หลายคนขาดความเข้าใจ หรือเข้าใจผิดเกี่ยวการทานยาคุม จึงส่งผลกระทบกับร่างกายในระยะยาว หรือไม่สามารถคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นก่อนเริ่มทานยาคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเพื่อวัตถุประสงค์ของการป้องกันการตั้งครรภ์ ปรับฮอร์โมน ดูแลผิวพรรณ วันนี้หมอนำ 10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาคุมกำเนิด มาให้อ่านกัน เพื่อความปลอดภัย และสามารถทานยาคุมกำเนิดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ
ยาคุมกำเนิด คืออะไร
Birth Control Pill หรือ ยาคุมกำเนิด คือยาที่ช่วยยับยั้งการตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์ ในรูปแบบยาเม็ดที่รับประทานได้ง่าย หากรับประทานอย่างถูกวิธี จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ อย่างไรก็ตาม แม้ยาชนิดนี้จะช่วยไม่ให้ท้อง แต่ว่าไม่สามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อ ที่อาจเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ค่ะ
![10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาคุมกำเนิด ที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2021/12/17102022007.jpg?width=700&quality=10)
10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาคุมกำเนิด ที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม
1. คุณสมบัติยาคุมกำเนิด ยาคุมกำเนิดทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง
ยาคุมกำเนิด คือ เม็ดฮอร์โมน ที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งมีความสำคัญในการป้องกันการท้อง เพราะฮอร์โมนสองชนิดนี้ จะไปยับยั้งกระบวนการตกไข่ในผู้หญิง เนื่องจากจะไปสร้างเมือกบริเวณปากมดลูก ทำให้อสุจิเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ ในรังไข่ได้ยากขึ้น และยังทำให้ผนังมดลูกมีความบาง เป็นสาเหตุทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวได้นั่นเอง
2. ยาคุมกำเนิดมีหลายชนิด
ยาคุมกำเนิด (Birth Control Pill) แบ่งตามชนิดของฮอร์โมน จะมีด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่
- ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม ซึ่งประกอบไปด้วย ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งมีความสำคัญต่อการคุมกำเนิด เพราะเมื่อกินเข้าไปแล้ว จะทำให้เยื่อบุมดลูกบางลง จนตัวอ่อนไม่สามารถไปฝังตัวได้
- ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนเดี่ยว จะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง
ยาคุมกำเนิด หากมีปริมาณของฮอร์โมนมาก ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้ดีตามไปด้วย แต่จะทำให้มีผลข้างเคียงสูงตามไปด้วยเช่นกัน ส่วนยาคุมกำเนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนน้อย ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดก็จะต่ำลง แต่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ต่ำกว่า
3. ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด มีแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด
ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดตามท้องตลาด จะมีจำนวน 21 เม็ด และ 28 เม็ด ดังนี้
- ยาคุมกำเนิดชนิด 21 เม็ด ซึ่งชนิด 21 เม็ด เมื่อทานจนหมดแผงแล้ว จำเป็นจะต้องเว้นช่วงไปอีก 7 วัน เพื่อให้ประจำเดือนมา จึงจะสามารถเริ่มทานแผงใหม่ได้
- ยาคุมกำเนิดชนิด 28 เม็ด ชนิด 28 เม็ด จะมียาจริงเพียงแค่ 21 เท่านั้น อีก 7 เม็ดที่เหลือจะเป็นเม็ดแป้ง (หรือเสมือนยาหลอก) ชนิดนี้จะเหมาะกับผู้ที่กลัวลืม หรือกลัวนับวันผิด ซึ่งเมื่อทานจนหมดแผง ก็จะสามารถเริ่มแผงใหม่ได้ทันที
ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็แล้วแต่ วัตถุประสงค์ของการคุมกำเนิด ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดทั้งสองแบบ จะมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากัน เพียงแค่กินยาสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวันนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : กินยาคุมกำเนิดมานานจะท้องได้หรือไม่ หยุดกินยาคุมจะท้องไหม กับความเชื่อผิด ๆ
![10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาคุมกำเนิด ที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2021/12/17102022005.jpg?width=700&quality=10)
4. ควรทานยาอย่างสม่ำเสมอ กำหนดเวลาชัดเจน
การทานยาคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นจะต้องทานในเวลาเดิมทุก ๆ วัน อย่างสม่ำเสมอ ในกรณีที่คุณแม่หรือใครคนไหนลืมทานยาคุมกำเนิดมากกว่า 3 ชั่วโมงขึ้นไป ให้รีบรับประทานยาทันทีที่นึกขึ้นได้ และให้ทานเม็ดถัดไปในเวลาเดิมอย่างต่อเนื่องได้เลย
5. การทานยาคุมกำเนิดครั้งแรก ควรเริ่มกินช่วงมีประจำเดือน
สำหรับผู้ที่ต้องการทานยาคุมกำเนิดครั้งแรก หรือการหยุดใช้ไปนาน แล้วต้องการกลับมาเริ่มทานใหม่อีกครั้ง ควรจะเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดภายในวันที่ 1-5 ของช่วงที่มีประจำเดือน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า คุณไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่ เพราะหากมีการตั้งครรภ์โดยที่คุณไม่ทราบมาก่อน การทานยาคุมกำเนิดอาจจะเข้าไปทำอันตรายต่อตัวอ่อนทารก ทำให้เกิดภาวะพิการได้ค่อนข้างง่ายเลย
6. ผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิด
เนื่องจากร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น ในบางคนจะเกิดอาการข้างเคียงเมื่อรับประทานยาคุมกำเนิดเข้าไป โดยอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นนั้น จะมีทั้ง คลื่นไส้ อาเจียน คัดเต้านม มีอารมณ์แปรปรวน หรือมีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับแต่ละบุคคลแตกต่างกันออกไป หากเกิดอาการดังนั้น ให้รีบปรึกษาแพทย์โดยทันที
7. กำหนดวันทานยาคุมกำเนิดให้ชัดเจน และถูกต้อง
วิธีการทานยาคุมกำเนิดให้ถูกต้อง ควรจะระบุวันที่ทานบนแผงยาให้ชัดเจน ซึ่งแต่ละยี่ห้อ จะมีสติกเกอร์เพื่อระบุวันที่เริ่มทาน ตั้งแต่วันจันทร์ ถึง อาทิตย์ หากคุณเริ่มทานยาเม็ดแรกในวันอังคาร ก็ให้ติดสติกเกอร์ หรือแกะยาเม็ดแรกของวันอังคาร แล้วจึงรับประทานยาคุมกำเนิดต่อไปเรื่อย ๆ ตามลูกศร จนกว่าจะหมดแผง เพื่อกันการหลงลืมในวันนั้น ๆ นั่นเองค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : กินยาคุมฉุกเฉินบ่อย มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง กินบ่อยไปแล้วควรทำอย่างไร ?
