หลังจากการผ่าคลอด คุณแม่ต้องรู้วิธีการดูแลแผลผ่าคลอด เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อหรืออักเสบ มาดูวิธีการดูแลแผลผ่าคลอด ให้หายไวไม่เจ็บแผลกันเลยค่ะ
แผลการผ่าคลอด
คือการลงแผลในแนวดิ่งที่ผนังหน้าท้องช่วงล่างตรงแนวกลางลำตัว ตั้งแต่ระดับต่ำกว่าสะดือยาวลงมาจนถึงระดับเหนือกระดูกหัวหน่าวเล็กน้อย ความยาว แผลผ่าคลอด แนวตั้ง ประมาณ 10 เซนติเมตร การลงแผลแนวนี้จะผ่านเนื้อเยื่อหลายชั้น จนสามารถเข้าช่องท้องได้ง่าย
เป็นที่นิยมกว่า สวยงามกว่า กระทำโดยการลงแผลแนวขวางที่ผนังหน้าท้องด้านล่าง ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ตรงตำแหน่งรอยพับของหน้าท้องหรือระดับประมาณ 2 เซนติเมตรสูงจากขอบบนของกระดูกหัวหน่าว ขั้นตอนการผ่าจะซับซ้อนกว่าเล็กน้อย
แผลผ่าคลอดที่เย็บไว้จะหายดีเมื่อไร?
โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ แผลที่เย็บไว้จึงจะสมานกัน แต่ก็อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน หรือ 2 – 12 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับลักษณะของการเย็บ สิ่งสำคัญคือ ควรดูแลความสะอาดของแผลเป็นอย่างดี ไม่ให้ติดเชื้อ เพื่อให้แผลสมานเข้าด้วยกันโดยไม่มีปัญหา
ปัญหาของแผลผ่าตัด ที่พบบ่อย
- แผลเป็นเกิดนูนแดงนั้น กลายเป็น แผลที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หรือที่เรียกว่า คีลอยด์
- หลังจาก 1 ปีหรือ 1 ปีครี่งไปแล้ว แผลนั้นยังแดงอยู่ แดงอยู่นาน และรอยแดงไม่ลดลง
- มีอาการเจ็บหรือคัน
- เป็นแผลที่เกิดตรงบริเวณข้อต่อ ทำให้ขยับข้อต่อได้ไม่เต็มที่ หรือนิ้วงอ หรือมีการผิดรูปเกิดขึ้น
- แผลที่ไม่มีปัญหา เพียงแต่ดูไม่ดี แต่เป็นสิ่งต้องการและความคาดหวังในการรักษาของคนไข้
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีดูแลแผลผ่าคลอดอย่างถูกวิธี ให้แผลเป็นเนียนเร็ว
วิธีการดูแลแผลผ่าคลอด
หลังจากการผ่าคลอด คุณหมอจะปิดแผลด้วยสก๊อตเทปกันน้ำ เมื่อครบ 7 วัน คุณหมอถึงจะเปิดแผลผ่าตัด ช่วงนี้ต้องดูแลทำความสะอาดแผลให้ดี เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและเชื้อโรคเข้าแผล
การดูแลแผลผ่าคลอด
ช่วงสามเดือนแรกต้องไม่ยกของหนัก ขยับตัวได้เท่าที่ไม่รู้สึกเจ็บ ถ้าเจ็บ หรือตึง แสดงว่าแผลยืดเหยียดมากเกินไป และจะทำให้ร่างกายปรับสภาพตัวเอง เนื่องจากกลัวว่าแผลจะหลุด จึงสร้างเส้นใยคอลลาเจนหนาๆ เพื่อทำให้แผลแน่นขึ้น เมื่อเส้นใยคอลลาเจนหนาเกินไปจึงกลายเป็นแผลนูนขึ้นมาเป็นแผลคีลอยด์ในที่สุด ระวังไม่ให้เกิดการเสียดสีที่แผล ไม่ยกของหนัก นอกจากการยกของหนักมีผลต่อมดลูก ทำให้มดลูกเลื่อนต่ำได้ ไม่ขับรถเอง
การเกิดรอยแผลเป็นที่เป็นรอยดำ หรือ นูนแข็ง การใช้ครีมดูแลแผลเป็นที่มีวิตามินอี หรือ ใช้แผ่นซิลิโคนสำหรับดูแลแผลจะช่วยให้แผลเป็นเรียบเนียนนุ่ม ทำให้หน้าท้องเรียบเนียน
หลังการผ่าคลอด 1 วัน คุณแม่ต้องลุกขยับเดิน แม้เจ็บมากก็ต้องฝืน เพราะหากคุณแม่ไม่ยอมเคลื่อนไหว จะทำให้เกิดพังผืด ทำให้เสี่ยงท่อนำไข่อุดตัน การผ่าตัดครั้งต่อไปทำได้ยาก หรือท้องผูกเรื้อรังได้
การปรับหัวนอนสูง จะช่วยให้แผลผ่าที่หน้าท้องไม่ตึงจนเกินไป ช่วยลดอาการเจ็บแผล
เนื่องจากการผ่าคลอด เป็นวิธีที่หายช้ากว่าแบบธรรมชาติ เสี่ยงภาวะเลือดอุดตันที่ขา จึงควรเดินบ่อย ๆ
เป็นการกระตุ้นให้แผลนุ่มขึ้น แต่ควรจะใช้มอยเจอร์ไรเซอร์และโลชั่นมาช่วยนวดและทาด้วยเพื่อให้แผลเป็นชุ่มชื้น จะได้นุ่มได้ไวขึ้น แบนราบได้เร็วขึ้น และทำให้อาการปวดจากแผลเป็นเหล่านี้ลดลงไปได้ด้วย อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังในการนวดก็คือ นวดในแผลเปิด แผลอาจปริขึ้นมา หรือบวมขึ้นมา หรือแพ้โลชั่นก็ต้องหยุด
บทความที่เกี่ยวข้อง : แผลเป็นหลังผ่าคลอด สวยไม่สวยดูแลยังไง?
