X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาคุมกำเนิด ที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม

บทความ 5 นาที
10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาคุมกำเนิด ที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม

หลายคนขาดความเข้าใจ หรือเข้าใจผิดเกี่ยวการทานยาคุม จึงส่งผลกระทบกับร่างกายในระยะยาว หรือไม่สามารถคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นก่อนเริ่มทานยาคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเพื่อวัตถุประสงค์ของการป้องกันการตั้งครรภ์ ปรับฮอร์โมน ดูแลผิวพรรณ วันนี้หมอนำ 10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาคุมกำเนิด มาให้อ่านกัน เพื่อความปลอดภัย และสามารถทานยาคุมกำเนิดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ

 

ยาคุมกำเนิด คืออะไร

Birth Control Pill หรือ ยาคุมกำเนิด คือยาที่ช่วยยับยั้งการตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์ ในรูปแบบยาเม็ดที่รับประทานได้ง่าย หากรับประทานอย่างถูกวิธี จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ อย่างไรก็ตาม แม้ยาชนิดนี้จะช่วยไม่ให้ท้อง แต่ว่าไม่สามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อ ที่อาจเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ค่ะ

 

10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาคุมกำเนิด ที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม

 

10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาคุมกำเนิด ที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม

 

1. คุณสมบัติยาคุมกำเนิด ยาคุมกำเนิดทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง

ยาคุมกำเนิด คือ เม็ดฮอร์โมน ที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งมีความสำคัญในการป้องกันการท้อง เพราะฮอร์โมนสองชนิดนี้ จะไปยับยั้งกระบวนการตกไข่ในผู้หญิง เนื่องจากจะไปสร้างเมือกบริเวณปากมดลูก ทำให้อสุจิเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ ในรังไข่ได้ยากขึ้น และยังทำให้ผนังมดลูกมีความบาง เป็นสาเหตุทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวได้นั่นเอง

 

2. ยาคุมกำเนิดมีหลายชนิด

ยาคุมกำเนิด (Birth Control Pill) แบ่งตามชนิดของฮอร์โมน จะมีด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่ 

  • ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม ซึ่งประกอบไปด้วย ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งมีความสำคัญต่อการคุมกำเนิด เพราะเมื่อกินเข้าไปแล้ว จะทำให้เยื่อบุมดลูกบางลง จนตัวอ่อนไม่สามารถไปฝังตัวได้ 
  • ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนเดี่ยว จะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง

ยาคุมกำเนิด หากมีปริมาณของฮอร์โมนมาก ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้ดีตามไปด้วย แต่จะทำให้มีผลข้างเคียงสูงตามไปด้วยเช่นกัน ส่วนยาคุมกำเนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนน้อย ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดก็จะต่ำลง แต่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ต่ำกว่า

 

3. ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด มีแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด

ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดตามท้องตลาด จะมีจำนวน 21 เม็ด และ 28 เม็ด ดังนี้

  • ยาคุมกำเนิดชนิด 21 เม็ด ซึ่งชนิด 21 เม็ด เมื่อทานจนหมดแผงแล้ว จำเป็นจะต้องเว้นช่วงไปอีก 7 วัน เพื่อให้ประจำเดือนมา จึงจะสามารถเริ่มทานแผงใหม่ได้
  • ยาคุมกำเนิดชนิด 28 เม็ด ชนิด 28 เม็ด จะมียาจริงเพียงแค่ 21 เท่านั้น อีก 7 เม็ดที่เหลือจะเป็นเม็ดแป้ง (หรือเสมือนยาหลอก) ชนิดนี้จะเหมาะกับผู้ที่กลัวลืม หรือกลัวนับวันผิด ซึ่งเมื่อทานจนหมดแผง ก็จะสามารถเริ่มแผงใหม่ได้ทันที

ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็แล้วแต่ วัตถุประสงค์ของการคุมกำเนิด ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดทั้งสองแบบ จะมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากัน เพียงแค่กินยาสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวันนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : กินยาคุมกำเนิดมานานจะท้องได้หรือไม่ หยุดกินยาคุมจะท้องไหม กับความเชื่อผิด ๆ

 

10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาคุมกำเนิด ที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม

 

4. ควรทานยาอย่างสม่ำเสมอ กำหนดเวลาชัดเจน

การทานยาคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นจะต้องทานในเวลาเดิมทุก ๆ วัน อย่างสม่ำเสมอ ในกรณีที่คุณแม่หรือใครคนไหนลืมทานยาคุมกำเนิดมากกว่า 3 ชั่วโมงขึ้นไป ให้รีบรับประทานยาทันทีที่นึกขึ้นได้ และให้ทานเม็ดถัดไปในเวลาเดิมอย่างต่อเนื่องได้เลย

 

