น้ำสมุนไพรมักมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่เมื่อพูดถึงแม่ท้อง ก็อาจมีข้อจำกัดในการดื่มมากขึ้น คนท้องกินน้ำมะตูมได้ไหม ประโยชน์ที่มีต่อร่างกายก่อนท้อง จะส่งผลเสียหรือไม่หากกินตอนนี้ แม่ท้องควรเลือกน้ำมะตูมที่ไม่หวานมาก หรืออาจทำกินเองไปเลยเพื่อควบคุมความหวาน เราก็มีสูตรการทำมาแจกให้
ประโยชน์ของน้ำมะตูมต่อคนท้อง
แน่นอนว่าน้ำมะตูมจะมีประโยชน์กว่าน้ำหวานประเภทอื่น สำหรับน้ำมะตูมถือว่ามีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย หลัก ๆ คือการป้องกันโรคต่าง ๆ อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญ คือ น้ำมะตูมแค่มีส่วนช่วยเพียงส่วนเดียวเท่านั้น หากมีความเสี่ยงโรคสูง หรือเกิดโรคร้ายในร่างกายไปแล้ว ทางที่ดีที่สุด คือ การปรึกษาแพทย์ เพื่อหาการรักษา
- มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการท้องเสีย เพราะมีสารเลกติน (Lectins) ช่วยต้านเชื้อบิดชิเกลล่า (Shigellosis) สาเหตุของโรคบิด ที่ทำให้มีอาการท้องเสียที่รุนแรงได้
- รักษาแผลในกระเพาะอาหาร จากการติดเชื้อเอชไพโลไร ( Pylori) ที่ทำให้กระเพาะอาหาร หรือลำไส้เกิดการอักเสบได้ (แต่หากมีอาการดังกล่าวควรพบแพทย์มากกว่ารักษาเอง)
- มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงเบาหวาน หากสามารถเลือกทานได้อย่างถูกต้อง น้ำมะตูมแท้ ๆ จะช่วยกระตุ้นร่างกายให้สร้างอินซูลิน (Insulin) ที่ช่วยลดระดับน้ำตาลได้ แต่หากเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ดีกว่า
- ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าแค่กินน้ำมะตูมแล้วจะไม่เป็นมะเร็ง เพราะโรคร้ายนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ จึงต้องป้องกันจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วย
- ให้ความสดชื่นกับคุณแม่ตั้งครรภ์ระหว่างวันได้ดี เป็นทางเลือกที่ดีในการคล้ายร้อนในวันที่มีอากาศร้อนมาก โดยปกติแล้วมักทานร่วมกับน้ำแข็ง ดังนั้นหากอากาศหนาวอาจต้องระวังการทานมากขึ้น
- เป็นทางเลือกสำหรับคนติดน้ำหวาน แม่หลายท่านอาจชอบทานน้ำหวานต่าง ๆ เช่น ชานม, ชาเขียว หรือน้ำอัดลม ซึ่งหากทานตอนตั้งครรภ์อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ การทานน้ำหวานแบบมะตูมจึงปลอดภัยกว่า
คนท้องกินน้ำมะตูมได้ไหม ?
หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าทางเลือกสุขภาพจากน้ำดื่มรสหวานมีอยู่ตามท้องตลาดทั่วไป และที่สามารถหาได้ง่าย คือ “น้ำมะตูม” เคียงคู่กับน้ำอื่น ๆ ที่มีมาช้านาน ไม่ว่าจะเป็นลำไย, เก๊กฮวย หรือกระเจี๊ยบ เป็นต้น สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ อาจมีความเข้าใจว่าน้ำมะตูมที่เปรียบเหมือนน้ำสมุนไพรทางเลือก น่าจะมีข้อดีหลายอย่างต่อคนท้อง ดีกว่าไปทานเครื่องดื่มหวานแบบอื่น เช่น น้ำอัดลม เป็นต้น แม่ท้องสามารถกินน้ำมะตูมได้ ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียง
แต่จุดสำคัญ คือ หากเลือกทานน้ำมะตูมแบบไม่ถูกต้อง ก็สามารถส่งผลเสียได้เช่นกัน เพราะน้ำมะตูมบางสูตร อาจส่งผลร้ายต่อร่างกายของคนทั่วไปได้มากกว่าประโยชน์ เช่น หวานมากเกินไป เป็นต้น ซึ่งทุกคนควรเลี่ยง ยิ่งถ้าเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์ ยิ่งต้องระมัดระวังในเรื่องนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินน้ำพริกกะปิได้ไหม ไข่ชะอมทอดต้องเลี่ยงหรือเปล่า ?
น้ำมะตูมแบบไหนที่ควรเลี่ยง
อย่างแรกที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องระวัง คือ สารที่ให้ความหวานในน้ำมะตูม บางร้านอาจใช้ส่วนผสมที่ให้ความหวานต่าง ๆ เติมลงไปในน้ำมะตูม และอาจใช้ในปริมาณที่มาก จนทำให้น้ำมีรสหวานมาก ส่งผลเสียต่อสุขภาพ อาจทำให้เสี่ยงต่อโรคอ้วน, เบาหวาน หรือน้ำตาลในเลือดสูง เป็นต้น นอกจากนี้สำหรับคุณแม่ที่มีภาวะอันตรายใด ๆ ระหว่างตั้งครรภ์ แล้วได้ยินว่าน้ำมะตูมใช้รักษาโรคนั้นโรคนี้ได้ ซึ่งไม่ควรเชื่อ ถึงแม้จะมีสรรพคุณช่วยป้องกันโรคหลายอย่าง แต่สำหรับโรคร้าย หรือโรคที่มีอาการรุนแรง ไม่ควรรักษาด้วยการทานน้ำใด ๆ นอกจากไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ถึงแม้จะมีประโยชน์แต่การดื่มน้ำมะตูมปริมาณมากเกินพอดี ก็ส่งผลเสียได้ด้วย เพราะอาจทำให้เสี่ยงอาการท้องไส้ปั่นป่วน และท้องผูกได้ นอกจากนี้หากมีการผ่าตัดใด ๆ สำหรับแม่ท้อง เช่น การผ่าคลอด ก่อนหน้าวันผ่าควรงดดื่มน้ำมะตูมไปก่อน หรืออาจงดน้ำมะตูม และรสหวานอื่น ๆ ไปเลยในช่วงไตรมาสสุดท้ายก็ได้ เพราะจะส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดในช่วงระหว่าง และหลังการผ่าตัด
สูตรน้ำมะตูมเพื่อสุขภาพสำหรับคนท้อง
เพื่อให้สามารถควบคุมความหวานได้ นอกจากจะต้องหาร้านที่ถูกใจแม่ท้องแล้ว การทำเองก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถทำได้ไม่ยาก ควบคุมความหวานด้วยตนเองไปเลย
วิดีโอจาก : ฮักหวาน คาเฟ่แบบบ้าน ๆ
วัตถุดิบ : มะตูมแห้ง 220 กรัม, น้ำสะอาด 5 ลิตร, น้ำตาลทราย 500 กรัม, เกลือครึ่งช้อนชา, ขวดพลาสติก สำหรับใส่น้ำมะตูม
วิธีการทำ
- ขั้นตอนแรกให้นำมะตูมมาล้างน้ำให้สะอาดก่อน และพักไว้จนกว่าจะแห้ง
- จากนั้นให้เริ่มต้มน้ำให้เดือดก่อน ใส่เกลือลงไปในน้ำนิดหน่อย จากนั้นให้ใส่มะตูมแห้งลงไป ต้มทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที
- หลังจากที่มะตูมออกสี และกลิ่นเต็มที่แล้ว ให้ตักมะตูมแห้งออก
- เติมน้ำตาลทรายลงไป ความหวานปรับได้ตามชอบ แต่สำหรับแม่ท้องแน่นอนว่าควรหวานน้อย คนพอให้น้ำตาลละลาย
- รอให้น้ำเดือดอีกรอบ ชิมรสชาติ และปรุงเพิ่มได้ตามชอบ จากนั้นก็กรองด้วยผ้าขาวบาง ทบผ้าขาวบางประมาณ 2 – 3 ชั้น เพื่อเวลากรองจะได้น้ำมะตูมใส ๆ
- กรอกใส่ขวดแล้วแช่น้ำแข็งตามคลิปเพื่อเป็นการพาสเจอไรซ์ (Pasteurization) ง่าย ๆ เก็บใส่ตู้เย็นได้ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
ถึงแม้น้ำมะตูมจะดี แต่อย่าลืมน้ำเปล่า
การทานน้ำสมุนไพรอื่น ๆ อาจส่งผลต่อร่างกาย แต่ต้องไม่ลืมว่าสุดท้ายอาหารที่ครบ 5 หมู่ และการดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน เป็นการรักษาสุขภาพระหว่างการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพ ด้วยน้ำเปล่าสะอาด ไม่ได้มีส่วนผสมอื่นที่อาจเสี่ยงต่ออาการผิดปกติ ไม่มีความหวาน ไม่ปรุงแต่งให้เกิดอันตราย การดื่มน้ำเปล่าสะอาดยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงภาวะขาดน้ำของคนท้องด้วย โดยสามารถสังเกตได้จากลักษณะของริมฝีปากขาดความชุ่มชื้น และรู้สึกกระหายน้ำอย่างมาก หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบทานน้ำเปล่าสะอาดเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำจนเป็นอันตราย
นอกจากการทานอาหารมื้อต่าง ๆ แล้ว การดื่มน้ำในแต่ละวันแม่ท้องก็ต้องระวังให้ดีด้วยเช่นกัน อะไรที่ส่งผลเสียต่อร่างกายอาจต้องเลี่ยงไปก่อน ให้เน้นดื่มน้ำสมุนไพรที่ปลอดภัย หรือน้ำผลไม้ และน้ำสะอาดจะดีที่สุด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินไอติมได้ไหม ชอบกินอยู่แล้วต้องงดหรือเปล่า ?
คนท้องกินแมลงทอดได้ไหม มัน ๆ เค็ม ๆ จะส่งผลต่อทารกในครรภ์หรือเปล่า ?
คนท้องกินกระชายได้ไหม ? กินแล้วทำให้แท้งลูกได้จริงหรือไม่ ?
ที่มา : pobpad, bangkok health