สมาธิ คือรากฐานสำคัญในการเรียนรู้และเติบโตของเด็กๆ เพราะการมีสมาธิที่ดี ช่วยให้เด็กๆ จดจ่อกับสิ่งต่างๆ ได้นานขึ้น เรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ บทความนี้มีคำแนะนำและเคล็ดลับ เลี้ยงลูกให้มีสมาธิดี ที่นำไปใช้ได้จริงสำหรับพ่อแม่ ในการช่วยเสริมสร้างสมาธิให้กับลูกน้อย เพื่อปูทางสู่ความสำเร็จในอนาคตของลูกน้อยมาให้อ่านกันค่ะ
ช่วงเวลาที่สมาธิของเด็กพัฒนา
สมาธิของเด็กๆ เริ่มพัฒนาตั้งแต่แรกเกิด และจะค่อยๆ พัฒนาขึ้นตามวัย โดยช่วงอายุสำคัญๆ มีดังนี้
- 0-1 ปี: ช่วงวัยนี้ สมาธิของทารกจะขึ้นอยู่กับสิ่งเร้าภายนอก เช่น เสียงดัง แสง สี ทารกจะเริ่มหันมองสิ่งที่เคลื่อนไหว หรือส่งเสียง และสามารถจดจ่อกับสิ่งที่สนใจได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
- 1-3 ปี: เด็กวัยนี้เริ่มสนใจสิ่งรอบตัวมากขึ้น สามารถจดจ่อกับกิจกรรมที่ชอบได้นานขึ้น เช่น การเล่นของเล่น การดูรูปภาพ แต่ยังคงวอกแวกง่าย เด็กสามารถเลือกที่จะสนใจสิ่งต่างๆ ได้เอง แต่ยังคงมีช่วงสมาธิสั้น
- 3-5 ปี: ช่วงวัยก่อนเข้าเรียน สมาธิของเด็กจะพัฒนาขึ้นอย่างมาก เด็กสามารถทำกิจกรรมที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การต่อบล็อก การวาดรูป การฟังนิทาน และสามารถควบคุมสมาธิและเพ่งความสนใจไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานขึ้น
สัญญาณเตือน ปัญหาสมาธิในเด็กเล็ก
แม้ว่าพัฒนาการของเด็กแต่ละคนจะแตกต่างกัน แต่มีสัญญาณบางอย่างที่อาจบ่งบอกถึงปัญหาสมาธิในเด็กเล็ก ซึ่งพ่อแม่ควรสังเกต
- วอกแวกง่ายมาก: ไม่สามารถจดจ่อกับกิจกรรมใดๆ ได้นาน แม้แต่กิจกรรมที่ชอบ
- ไม่มีสมาธิจดจ่อ: เปลี่ยนกิจกรรมบ่อยๆ ทำอะไรไม่เสร็จสักอย่าง
- ซุกซน อยู่ไม่นิ่ง: วิ่งไปวิ่งมา ปีนป่าย ไม่สามารถนั่งนิ่งๆ ได้
- ไม่สามารถทำตามคำสั่ง: ฟังคำสั่งไม่จบ หรือทำตามคำสั่งไม่ได้
- ขาดการควบคุมตัวเอง: แสดงอารมณ์ฉุนเฉียว โกรธง่าย หงุดหงิดง่าย

ความสำคัญของการเลี้ยงลูกให้มีสมาธิดี
การที่พ่อแม่ เลี้ยงลูกให้มีสมาธิดี จะทำให้ลูกได้เปรียบกว่า เด็กทั่วไปอย่างไร
- เด็กสมาธิดี…เรียนรู้ได้ดีกว่า ความสามารถในการจดจ่อช่วยให้เด็กเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สามารถทำความเข้าใจบทเรียนและจดจำข้อมูลได้ง่ายขึ้น ส่งผลการเรียนที่ดีขึ้นในระยะยาว
- เด็กสมาธิดี…มีทักษะการแก้ปัญหาที่ดีกว่า เด็กได้ฝึกฝนการคิดอย่างเป็นระบบและมีเหตุผล สามารถวิเคราะห์ปัญหาและหาทางออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา
- เด็กสมาธิดี…ควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่า เด็กสมาธิดีจะมีสติรู้ตัวและควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดีขึ้น จัดการกับความเครียดและความผิดหวังได้อย่างเหมาะสม ลดโอกาสในการเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวหรือหุนหันพลันแล่น
- เด็กสมาธิดี…มีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น เด็กสมาธิดีจะตั้งใจฟังและเข้าใจผู้อื่น สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้ง สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อน ครอบครัว และคนรอบข้าง
