X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

5 เหตุผลหลักที่คุณแม่ไทยนิยมผ่าคลอด : ผลสำรวจจาก theAsianparent insights

บทความ 5 นาที
5 เหตุผลหลักที่คุณแม่ไทยนิยมผ่าคลอด : ผลสำรวจจาก theAsianparent insights

เผย 5 เหตุผลหลักที่คุณแม่ไทยนิยมผ่าคลอด มากกว่าคลอดธรรมชาติ ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการผ่าคลอดในประเทศไทยที่สูงถึง 37.95% รองลงมาจากประเทศจีน

จากผลสำรวจของ theAsianparent insights ผ่านแอปพลิเคชัน theAsianparent บนกลุ่มคุณแม่กว่า 700 คน เผยให้เห็นถึง 5 เหตุผลหลักที่คุณแม่ไทยนิยมผ่าคลอด มากกว่าคลอดธรรมชาติ ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการผ่าคลอดในประเทศไทยที่สูงถึง 37.95% สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย รองลงมาจากประเทศจีน

5 เหตุผลหลักที่คุณแม่ไทยนิยมผ่าคลอด

  1. กำหนดวันคลอดได้ (33%)

คุณแม่ 33% นิยมผ่าคลอด เนื่องจากสามารถกำหนดวันคลอดได้ คือข้อดีประการแรกและสำคัญที่สุดสำหรับการผ่าคลอด การที่คุณแม่สามารถกำหนดวันคลอดล่วงหน้าได้ ช่วยให้วางแผนเตรียมตัว เตรียมสถานที่ เตรียมคนดูแล และเตรียมต้อนรับสมาชิกใหม่ได้อย่างสะดวก รอบคอบ 

  1. มีภาวะเสี่ยง (23%)

ในบางกรณี การตั้งครรภ์มีความเสี่ยงสูง แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าคลอดเพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และเด็ก โดยคุณแม่ 23% เลือกผ่าคลอดเนื่องจากมีภาวะเสี่ยง ทั้งนี้ตัวอย่างภาวะเสี่ยงที่พบได้บ่อย เช่น ทารกอยู่ในท่าขวาง สายสะดือพันคอ แม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

  1. แพทย์แนะนำ (21%)

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติกรรมและนรีเวชกรรม เปรียบเสมือนเข็มทิศสำคัญในการตัดสินใจคลอดบุตร คำแนะนำของแพทย์มักขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สุขภาพของแม่ สุขภาพของทารก ประวัติการคลอดบุตร และผลการตรวจต่างๆ แพทย์จะพิจารณาอย่างรอบคอบและแนะนำวิธีการคลอดที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยคุณแม่ 21% เลือกผ่าคลอดตามคำแนะนำของแพทย์

  1. ลดความเจ็บปวดขณะคลอด (16%)

การผ่าคลอดโดยทั่วไปจะใช้การบล็อกหลังหรือดมยาสลบ เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดทรมานระหว่างการคลอด เหมาะสำหรับคุณแม่ที่กังวลหรือกลัวความเจ็บปวด โดยคุณแม่ 16% เลือกผ่าคลอด เพราะกลัวความเจ็บปวดขณะคลอด แต่อย่างไรก็ตาม การผ่าคลอดก็มีแผลผ่าตัดที่ต้องดูแลหลังคลอดเช่นกัน

  1. ไม่ต้องรอคลอดนาน (7%)

Advertisement

7% ของคุณแม่เลือกผ่าคลอด เพราะไม่ต้องการรอคลอดนาน ในกรณีที่รอคลอดธรรมชาติตามกำหนดแล้ว แต่ไม่มีสัญญาณเตือนการคลอด แพทย์อาจพิจารณาผ่าคลอดเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพของแม่และเด็ก การผ่าคลอดช่วยให้คุณแม่คลอดบุตรได้โดยไม่ต้องรอ

ปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจผ่าคลอด

นอกจาก 5 เหตุผลหลักที่คุณแม่ไทยนิยมผ่าคลอด ข้างต้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจผ่าคลอด เช่น

  • ความเชื่อส่วนตัว: บางครอบครัวมีความเชื่อเรื่องฤกษ์ยาม ต้องการกำหนดฤกษ์คลอดให้ตรงกับวันมงคล
  • ประสบการณ์การคลอด: คุณแม่ที่เคยผ่าคลอดมาก่อน มีแนวโน้มที่จะผ่าคลอดทารกในครรภ์ถัดไป
  • ความกังวลเกี่ยวกับการคลอดธรรมชาติ: คุณแม่บางท่านอาจกังวลเกี่ยวกับกระบวนการคลอดธรรมชาติ กลัวความเจ็บปวด กลัวภาวะแทรกซ้อน

เหตุผลหลักที่คุณแม่ไทยนิยมผ่าคลอด

ข้อดีและข้อเสียของการผ่าคลอด

ปัจจุบัน การผ่าคลอดได้รับความนิยมมากขึ้น แต่การผ่าคลอดเหมาะกับทุกคนหรือไม่? อะไรคือข้อดีและข้อเสียของการผ่าคลอดเมื่อเทียบกับการคลอดธรรมชาติ? เราจะพาคุณแม่ไปเจาะลึกข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าคลอด เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกวิธีการคลอดที่เหมาะสมกับคุณและลูกน้อยมากที่สุด

