![เคล็ดลับรับมือวันแรกที่ลูกไปโรงเรียน](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2014/10/beby-1.jpg?width=700&quality=10)
ลูกไปโรงเรียนวันแรกคุณพ่อคุณแม่ควรทำอย่างไร เรามารู้พร้อม ๆ กันเลย คุณพ่อ คุณแม่ หลาย ๆ คน อาจคงเคยเห็นลูกของคนอื่น ๆ ที่ ไปโรงเรียนวันแรก แล้วเกิดอาการร้องไห้ งอแงบ้าง กันมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ แล้ว คุณพ่อ คุณแม่ ก็คงจะคิดว่าสักวันนึงหากลูกของเราต้อง ไปโรงเรียนจะร้องไห้แบบนี้ไหมนะ คุณพ่อ คุณแม่ ก็คงจะกังวลใจไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ก็ต้องส่งลูกไปโรงเรียนอยู่ดี และ ช่วงเวลานั้นที่สำคัญที่สุดก็คงจะ เป็นการไปโรงเรียนวันแรกของเด็ก ๆ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ทรมานใจทั้งของ ลูก และ ของคุณพ่อ คุณแม่ เลยทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตามที ในช่วงแรกของการไปโรงเรียนเด็ก ๆ นั้นอาจร้องไห้บ้างเป็นปกติ เนื่องด้วยจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก ๆ แต่เด็กจะสามารถที่จะปรับตัวได้ ใช้เวลา 1 -2 สัปดาห์ หรือบางคนอาจนานกว่านั้นหน่อย แต่ไม่นานเกิน 1 เดือนอย่างมาก เพราะฉะนั้น คุณพ่อ คุณแม่ ค่ะต้องใจแข็งสักหน่อยไม่ยอมแพ้รับลูกกลับบ้านก่อน เพราะลูกอาจจะไม่กล้าเขาสังคมเลยค่ะ
![วันแรกลูกไปโรงเรียน วันแรกลูกไปโรงเรียน](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2014/10/preschool-boy-class.jpg?width=700&quality=10)
เคล็ดลับรับมือวันแรกที่ลูกไปโรงเรียน
ลูกไปโรงเรียนวันแรกคุณพ่อคุณแม่ควรทำอย่างไร
1. ไม่ต้องเร่งรีบในตอนเช้า ไม่มีเด็ก คนไหนชอบให้เร่งหรอกค่ะ และ การเร่งรีบจะยิ่งทำให้ หงุดหงิดลนลาน และ อารมณ์เสียกันทั้ง คุณพ่อ คุณแม่ และ ลูก โดยเฉพาะถ้าเป็นวันแรกที่จะไปโรงเรียนแล้วด้วย ฉะนั้นให้ลูกตื่นเช้าสักนิด จะได้ไม่ต้องรีบกินอาหารเช้า หรือเสี่ยงที่จะไปโรงเรียนสาย
2. ไปถึงให้เช้าหน่อย เพื่อที่จะสร้างความคุ้นเคยให้กับลูก อาจจะพาไปพบครูประจำชั้นก่อน ให้เห็นหน้าค่าตากันก่อน พาไปลองเล่นสนามเด็กเล่น ดูมุมต่าง ๆ ในโรงเรียน ดูห้องเรียน ให้ลูกปรับตัวก่อนที่จะต้องเริ่มเข้าเรียนจริง ๆ
3. นำของรักของลูกติดกระเป๋าไปด้วย ถ้าโรงเรียนอนุญาต การนำของรัก ไม่ว่าจะเป็นของเล่นโปรด ผ้าห่ม หมอน หรือตุ๊กตาของรักของลูกไปโรงเรียนในวันแรก ก็จะช่วยให้ลูกอุ่นใจขึ้น เหมือนมีเพื่อนสนิทคอยอยู่ใกล้ ๆ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ใหม่ ๆ