- เด็กสมาธิดี…มีความมั่นใจในตนเอง ความสำเร็จจากการเรียนรู้และการแก้ปัญหา เสริมสร้างความมั่นใจในตนเองให้กับเด็ก ทำให้เด็กกล้าแสดงออกและมีความคิดริเริ่ม

5 เคล็ดลับ เลี้ยงลูกให้มีสมาธิดี ฉบับคุณแม่เข้าใจง่าย
การปลูกฝังสมาธิที่ดีให้กับลูกน้อย สามารถทำได้ผ่าน 5 เคล็ดลับง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน ดังนี้
-
จัดบ้านให้เป็นสวรรค์ (แห่งสมาธิ)
บ้านที่สงบ เรียบร้อย เหมือนสวรรค์สำหรับเด็กๆ! ปิดทีวี วางมือถือ ลดเสียงเพลงดังๆ จัดมุมของเล่นให้เป็นระเบียบ รับรองลูกน้อยมีสมาธิกับการเล่นยาวๆ แน่นอนค่ะ
-
ชวนลูกเล่นสนุก เสริมสมาธิ
- อ่านนิทาน: ก่อนนอน อ่านนิทานให้ฟังเพลินๆ นอกจากจะสนุก ยังช่วยฝึกสมาธิให้ลูกน้อยด้วยนะ
- ปล่อยของ: ต่อบล็อก วาดรูป ระบายสี ปั้นดินน้ำมัน กิจกรรมเหล่านี้ ช่วยเสริมสร้างจินตนาการและสมาธิสุดๆ ไปเลย
- เล่นเกม: เกมจับคู่ เกมปริศนา ท้าทายสมอง ช่วยฝึกสมาธิและการแก้ปัญหาให้ลูกน้อยด้วย
- เปิดเพลง: เพลงเพราะๆ คลาสสิคเบาๆ หรือเพลงเด็ก ช่วยให้ลูกน้อยผ่อนคลาย มีสมาธิ แถมยังพัฒนาสมองอีกด้วยนะ
- ออกกำลังกาย: พาลูกวิ่งเล่น ปั่นจักรยาน เล่นกีฬา ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ปลดปล่อยพลังงาน แถมยังส่งผลดีต่อสมาธิด้วยนะ
- นั่งสมาธิ: ฝึกให้ลูกน้อยนั่งสมาธิ ฝึกหายใจเข้า-ออก ช่วยให้จิตใจสงบ มีสติ
-
ฝึกวินัย (แบบใจดี)
- ตารางเวลา: จัดตารางเวลาให้ลูกน้อย เช่น เวลาตื่น เวลานอน เวลาเล่น เวลาเรียน ช่วยให้ลูกมีวินัยและรู้จักการจัดสรรเวลา
- ใจเย็นๆ รอได้: สอนให้ลูกรู้จักรอคอย อดทน ไม่ใจร้อน เป็นทักษะสำคัญสำหรับการมีสมาธิที่ดี
- ชมลูกบ่อยๆ: เวลาลูกตั้งใจทำอะไร หรือทำตัวดี อย่าลืมชมลูก ให้กำลังใจ ลูกจะมีความมั่นใจและอยากทำสิ่งดีๆ ต่อไป
-
งด! สื่ออิเล็กทรอนิกส์
จำกัดเวลาการดูทีวี เล่นมือถือ แท็บเล็ต เพราะสื่อเหล่านี้ ทำให้ลูกเสียสมาธิ เลือกใช้สื่อที่เหมาะสมกับวัย และให้ลูกได้ทำกิจกรรมอื่นๆ บ้าง
-
ใช้เวลากับลูก (เยอะๆ)
ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการใช้เวลาร่วมกัน กอดลูก เล่นกับลูก อ่านนิทาน พูดคุย ทำกิจกรรมด้วยกัน ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และทำให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย ซึ่งส่งผลดีต่อสมาธิของลูกด้วยนะ
การสร้างสมาธิให้ลูกน้อย ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มด้วยความเข้าใจพัฒนาการของลูกน้อย แล้วค่อยๆ ปรับวิธีการให้เหมาะสม และที่สำคัญที่สุด คือ ความรัก ความอบอุ่น และการสนับสนุนจากคุณแม่ สิ่งเหล่านี้จะค่อยๆ ปลูกฝัง และปูทางให้ลูกเติบโตอย่างมีคุณภาพ สู่ความสำเร็จในอนาคตค่ะ
ที่มา : เลี้ยงลูกให้คิดเป็น , มูลนิธิเด็กโสสะ , Neuro Balance Asia , Starfish Labz
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
วิธีสอนลูก เรื่องการคบเพื่อน ป้องกันลูกเดินทางผิด เพราะกลัวเพื่อนไม่คบ
ควรชมลูกว่าฉลาด หรือไม่ ? 7 วิธีชมลูกแบบใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ “เก่ง” หรือ “ฉลาด”
เตรียมความพร้อมลูกน้อยก่อนเข้าอนุบาล เช็คลิสต์ 14 สิ่งที่พ่อแม่ต้องทำ!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!