![ข้อควรรู้ก่อนกินยาคุม](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2021/12/woman-hand-holding-contraceptive-panel-prevent-pregnancy.jpg?width=700&quality=10)
8. การรับประทานยาคุมฉุกเฉิน
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้น เป็นไปตามชื่อที่กำหนดเอาไว้คือ เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ถูกข่มขืน หรือการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นยาชนิดนี้จะมีตัวยาที่แตกต่างจากยาคุมปกติทั่วไป ทำให้ไม่เหมาะสมกับการทานเป็นประจำ หรือทานทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะอาจส่งผลต่อร่างกายในระยะยาวได้
9. วิธีการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน
สำหรับผู้ที่จำเป็นจะต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น ในแผงยาคุมฉุกเฉินจะมียาด้วยกัน 2 เม็ด ให้ทานเม็ดแรกทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่พึงประสงค์ หรือทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนเม็ดที่ 2 ให้รับประทานยาหลังจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง สำหรับยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินนั้น ตัวยาจะมีประสิทธิภาพต่ำกว่ายาคุมกำเนิดชนิดรายเดือน ดังนั้นแม้ว่าจะทานเข้าไปแล้ว โอกาสที่จะคุมกำเนิดไม่ได้ ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน
10. ตรวจดูวันหมดอายุก่อนใช้ยาทุกครั้ง
ก่อนรับประทานยาคุมกำเนิดแผงใหม่ คุณจำเป็นจะต้องตรวจสอบ เช็คดูวันหมดอายุของยาแผงนั้น ๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ปลอดภัยหรือไม่ และกินอย่างไรให้ปลอดภัย
ข้อแนะนำในการรับประทานยาคุมกำเนิด
ใครที่อยากทานยาคุมให้ได้ผล การทานเป็นประจำและอยู่ในช่วงระยะเวลาเดิมในทุก ๆ วัน สิ่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดี และช่วยป้องกันไม่ให้เราลืมได้
ข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณผู้หญิงหลายคนควรระวัง เพราะประสิทธิภาพของยาอาจจะลดลงไป
ในขณะที่เรารับประทานยาคุมอยู่ ไม่ควรที่จะสูบบุหรี่ เพราะสิ่งนี้จะส่งผลทำให้เราเป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำได้เลย เพราะในตัวยาคุมที่เราทานเข้าไปนั้นมีฮอร์โมนที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ค่ะ
-
กรณีท้องเสีย หรือถ่ายเหลว
ใครมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว หรืออาเจียนในช่วงทานยาคุมกำเนิด ยาที่เราทานเข้าไปนั้นก็อาจจะไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ให้เราได้ดีสักเท่าไหร่ เพราะร่างกายของเรามีการดูดซึมยาได้ค่อนข้างน้อย เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องใช้วิธีการคุมกำเนิดในรูปแบบต่าง ๆ ตามไปด้วย
หากคุณแม่คนไหนที่อยู่ในช่วงของการให้นมลูก และต้องทานยาคุมกำเนิดในช่วงนี้ ยาคุมกำเนิดที่เราทานนั้นอาจจะต้องเป็นยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเพียงอย่างเดียวนะคะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 10 ข้อ ที่คุณควรรู้ หากคุณคิดจะรับประทานยาคุมกำเนิด เป็น 10 ข้อ ง่าย ๆ ที่ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ตัวยาคุมกำเนิดสามารถคุมการกำเนิดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และยังปลอดภัยกับสุขภาพของตัวคุณอีกด้วย
เพจ นานายาเด็ก โดย ณัฎฐา โมลีเศรษฐ์ (เภสัชกรกวาง)
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ยาสามัญประจำบ้านที่คนท้องควรมี ยาที่ปลอดภัยทั้งแม่และลูก
ยาขับเลือดประจำเดือนไม่มา หรือมาไม่ปกติ ใช้ได้ผลจริงไหม
กินยาคุมฉุกเฉินแล้วท้อง เป็นไปได้หรือไม่ แล้วเราควรทำอย่างไร?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!