4. พ่อแม่ต้องยิ้มเข้าไว้ แม้ในใจจะกังวลแค่ไหน แต่ต้องพรางความรู้สึกที่มีด้วยรอยยิ้มฉาบไว้บนใบหน้าค่ะ คุณต้องสร้างความมั่นใจ ให้กับลูกว่าเขาจะมีความสุขกับเพื่อนใหม่ และ คุณครู อย่าเผลอแสดงสีหน้ากังวลเด็ดขาด เพราะนั่นจะยิ่งสร้างความไม่มั่นใจให้กับลูก
5. อยู่เป็นกำลังใจก่อน โรงเรียนอนุบาลหลายแห่งอนุญาตให้ คุณพ่อ คุณแม่ อยู่กับเด็ก ๆ ได้ในวันแรกของการมาโรงเรียน ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณอาจจะลางานมาอยู่เป็นกำลังใจให้ลูก การที่เด็กรู้ว่ามีคุณอยู่ในระยะ สายตาจะทำให้เด็กวางใจที่จะก้าวออกมาสำรวจสิ่งใหม่ ๆ ที่โรงเรียนได้อย่างไม่ต้องกังวล เมื่อเห็นว่าลูกเริ่มคุ้นเคย และ รู้สึกปลอดภัยแล้ว ก็ค่อย ๆ ถอยออกมา ปล่อยให้การดูแลลูกเป็นหน้าที่ของคุณครู
6. บอกลาลูกสั้น ๆ และนุ่มนวล เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปล่อยลูกทิ้งไว้ที่โรงเรียนลำพัง หาก คุณพ่อ คุณแม่ จะแอบร้องไห้เพราะคิดถึงลูก ประวิงเวลาไว้สักนิด (การฉีกยิ้มไว้ก่อนช่วยกลั้นน้ำตาไว้ได้) ให้กอดนักเรียนตัวน้อยอย่างนุ่มนวล และ อบอุ่น บอกให้รู้ว่าคุณจะมารับเวลาใด จากนั้นก็ให้เดินจากไป อย่ารีรออ้อยอิ่ง (ลูกจะอยู่ได้อย่างเข้มแข็งถ้าคุณทำให้เขาดูก่อน) อย่าแอบย่องออกมาเงียบ ๆ เมื่อลูกเผลอเด็ดขาด เพราะนั้นจะทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย และ ไม่ไว้ใจคุณ
![เคล็ดลับรับมือวันแรกที่ลูกไปโรงเรียน](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2014/10/beby-1-1.jpg?width=700&quality=10)
theAsianparent Thailand เชื่อว่า การศึกษาที่ดีจะช่วย เสริมสร้างรากฐานที่ดีให้กับเด็ก เป็นการเริ่มต้นสร้าง สภาะแวดล้อมในการ เรียนรู้ได้อย่างสมวัย และ เป็นไปตามที่ คุณพ่อ คุณแม่ ต้องการการเลือกโรงเรียนให้ กับลูกคือหัวใจหนึ่งของการศึกษา เพราะการเลือกโรงเรียนตั้งแต่เนอสเซอรี่ การเลือกโรงเรียนอนุบาล เป็นด่านแรกที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้ กับลูกได้ เช่น มีหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หลักสูตรวิชาการที่พอดีกับการเรียนรู้ การใช้ Play Base Learning เพื่อเสริทสร้าง พหุปัญญษทั้ง 8 ด้าน หรือ EF ที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ทั้ง Hard Skill และ Soft Skill อย่างสมดุลย์ เพราะการเรียนรู้ที่ดี สามารถเรียนรู้ได้ต่อเนื่องไม่จำกัด และ ทำให้เด็กค้นพบตัวตน และ มีความสุขกับการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง
ที่มาอ้างอิง https://www.guidemama.com
ทำอย่างไรเมื่อลูกไม่อยากไปโรงเรียน
วิธีช่วยให้ลูกไม่งอแงเมื่อไปโรงเรียนอนุบาล
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!