จากการที่ทางกรุงเทพฯ ได้จัดให้มีการจองออนไลน์เพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และมีการกระจายศูนย์ฉีดวัคซีนไปทั่วประเทศ เพื่อให้ทั่วถึงประชาชนทุกกลุ่มโดยเริ่มฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ หรือมีความเสี่ยง ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้เกิดเคส แพ้วัคซีน Astrazeneca ขั้นรุนแรง ตั้งแต่เข็มแรก ที่ศูนย์ True Digital Park
โดยช่วงค่ำของวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้มีเฟสบุ๊คหนึ่งได้โพสต์รีวิวการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 โดยเธอได้ลงทะเบียนผ่านทางแอปเป๋าตัง โดยได้กำหนดการฉีดในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 เวลา 11:20 น. โดยประมาณ แต่หลังฉีดได้มีการนั่งรอดูอาการ ก็เกิดอาการต่าง ๆ จนทำให้แพทย์ได้ลงความเห็นว่า เป็นการ แพ้วัคซีน Astrazeneca ขั้นรุนแรง และให้งดรับวัคซีนของยี่ห้อนี้ในเข็มถัดไป
ใบเอกสารการเข้ารับการฉีดวัคซีน พร้อมข้อปฏิบัติ
ทางเฟสบุ๊คนั้น ได้ทำการรีวิวหลังจาก ฟื้นไข้ และได้เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามลำดับว่าเธอนั้น ได้ทำการลงทะเบียนเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนในกลุ่มบุคคลทั่วไป ผ่านแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง โดยเธอได้ฉีดในวันแรกของการเปิดโครงการ ที่ True Digital Park ในเวลา 11:20 น.
โดยคุณจี ได้กล่าวว่าเธอเป็นคนหนึ่งที่มีประวัติการแพ้ยามาก่อน โดยเธอได้มีเอกสารประวัติการแพ้ยาจากทางโรงพยาบาล มายื่นให้กับทางเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ฉีดวัคซีน ซึ่งแพทย์ และพยาบาลที่มาประจำอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้ เป็นบุคลากรจากทางโรงพยาบาลศิริราช
เมื่อมีการเช็คประวัติแล้ว แพทย์ได้ลงความเห็นสมควรที่จะได้รับการฉีดวัคซีนได้ตามปกติ จึงได้เข้ารับการฉีดวัคซีน แล้วมานั่งพัก ในจุดที่เตรียมไว้ โดยตำแหน่งที่เจ้าของเคสนั่งพักนั้น จะอยู่ใกล้กับกลุ่มแพทย์ฉุกเฉิน เนื่องจากถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : วัคซีน Sinovac จากจีน ถึงไทยแล้ว 5 แสนโดส
หากคุณเป็นผู้ที่มีประวัติการแพ้ยา หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง จะได้รับสติ๊กเกอร์ เพื่อการเฝ้าระวังเป็นพิเศษจากเจ้าหน้าที่
อาการที่เกิดขึ้นตามลำดับ
โดยเจ้าของเคส ได้อธิบายอาการที่เกิดขึ้นกับตัวเธอเองตามลำดับว่า
1. ผ่านไปช่วง 10 นาทีแรก ตนเองนั้นเริ่มมีอาการแน่นที่หน้าอก
2. 10 นาทีถัดไป เริ่มมีอาการ อาเจียน ตามมา
3. และเมื่อผ่านไปอีก 30 นาที ก็เกิดอาการ “ไม่มีแรง แขน-ขาสั่น อ่อนเพลีย ความดันเริ่มตก” ทางแพทย์ฉุกเฉินจึงรีบเข้าดูอาการ ซึ่งในขณะนั้นร่างกายยังสามารถต้านมือคุณหมอได้ แต่ไม่ 100% และมีอาการตัวสั่นอย่างต่อเนื่อง ทางแพทย์จึงตัดสินใจ
- ฉีดอะดินารีน เข้าไปบริเวณขา เป็นเข็มที่ 1
- ฉีดยาแก้แพ้ ให้เป็นเข็มที่ 2
- ฉีดยาแก้อาเจียน เป็นเข็มที่ 3
- และฉีดยาอีกตัว ซึ่งตนเองไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นตัวยาชนิดใด เป็นเข็มที่ 4
หลังจากนั้นจึงนำส่งขึ้นรถฉุกเฉิน Ambulance โดยจะมีนางพยาบาลคอยตบที่แขนอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้หลับ
4. ลิ้นเริ่มชา และไม่ได้สติ และเมื่อถึงห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาล ก็ทำการเจาะเลือดตรวจ นับเป็นเข็มที่ 5 เพื่อทำการตรวจโควิด มีการเช็คชีพจร เช็คคลื่นหัวใจ และเอ็กซเรย์ปอด สุดท้ายคือการให้น้ำเกลือ เป็นเข็มที่ 6