5. การทานยาคุมกำเนิดครั้งแรก ควรเริ่มกินช่วงมีประจำเดือน

สำหรับผู้ที่ต้องการทานยาคุมกำเนิดครั้งแรก หรือการหยุดใช้ไปนาน แล้วต้องการกลับมาเริ่มทานใหม่อีกครั้ง ควรจะเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดภายในวันที่ 1-5 ของช่วงที่มีประจำเดือน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า คุณไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่ เพราะหากมีการตั้งครรภ์โดยที่คุณไม่ทราบมาก่อน การทานยาคุมกำเนิดอาจจะเข้าไปทำอันตรายต่อตัวอ่อนทารก ทำให้เกิดภาวะพิการได้ค่อนข้างง่ายเลย

 

6. ผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิด

เนื่องจากร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น ในบางคนจะเกิดอาการข้างเคียงเมื่อรับประทานยาคุมกำเนิดเข้าไป โดยอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นนั้น จะมีทั้ง คลื่นไส้ อาเจียน คัดเต้านม มีอารมณ์แปรปรวน หรือมีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับแต่ละบุคคลแตกต่างกันออกไป หากเกิดอาการดังนั้น ให้รีบปรึกษาแพทย์โดยทันที

 

7. กำหนดวันทานยาคุมกำเนิดให้ชัดเจน และถูกต้อง

วิธีการทานยาคุมกำเนิดให้ถูกต้อง ควรจะระบุวันที่ทานบนแผงยาให้ชัดเจน ซึ่งแต่ละยี่ห้อ จะมีสติกเกอร์เพื่อระบุวันที่เริ่มทาน ตั้งแต่วันจันทร์ ถึง อาทิตย์ หากคุณเริ่มทานยาเม็ดแรกในวันอังคาร ก็ให้ติดสติกเกอร์ หรือแกะยาเม็ดแรกของวันอังคาร แล้วจึงรับประทานยาคุมกำเนิดต่อไปเรื่อย ๆ ตามลูกศร จนกว่าจะหมดแผง เพื่อกันการหลงลืมในวันนั้น ๆ นั่นเองค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : กินยาคุมฉุกเฉินบ่อย มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง กินบ่อยไปแล้วควรทำอย่างไร ?

 

ข้อควรรู้ก่อนกินยาคุม

 

8. การรับประทานยาคุมฉุกเฉิน

การรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้น เป็นไปตามชื่อที่กำหนดเอาไว้คือ เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ถูกข่มขืน หรือการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นยาชนิดนี้จะมีตัวยาที่แตกต่างจากยาคุมปกติทั่วไป ทำให้ไม่เหมาะสมกับการทานเป็นประจำ หรือทานทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะอาจส่งผลต่อร่างกายในระยะยาวได้

 

บทความจากพันธมิตร
LPR โพรไบโอติก เกรด A กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ลูกรักแข็งแรงพร้อมเรียนรู้
LPR โพรไบโอติก เกรด A กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ลูกรักแข็งแรงพร้อมเรียนรู้
วัคซีน IPD จำเป็นที่ต้องให้ลูกรับหรือเปล่า? มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 'โรคไอพีดี' และ 'วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี'
วัคซีน IPD จำเป็นที่ต้องให้ลูกรับหรือเปล่า? มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 'โรคไอพีดี' และ 'วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี'
สารพัด ปัญหาของลูกน้อย ที่คุณแม่กังวลใจ ลูกงอแง ไม่สบายท้อง ท้องอืด มีผื่นคัน แก้ด้วย Little Shield
สารพัด ปัญหาของลูกน้อย ที่คุณแม่กังวลใจ ลูกงอแง ไม่สบายท้อง ท้องอืด มีผื่นคัน แก้ด้วย Little Shield
แม่รู้ไหม? พัฒนาการสมอง ของลูกเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เสริมด้วย สารอาหารสมอง และการนอนอย่างมีคุณภาพ
แม่รู้ไหม? พัฒนาการสมอง ของลูกเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เสริมด้วย สารอาหารสมอง และการนอนอย่างมีคุณภาพ

9. วิธีการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน

สำหรับผู้ที่จำเป็นจะต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น ในแผงยาคุมฉุกเฉินจะมียาด้วยกัน 2 เม็ด ให้ทานเม็ดแรกทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่พึงประสงค์ หรือทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนเม็ดที่ 2 ให้รับประทานยาหลังจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง สำหรับยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินนั้น ตัวยาจะมีประสิทธิภาพต่ำกว่ายาคุมกำเนิดชนิดรายเดือน ดังนั้นแม้ว่าจะทานเข้าไปแล้ว โอกาสที่จะคุมกำเนิดไม่ได้ ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน

 