ถ้าหากคุณเป็นคุณแม่สายโซเชียล ชอบเล่น Facebook หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต
มาร่วม join กรุ๊ป เพื่อบอกเล่าประสบการณ์ต่างๆ ใน คลับแม่ผ่าคลอด (C Section Club) กันได้นะคะ

เคลียร์ทุกข้อสงสัย เจาะลึกทุกประเด็นของคุณแม่ผ่าคลอด
ค้นหาคำตอบกันได้ที่ “คลับแม่ผ่าคลอด” คลิก!! http://bit.ly/32T4NsU
ข้อควรระวังหลังจากการผ่าคลอด
- ซับแผลให้แห้ง เมื่อแผลโดนน้ำต้องซับให้แห้ง หมั่นทายาตามที่หมอสั่ง จนกว่าแผลจะปิดสนิท
- ระวังการขยับ ลุก นั่ง และ เดิน และงดการขึ้นลงบันได การยกของหนัก
- ไม่ขับรถเอง
- มีไข้ หากผ่าคลอดแล้วคุณแม่ครั่นเนื้อครั่นตัว ควรไปพบแพทย์ทันที
- เจ็บแผลผ่าตัดมากขึ้น แผลมีรอยแดง บวม แถมมีเลือดซึมจากแผลมากขึ้น ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
- น้ำคาวปลาเหม็น หรือมีปริมาณเพิ่มขึ้น สีแดงเข้มกว่าเดิมหลังจากที่จางไปแล้ว หากพบว่าเป็นเช่นนี้ละก็ รีบไปพบแพทย์กันเถอะค่ะ เพราะอาจเป็นสัญญาณบอกว่าคุณแม่กำลังตกเลือดอยู่ก็เป็นได้
- ขาบวม ขาของคุณแม่บวมมากขึ้น อาจจะเป็นการบ่งบอกว่าแผลผ่าคลอดของคุณแม่ อาจจะได้รับการติดเชื้อ จนส่งผลให้เท้าบวม และอักเสบได้
- ปัสสาวะติดขัด อาการที่มักพบได้คือ ปัสสาวะแสบขัด ไข้หนาวสั่น ปวดบริเวณบั้นเอว หากมีอาการดังกล่าวคุณแม่ควรรีบบอกหมอแต่เนิ่น ๆ นะคะ เพราะหากปล่อยไว้นาน ๆ อาจเกิดอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงตามมาได้
ข้อห้ามหลังจากผ่าคลอด
การดูแลแผลผ่าคลอด
- ห้ามใช้ยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์
ยาบางตัวมีผลทำให้น้ำนมหยุดไหล เช่น สเตียรอยด์ ยาลดน้ำหนัก ยาลดความอ้วน ยารักษาสิว ยาปฏิชีวะอื่นๆ รวมถึงยากลุ่มสารเสพติด เช่น ยานอนหลับ ยาแก้ปวด ชนิดต่างๆ ก่อนใช้ยาคุณแม่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน
- ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ
เพราะจะทำให้คุณแม่ตกเลือดหลังคลอดได้
เพราะการยกของหนักจะส่งผลต่อกล้ามเนื้อมดลูก และแผลผ่าคลอดได้
- ห้ามกินของใช้ไม่มีประโยชน์เป็นประจำ
เช่น ของหมักดอง ฟาสต์ฟู้ด หรืออาหารที่มีรสหวานจัดๆ เพราะอาหารเหล่านี้จะมีน้ำตาลในปริมาณสูง ไม่มีสารอาหารที่ให้ประโยชน์กับทารกที่กินนมแม่ ซึ่งอาจทำให้ลูกขาดสารอาหารและเป็นโรคอ้วนในเด็กได้
ที่มา : (1),(2)
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!