5. ประมาณ 5 ชั่วโมง หลังทำการฉีดยาต่าง ๆ เข้าไป ก็เริ่มมีผดขึ้น ซึ่งมีอาการคันแต่ไม่มากนัก และมีไข้ขึ้นสูงถึง 38 องศา ความดันยังคงอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ค่อนข้างไปทางต่ำ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : วิจัยชี้ ! หลังหายโควิด เกินกว่าครึ่งมีอาการผิดปกติระยะยาว
เข้าสู่สถานการณ์ฉุกเฉิน แม้ตอนนี้จะติดตลกได้ว่า ฉีด 1 เข็ม แถมอีก 6 เข็ม แต่ ณ เวลานั้น คงไม่มีใครยิ้มออกเป็นแน่
การวินิจฉัย และการเบิกจ่าย
ซึ่งจากอาการทั้งหมดทำให้ทางแพทย์ได้ลงความเห็นว่า เป็นการ “แพ้วัคซีนอย่างรุนแรง” เพราะผลตรวจทุกอย่างเป็นปกติดี ทั้งผลไขมัน ผลเลือด ซึ่ง ณ ขณะนี้ ทำได้เพียงรักษาตามอาการ โดยทางแพทย์ยังได้ระบุอีกว่า การฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 นั้น จำเป็นจะต้องฉีดเพียง Moderna หรือ Pfizer เท่านั้น
นอกจากนี้ทางเจ้าของเคส ยังได้ระบุถึงการเบิกจ่ายในเคสที่เกิดขึ้นว่า ทางโรงพยาบาลจะให้เบิกตามประกันที่คนไข้มีก่อน ส่วนที่เหลือก็จะสามารถเบิกกับทางรัฐบาลได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ ทางโรงพยาบาลจะเป็นผู้ดำเนินการให้ แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่า จะสามารถเบิกได้หมด 100% ทั้งนี้ เราอาจจะต้องคอยติดตามผ่านทางเพจเฟสบุ๊คของต้นเรื่องกันต่อไป
ข้อควรปฏิบัติเมื่อเข้ารับการฉีดวัคซีน
- ให้บอกเจ้าหน้าที่ตรงที่วัดความดันว่าเราแพ้อะไร กินยาอะไรอยู่ มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง เพื่อให้เขาจด และคุณจะได้รับสติกเกอร์เพื่อแปะว่าคุณเป็นกลุ่มเสี่ยงค่ะ ซึ่งทางที่ดีควรที่จะคัดประวัติเตรียมไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะผู้สูงวัย หรือผู้ที่เคยต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคประจำตัว
- ถ้าเป็นคนที่มีประวัติแพ้ยามาก่อน ให้ไปขอใบประวัติการแพ้ยาจากทางโรงพยาบาลที่มีข้อมูลของเราอยู่เพื่อเป็นข้อมูล (โดยการขอประวัตินี้ สามารถขอได้ฟรีค่ะ)
- ถ้าหากไม่มั่นใจถึงอาการที่เกิดขึ้น ควรรีบบอกเจ้าหน้าที่ หรือนางพยาบาลทันที อย่าเกรงใจ อย่าแพนิค (วิตกกังวล) โดยเฉพาะหากเป็นอาการที่ใกล้เคียงเหมือนช่วงที่ตนแพ้ยา ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยทันที
- ควรมีน้ำติดตัวไป และให้ถือน้ำจิบตลอดเวลา
- สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีความกังวลมาก แนะนำให้เลือกสถานที่ฉีดวัคซีนที่เป็นสถานพยาบาล หรือโรงพยาบาล เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็จะสามารถเข้าถึงเครื่องมือแพทย์ได้อย่างทันท่วงที
- อาการแพ้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน และโดยมากที่พบ มักจะเกิดกับกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว ดังนั้นไม่ควรที่จะวิตกกังวลมากจนเกิดไป
ทั้งนี้ทาง TheAsianparentThailand ต้องขอขอบคุณ ข้อมูลดี ๆ จากเฟสบุ๊คเจ้าของเคส ที่ได้เขียนเรื่องราว และแชร์ประสบการณ์ เพื่อให้เป็นวิทยาทานกับอีกหลายต่อหลายคน ที่กำลังจะเตรียมตัวเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 และขอให้คุณจี หายจากอาการป่วยในเร็ววันนะคะ
ที่มา : FB: Phakkhaphat
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง :
“ยาไมเกรน” กินก่อนฉีดวัคซีนได้ ไม่จำเป็นต้องหยุดกิน
ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ สรุปผลการใช้ยาคุมกำเนิดกับการรับวัคซีนโควิด-19
ลูกแพ้ยา รู้ได้อย่างไรว่าเด็ก ๆ แพ้ยา เช็กได้ด้วยวิธีไหนบ้าง
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!