ข้อดี:

  • กำหนดวันคลอดได้:
    ช่วยให้คุณแม่สามารถวางแผนล่วงหน้า เตรียมตัว เตรียมสถานที่ เตรียมต้อนรับสมาชิกใหม่ ลดความกังวล จัดการเวลาได้ง่าย แต่ทั้งนี้ คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อพิจารณาว่าวิธีการคลอดแบบไหนเหมาะสมกับตนเองมากที่สุด
  • ลดความเจ็บปวดขณะคลอด:
    การผ่าคลอดช่วยให้คุณแม่ลดความเจ็บปวดระหว่างคลอดบุตร โดยใช้ยาชาหรือยาสลบ เหมาะสำหรับคุณแม่ที่กังวลกลัวความเจ็บปวด กลัวภาวะแทรกซ้อน 
  • แพทย์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้:
    เหมาะสำหรับกรณีที่มีภาวะเสี่ยง ทารกอยู่ในท่าขวาง สายสะดือพันคอ แม่มีโรคประจำตัว หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ แพทย์สามารถควบคุมสถานการณ์ระหว่างคลอดบุตรได้อย่างใกล้ชิด และช่วยลดความเสี่ยงต่ออันตรายของแม่และทารก 

 ข้อเสีย:

  • ใช้เวลาในการผ่าตัดและพักฟื้นนานกว่าการคลอดธรรมชาติ:
    คุณแม่ต้องใช้เวลาในโรงพยาบาลนานกว่าคลอดธรรมชาติ เนื่องจาก ร่างกายต้องใช้เวลาฟื้นฟูจากการผ่าตัด อาจรู้สึกเจ็บแผล อ่อนเพลีย มากกว่าคลอดธรรมชาติ
  • มีแผลผ่าตัดที่ต้องดูแล:
    อาจรู้สึกเจ็บแผล อักเสบ ติดเชื้อ มีแผลเป็น ต้องใช้เวลานานกว่าแผลจะหายสนิท และต้องดูแลแผลผ่าตัดอย่างเคร่งครัด
  • มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด:
    การผ่าคลอดยังมีความเสี่ยงอื่นๆ เช่น มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด ติดเชื้อ เสียเลือดมาก เป็นต้น
  • ทารกอาจมีโอกาสระบบทางเดินหายใจติดเชื้อ:
    การผ่าคลอด ทารกอาจมีโอกาส ติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ปอดอักเสบ เนื่องจากไม่ได้สัมผัสกับแบคทีเรียดีจากช่องคลอด ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน

เหตุผลหลักที่คุณแม่ไทยนิยมผ่าคลอด

การตัดสินใจผ่าคลอด

การตัดสินใจผ่าคลอดเป็นการตัดสินใจสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้อง คำแนะนำที่เหมาะสม และเพื่อประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ของการผ่าคลอด

คำถามที่ควรสอบถามแพทย์

  • สาเหตุที่แนะนำให้ผ่าคลอด
  • ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าคลอด
  • วิธีการผ่าคลอด
  • ระยะเวลาในการพักฟื้นหลังคลอด
  • การดูแลแผลผ่าคลอด
  • ผลกระทบต่อการให้นมบุตร
  • การตั้งครรภ์ในอนาคต

การเตรียมตัวสำหรับการผ่าคลอด

เมื่อตัดสินใจผ่าคลอดแล้ว การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนผ่าคลอด จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกมั่นใจ ผ่อนคลาย และพร้อมรับมือกับการผ่าตัด

1. ปรึกษาแพทย์

สิ่งแรกที่ควรทำคือปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลครรภ์ แพทย์จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการผ่าคลอด ประเมินความเสี่ยง ตอบคำถาม และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการผ่าตัด

2. เรียนรู้เกี่ยวกับการผ่าคลอด

หาข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าคลอด อ่านบทความ ดูวิดีโอ หรือเข้าร่วมอบรมคุณแม่ตั้งครรภ์ การเรียนรู้เกี่ยวกับขั้นตอน วิธีการ และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายและพร้อมรับมือกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น

3. เตรียมร่างกายให้พร้อม

พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเบาๆ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติด แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่ทานประจำ แพทย์อาจแนะนำให้หยุดยาบางชนิดก่อนการผ่าตัด เพื่อร่างกายจะได้พร้อมรับมือกับการผ่าตัด

4. เตรียมสิ่งของที่จำเป็น

โรงพยาบาลจะมีรายการสิ่งของที่ต้องเตรียมไปก่อนผ่าคลอด เตรียมเอกสารสำคัญ บัตรประชาชน บัตรประกันสุขภาพ สมุดฝากครรภ์ เสื้อผ้าที่ใส่สบาย ผ้าอ้อมสำหรับเด็ก ของใช้ส่วนตัว และอุปกรณ์ให้นมบุตร