10. ตรวจดูวันหมดอายุก่อนใช้ยาทุกครั้ง

ก่อนรับประทานยาคุมกำเนิดแผงใหม่ คุณจำเป็นจะต้องตรวจสอบ เช็คดูวันหมดอายุของยาแผงนั้น ๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง : ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ปลอดภัยหรือไม่ และกินอย่างไรให้ปลอดภัย

 

 

ข้อแนะนำในการรับประทานยาคุมกำเนิด

  • ทานเป็นเวลาเดิมทุกวัน

ใครที่อยากทานยาคุมให้ได้ผล การทานเป็นประจำและอยู่ในช่วงระยะเวลาเดิมในทุก ๆ วัน สิ่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดี และช่วยป้องกันไม่ให้เราลืมได้

 

  • ห้ามทานหลังวันหมดอายุ

ข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณผู้หญิงหลายคนควรระวัง เพราะประสิทธิภาพของยาอาจจะลดลงไป 

 

  • งดการสูบบุหรี่

ในขณะที่เรารับประทานยาคุมอยู่ ไม่ควรที่จะสูบบุหรี่ เพราะสิ่งนี้จะส่งผลทำให้เราเป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำได้เลย เพราะในตัวยาคุมที่เราทานเข้าไปนั้นมีฮอร์โมนที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ค่ะ

 

  • กรณีท้องเสีย หรือถ่ายเหลว

ใครมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว หรืออาเจียนในช่วงทานยาคุมกำเนิด ยาที่เราทานเข้าไปนั้นก็อาจจะไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ให้เราได้ดีสักเท่าไหร่ เพราะร่างกายของเรามีการดูดซึมยาได้ค่อนข้างน้อย เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องใช้วิธีการคุมกำเนิดในรูปแบบต่าง ๆ ตามไปด้วย 

 

  • กรณีแม่ให้นมลูก

หากคุณแม่คนไหนที่อยู่ในช่วงของการให้นมลูก และต้องทานยาคุมกำเนิดในช่วงนี้ ยาคุมกำเนิดที่เราทานนั้นอาจจะต้องเป็นยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเพียงอย่างเดียวนะคะ

 

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 10 ข้อ ที่คุณควรรู้ หากคุณคิดจะรับประทานยาคุมกำเนิด เป็น 10 ข้อ ง่าย ๆ ที่ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ตัวยาคุมกำเนิดสามารถคุมการกำเนิดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และยังปลอดภัยกับสุขภาพของตัวคุณอีกด้วย

 

10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาคุมกำเนิด ที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม

เพจ นานายาเด็ก โดย ณัฎฐา โมลีเศรษฐ์ (เภสัชกรกวาง)

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ยาสามัญประจำบ้านที่คนท้องควรมี ยาที่ปลอดภัยทั้งแม่และลูก

ยาขับเลือดประจำเดือนไม่มา หรือมาไม่ปกติ ใช้ได้ผลจริงไหม

กินยาคุมฉุกเฉินแล้วท้อง เป็นไปได้หรือไม่ แล้วเราควรทำอย่างไร?

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

ณัฎฐา โมลีเศรษฐ์ (เภสัชกรกวาง

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • 10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาคุมกำเนิด ที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม
แชร์ :
  • รู้ทัน! สาเหตุ อาการ 5 โรคตา ที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง?

    รู้ทัน! สาเหตุ อาการ 5 โรคตา ที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง?

  • 8 วิธีดูแลดวงตา แบบง่าย ๆ ป้องกันไม่ให้ดวงตาเสื่อมก่อนวัย

    8 วิธีดูแลดวงตา แบบง่าย ๆ ป้องกันไม่ให้ดวงตาเสื่อมก่อนวัย

  • คนท้องเป็นวัณโรค เสี่ยงเชื้อส่งต่อทารกแรกเกิด มีความเสี่ยงรีบตรวจ

    คนท้องเป็นวัณโรค เสี่ยงเชื้อส่งต่อทารกแรกเกิด มีความเสี่ยงรีบตรวจ

  • รู้ทัน! สาเหตุ อาการ 5 โรคตา ที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง?

    รู้ทัน! สาเหตุ อาการ 5 โรคตา ที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง?

  • 8 วิธีดูแลดวงตา แบบง่าย ๆ ป้องกันไม่ให้ดวงตาเสื่อมก่อนวัย

    8 วิธีดูแลดวงตา แบบง่าย ๆ ป้องกันไม่ให้ดวงตาเสื่อมก่อนวัย

  • คนท้องเป็นวัณโรค เสี่ยงเชื้อส่งต่อทารกแรกเกิด มีความเสี่ยงรีบตรวจ

    คนท้องเป็นวัณโรค เสี่ยงเชื้อส่งต่อทารกแรกเกิด มีความเสี่ยงรีบตรวจ

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