราย ที่รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ได้คอมเมนต์ถึงเรื่องนี้ พร้อมกับระบุว่า “ลูกของตนก็เรียนที่โรงเรียนนี้เช่นกัน” ซึ่งได้มีการติดตามความคืบหน้าในคดีนี้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังมีการระบุว่า โรงเรียนที่เกิดเหตุนี้ เป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดัง ที่ตั้งอยู่ในย่าน เขตภาษีเจริญ กทม.
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกลื่นล้ม แล้วนิสัยเปลี่ยน พาไปหาหมอช็อก พบกะโหลกแตก!
โพสต์ดังกล่าว มีคนติดตามเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่รอติดตามความคืบหน้าคดี พร้อมเรียกร้องให้ดำเนินการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขณะที่บางส่วนระบุว่า ขอให้รอฟังผลชันสูตรทางวิทยาศาสตร์ก่อนตัดสิน
ตัวอย่างความคิดเห็น เช่น “จริง ๆ อยากส่งเสียง และผลักดันมาก ๆ ให้ห้องอนุบาลทุกห้อง และบริเวณโรงเรียนมีกล้องวงจรปิด และจำเป็นมากต้องมีไลน์กลุ่ม คือทุกวันนี้ อันตรายรอบด้าน ค่าเทอมแพงมาก แต่อะไรก็ไม่มี โรงเรียนดี ๆให้เลือกก็มีนิดเดียว ไกลบ้านมาก ๆ อีก ครูเด็กเล็กบางคนก็ร้ายกาจ นิสัยแย่มาก ต่อหน้าพูดจาดี แต่…. เด็กเล็กเค้ากลัวน่ะ เค้าจะไม่กล้าพูด เราส่งลูกไปเรียนก็กังวลทุกวัน ครูขี้นินทา ใส่ร้ายป้ายสีผู้ปกครองอีก ถ้าเกิดผู้ปกครองติงครูเรื่องเด็ก ครูก็จะทำสันดานสตใส่เด็กใส่ผปคอีก เหนื่อยอกเหนื่อยใจ”
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น พ่อแม่ของเด็กได้เปิดเผยกับทนายรณณรงค์ว่า เด็กชายวัย 4 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 ย่านปากน้ำภาษีเจริญ หลังลูกล้มในโรงเรียน กลับถึงบ้านลูกบ่นเจ็บบริเวณแก้ม พ่อพาเข้านอน ก่อนพบหน้าซีด น้ำลายไหลออกจากปาก พาส่ง รพ.สุดท้ายเสียชีวิต ผลชันสูตรชี้ ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มสมอง
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา โดยช่วง 16.30 น. ตอนที่ปู่ไปรับ และครูประจำชั้นแจ้งปู่ว่า น้องไปเหลาดินสอ แล้วเดินสะดุดกระเป๋าล้มและร้องไห้ แต่ภายนอกไม่ได้มีบาดแผลอะไร ซึ่งครูประจำชั้นได้โทรไลน์ไปแจ้งคุณแม่ ตอน 17.00 น. ว่าน้องได้สะดุดกระเป๋าล้ม
บทความที่เกี่ยวข้อง : สุดสงสาร! แม่ขอยืมเครื่องช่วยหายใจ ใช้ยื้อชีวิตลูกสาวป่วยระยะสุดท้าย โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
จากนั้นเมื่อกลับมาบ้าน น้องได้บ่นว่าเจ็บบริเวณแก้มและมีอาการง่วงนอน ปู่จึงให้กินยา แล้วให้น้องไปนอนพักผ่อน จนเวลาประมาณ 18.30 น. คุณพ่อและคุณแม่เลิกงานกลับมาบ้าน ซึ่งน้องตื่นมาบ่นอีกว่า เจ็บบริเวณแก้ม จึงพาน้องกินนม เพื่อจะได้เข้านอน แต่น้องเกิดอาเจียนออกมา จึงเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดตัวให้น้องพาน้องขึ้นไปนอน
จนเวลา 21.00 น. พ่อเข้านอน และเปิดไฟดูน้องเห็นหน้าน้องหน้าซีด และมีน้ำลายไหลออกปาก จึงรีบพาน้องไปโรงพยาบาลเข้าห้องฉุกเฉิน หมอบอกว่าได้ช่วยเต็มที่แล้วนะ ให้ทำใจ น้องได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งผลชันสูตรบอกว่า ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ เลือดออกเหนือเยื่อหุ้มสมอง
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นยังคงต้องติดตามต่อไป และเพื่อไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวไหน การสูญเสียเป็นเรื่องที่ไม่ควรเจอ คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องสอนลูก ให้พูดหรือเล่าเหตุการณ์เพิ่มขึ้น จริงอยู่ที่ลูกอาจจะยังอายุน้อย ไม่สามารถสื่อสารได้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การที่พ่อแม่สอบถาม เรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนทุกวัน ก็จะเป็นการช่วยป้องกันอันตราย ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วยค่ะ !
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แชร์สนั่น! หนูน้อยล้มทั้งยืน ที่ไหนได้เป็นเพราะสิ่งนี้
ลูกหกล้ม หัวโน ดูแลอย่างไร ควรปล่อยให้ลูกลุกด้วยตัวเองดีไหม?
ลูกหัดเดินแล้วล้มบ่อย ลูกล้ม ปัญหาเล็ก ๆ ที่ส่งสัญญาณเตือนภัย ให้กับพ่อแม่
ที่มา : ch3plus, facebookรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!