เมื่อไม่นานมานี้ ทางเว็บไซต์ CNBC ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ วัคซีนโควิด-19 แบบสูดดม นวัตกรรมใหม่จากจีน และเชื่อว่า วัคซีนชนิดนี้ จะสามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดีกว่าแบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
จากรายงานการคิดค้นวิจัย วัคซีนโควิด-19 แบบสูดดม นวัตกรรมใหม่จากจีน เชื่อว่าการวัคซีนชนิดนี้ Adenovirus Vector หรือ วัคซีนชนิดสูดดม จะเป็นวัคซีนทางเลือก ที่สามารถป้องกันไวรัสโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และประหยัดกว่า การฉีดเข้ากล้ามเนื้ออีกด้วย
ทางบริษัทแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ของจีน ร่วมกับทีมวิจัยของสถาบันชีวเทคโนโลยีปักกิ่ง ได้คิดค้น วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 จากการฉีดเข้ากล้ามเนื้อโดยตรง มาเป็นวิธีการสูดดม โดยการฉีดพ่น เพราะเชื่อว่าการติดเชื้อของไวรัสชนิดนี้ เป็นการติดเชื้อผ่านช่องทางการหายใจ การให้ตัววัคซีนเข้าไปทำปฏิกิริยา กระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินหายใจ ก็จะเป็นการตอบโจทย์ที่ดีที่สุด
การทำงานของตัวยา
การทำงานของวัคซีนชนิดพ่นนี้ จะทำงานในลักษณะของการกระตุ้นเยื่อบุภายในจมูก และเนื่องจากการฉีดพ่น จะทำให้วัคซีนกลายเป็นอนุภาคเล็ก จนสามารถเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างแอนติบอดี้ หรือภูมิคุ้มกัน ผ่านเยื่อเมือกในระบบทางเดินหายใจได้มากยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังเป็นการประหยัดทรัพยากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นเข็มฉีดยา กระบอกบรรจุยา รวมถึงการเก็บรักษา และการเคลื่อนย้าย ก็ยังสามารถทำได้อย่างสะดวกสบาย และไม่จำเป็นจะต้องเก็บตัวยาไว้ในอุณหภูมิติดลบสูงอย่างที่เรามีการใช้อยู่ในปัจจุบัน นับว่านวัตกรรมนี้ ตอบโจทย์ของคำว่า ถูก-สะดวก-เร็ว-ง่าย-มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ทางศูนย์วิจัยยังเชื่อว่า ประสิทธิภาพของการฉีดพ่นวัคซีนนั้น จะสามารถสร้างภูมิ และปลอดภัยได้มากกว่าวัคซีนที่ฉีดผ่านทางกล้ามเนื้อโดยตรง แต่การวิจัยนี้ ก็ยังไม่ได้รับการรับรองจากองค์กรอนามัยโรคแต่อย่างใด เนื่องจากยังอยู่เพียงแค่ขั้นตอนของการทดลองเท่านั้น
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ สรุปผลการใช้ยาคุมกำเนิดกับการรับวัคซีนโควิด-19
ข้อเสียของการฉีดพ่น
ถึงแม้ว่าประโยชน์ของการให้วัคซีนชนิดฉีดพ่นดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพมาก แต่ในขณะเดียวกัน ก็อาจจะมีผลกระทบ หรืออาการข้างเคียงเกิดขึ้นได้เช่นกัน เพราะลักษณะของการสูดดมนั้น จะมีผลส่งตรงไปถึงระบบสมองได้โดยตรง ซึ่งอาจจะมีเชื้อโรคบางตัวสามารถเล็ดลอดเข้าไปพร้อมกันกับตัววัคซีน จนอาจจะทำให้เกิดผลที่ไม่พึงประสงค์ตามมาก็ได้ กรณีนี้ทำให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการวิจัยเพิ่มเติมก่อนที่จะนำมาออกใช้อย่างเป็นทางการ
จีนไม่ใช่ประเทศเดียวที่คิดค้น
ในขณะเดียวกัน ประเทศจีน ไม่ใช่ประเทศแรกที่ทำการวิจัยวัคซีนโควิด-19 ชนิดฉีดพ่น เพียงประเทศเดียวเท่านั้น ประเทศฟินแลนด์ ก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ได้ทำการทดลอง และพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่า การใช้ยีนส์บำบัด น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ คล้ายคลึงกับการรักษาโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ
การคิดค้นวิจัย ยังคงทำกันต่อเนื่อง และพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และปลอดภัย และเราก็หวังว่า ไวรัสโควิด-19 จะกลายเป็นไวรัส ที่ไม่ได้แตกต่างจากเชื้อไข้หวัดธรรมดา อย่างทุกวันนี้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด การป้องกันตัวเราเอง ไม่ให้ติดเชื้อ ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด พยายามเลี่ยงไปอยู่จุดเสี่ยง สวมใส่หน้ากากอนามัย อยู่ตลอดเวลา เมื่อจะต้องออกนอกสถานที่ ก็จะทำให้คุณปลอดภัยทั้งจากเชื้อโควิด และเชื้อโรคต่าง ๆ ค่ะ
ที่มา : youtube
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ฉีดให้เด็กดู! คุณทวด วัย 101 ปี ฉีดวัคซีนแอสตราฯ ลั่นไม่กลัว แต่กลัวโควิดมากกว่า
แพ้วัคซีน Astrazeneca ขั้นรุนแรง ตั้งแต่เข็มแรก
“ยาไมเกรน” กินก่อนฉีดวัคซีนได้ ไม่จำเป็นต้องหยุดกิน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!