การดูแลหลังผ่าคลอด

5. เตรียมใจ

การผ่าคลอดเป็นประสบการณ์ที่อาจสร้างความกังวล คุณแม่ควรพูดคุยกับคนรอบข้าง ครอบครัว เพื่อน หรือกลุ่มคุณแม่ การพูดคุยและแบ่งปันความรู้สึกจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย การผ่าคลอดอาจไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เสมอไป คุณแม่ควรปรับความคาดหวัง เตรียมใจให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน

6. เตรียมความพร้อมสำหรับการดูแลทารกหลังคลอด

หาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลทารก เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น ฝึกให้นมบุตร หาคนช่วยดูแลทารกในช่วงที่คุณแม่พักฟื้น จัดบ้านให้สะอาด เตรียมอาหารว่าง เตรียมเสื้อผ้าสำหรับทารก หาคนช่วยทำธุระในบ้าน

7. ขอความช่วยเหลือ:

หากรู้สึกกังวล เครียด หรือมีคำถาม อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากแพทย์ พยาบาล หรือคนรอบข้าง

การดูแลหลังคลอด

หลังผ่าคลอด คุณแม่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดูแลแผลผ่าคลอดให้สะอาด สังเกตสัญญาณผิดปกติ เช่น เลือดออกมาก มีไข้ และแจ้งแพทย์หากพบอาการผิดปกติ

การผ่าคลอดเป็นทางเลือกหนึ่งในการคลอดบุตร คุณแม่ควรตัดสินใจเลือกวิธีการคลอดที่เหมาะสมกับตนเอง คำนึงถึงสุขภาพของทั้งแม่และเด็ก ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อการคลอดบุตรที่ปลอดภัยและมีความสุข

บทความจากพันธมิตร
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
โฉมใหม่ S-26 GOLD PRO-C3 สูตรที่พัฒนากว่าสูตรเดิมไปอีกขั้น* ผสมแอลฟา สฟิงโกไมอีลิน และบี แล็กทิส สิ่งดีๆ ที่คุณแม่เลือก
โฉมใหม่ S-26 GOLD PRO-C3 สูตรที่พัฒนากว่าสูตรเดิมไปอีกขั้น* ผสมแอลฟา สฟิงโกไมอีลิน และบี แล็กทิส สิ่งดีๆ ที่คุณแม่เลือก
เคล็ดลับเพิ่มน้ำนมสำหรับคุณแม่มือใหม่ ด้วย Jessie M Next และ Jessie Mind Next
เคล็ดลับเพิ่มน้ำนมสำหรับคุณแม่มือใหม่ ด้วย Jessie M Next และ Jessie Mind Next
แม่รู้ไหม น้ำนมแม่ 6 เดือนแรกสำคัญ สร้างภูมิคุ้มกันและสมองที่ดีให้ลูกน้อย
แม่รู้ไหม น้ำนมแม่ 6 เดือนแรกสำคัญ สร้างภูมิคุ้มกันและสมองที่ดีให้ลูกน้อย

 

เรายังมี Insights ที่น่าสนใจอีกมากมาย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่ [email protected]

 

ที่มา : theAsianparent insights , โรงพยาบาลเปาโล

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • หลังคลอด
  • /
  • 5 เหตุผลหลักที่คุณแม่ไทยนิยมผ่าคลอด : ผลสำรวจจาก theAsianparent insights
แชร์ :
  • ACOG เผย 13 คำแนะนำ การดูแลคุณแม่หลังผ่าคลอดแบบใหม่ ให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

    ACOG เผย 13 คำแนะนำ การดูแลคุณแม่หลังผ่าคลอดแบบใหม่ ให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

  • 5 เทคนิค ลดรอบปั๊มยังไงไม่ให้น้ำนมหด ช่วยแม่เหนื่อยน้อยลง น้ำนมไม่ลด

    5 เทคนิค ลดรอบปั๊มยังไงไม่ให้น้ำนมหด ช่วยแม่เหนื่อยน้อยลง น้ำนมไม่ลด

  • กระตุ้นปากมดลูก กี่วันคลอด วิธีไหนทำให้ปากมดลูกเปิดไวๆ

    กระตุ้นปากมดลูก กี่วันคลอด วิธีไหนทำให้ปากมดลูกเปิดไวๆ

  • ACOG เผย 13 คำแนะนำ การดูแลคุณแม่หลังผ่าคลอดแบบใหม่ ให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

    ACOG เผย 13 คำแนะนำ การดูแลคุณแม่หลังผ่าคลอดแบบใหม่ ให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

  • 5 เทคนิค ลดรอบปั๊มยังไงไม่ให้น้ำนมหด ช่วยแม่เหนื่อยน้อยลง น้ำนมไม่ลด

    5 เทคนิค ลดรอบปั๊มยังไงไม่ให้น้ำนมหด ช่วยแม่เหนื่อยน้อยลง น้ำนมไม่ลด

  • กระตุ้นปากมดลูก กี่วันคลอด วิธีไหนทำให้ปากมดลูกเปิดไวๆ

    กระตุ้นปากมดลูก กี่วันคลอด วิธีไหนทำให้ปากมดลูกเปิดไวๆ

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว