X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

พัฒนาการการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 1-2 และ ความเสี่ยงต่างๆ

บทความ 8 นาที
พัฒนาการการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 1-2 และ ความเสี่ยงต่างๆ

คุณ ๆ ที่กำลังจะเป็นคุณแม่ทั้งหลายเคยสงสัยมั้ยคะว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างตั้งครรภ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง? เรามีข้อมูลกอย่างเกี่ยวกับพัฒนาการการตั้งครรภ์และเด็กตั้งแต่วันแรกที่เริ่มตั้งท้องแบบบรายสัปดาห์มาฝาก

พัฒนาการการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 1-2 เป็นอย่างไร มาดูกัน

พัฒนาการการตั้งครรภ์ประจำสัปดาห์ที่ 1-2,การเปลี่ยนแปลงระหว่างตั้งครรภ์

พัฒนาการการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 1-2

เกิดอะไรขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์แรก?

คุณแม่ทั้งหลาย นี่อาจจะฟังดูงง ๆ แต่ในช่วงสองสัปดาห์แรก ร่างกายของคุณแค่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ ซึ่งก็นับเป็นหนึ่งและสองสัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ แม้ว่าการปฏิสนธิจะเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่สามก็ตาม ณ จุดนี้ (สัปดาห์ที่หนึ่งและสอง) ไข่และตัวอสุจิยังไม่เจอกันด้วยซ้ำ

สิ่งที่คุณควรทำในช่วงนี้

คุณอาจจะต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตสักเล็กน้อยเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเด็ก อาจจะยากที่จะเลิกนิสัยเสียบางอย่าง แต่สักวันคุณจะเข้าใจเองว่ามันคุ้มค่าที่จะพยายามเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของลูกน้อยสุดที่รัก นี่หมายรวมถึงคุณพ่อทั้งหลายด้วย

ให้นมลูกนานเกิน 1 ปี ส่งผลดีหรือไม่?

สมองของเด็กในช่วงแรกนั้นมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยสมองของเด็กเมื่อสิ้นขวบปีแรกจะมีขนาดเท่ากับ 2 ใน 3 ของสมองผู้ใหญ่ และเมื่อครบอายุ 2 ปี จะมีขนาดเท่ากับ 4 ใน 5 ของสมองผู้ใหญ่ และจากการเจริญเติบโตที่รวดเร็วของสมองเด็กเช่นนี้ ทำให้เรื่องสารอาหาร เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยก็คือน้ำนมแม่ เพราะน้ำนมแม่นั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าบำรุงสมองและร่างกายของลูก เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน มีโปรตีน ไขมัน แลคโต๊ส และวิตามิน เกลือแร่ต่างๆครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการอย่างครบถ้วนนั่นเอง และจากการวิจัยพบว่า หากคุณแม่ ให้นมลูกนานเกิน 1 ปี จะมีผลดีต่อพัฒนาการด้านสมองของลูกอย่างมาก

ให้นมลูก

Advertisement

นมแม่มีสารช่วยพัฒนาสมอง

นมแม่มีปัจจัยกระตุ้นการเจริญเติบโตของระบบประสาท นอกจากนี้ นมแม่ยังมีกรดไขมันชนิดโอเมก้า 3 ซึ่งร่างกายใช้สารนี้ในการสร้างเส้นใยประสาทในสมอง แม่ที่ให้นมลูกควรกินอาหารที่มี DHA มาก เช่น ปลา กุ้ง หอย ปู อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเพื่อเพิ่มปริมาณ DHA ในน้ำนมแม่ โดยลูกที่กินนมแม่จะได้รับสารนี้ไปเสริมสร้างสมอง ทำให้ลูกฉลาดเมื่อโตขึ้น

การอุ้มลูกให้ดูดนมแม่ช่วยพัฒนาสมอง

สมองของทารกนั้น จะต้องได้รับสิ่งกระตุ้น เพื่อให้เส้นใยประสาทเจริญเติบโต โดยสิ่งกระตุ้นนั้นอาจจะมาจากภาพ เสียง กลิ่น รส หรือการสัมผัสที่ผิวหนัง ซึ่งการอุ้มลูกให้ดูดนมแม่นั้นจะเป็นการกระตุ้นประสาทรับสัมผัสของลูกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งในขณะที่ลูกดูดนมแม่ ยังมีการสื่อสารผ่านทางสายตา ซึ่งมีส่วนช่วยในการกระตุ้นพัฒนาการของเด็กได้อีกทางหนึ่ง

นมแม่ ช่วยลูกความจำดี

จากการศึกษาวิจัยพบว่า นมแม่นั้นช่วยส่งเสริมพัฒนาการของสมองและสติปัญญาของเด็ก โดยผู้วิจัยได้ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่าง ในเด็ก 133 คน ที่มีอายุตั้งแต่ 10 เดือนขึ้นไป  โดยผู้ที่ทำการวิจัยได้ใช้เครื่อง MRI เพื่อทำการดูข้อมูล ซึ่งพบว่ากลุ่มเด็กที่กินนมแม่เพียงอย่างเดียวนั้น มีพัฒนาการทางสมองที่เร็วกว่าเด็กที่กินนมแม่ผสมนมผง หรือกินนมผงเพียงอย่างเดียว และหากเด็กกินนมแม่นานขึ้น ก็จะยิ่งมีพัฒนาการทางสมองที่ดีขึ้นตามระยะเวลา

ให้นมลูกนานเกิน 1 ปี แล้วความจำจะดี

นอกจากนี้ ผลจากการศึกษาวิจัยยังทำให้เราได้พบว่า ระยะเวลาที่คุณแม่ให้นมลูกนั้น ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของสมอง และความจำของเด็ก โดยเด็กที่กินนมแม่มากกว่า 1 ปีขึ้นไป จะมีพัฒนาการทางสมองที่เร็วกว่าเด็กที่กินนมแม่น้อยกว่า 1 ปี โดยเฉพาะทางด้านพัฒนาการของสมองที่สั่งงานไปยังระบบต่างๆเช่น กล้ามเนื้อ ต่อม หรืออวัยวะอื่นๆให้มีการตอบสนองที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้เด็กมีพัฒนาการด้านอื่นๆที่ดีขึ้นตามไปด้วย

ให้นมลูกนานเกิน 1 ปี

รูปภาพจาก Baby Imaging Lab/Brown University

อีกทั้งจากการทดสอบในเด็กโตที่กินนมแม่เกิน 1 ปี พบว่าเด็กยังมีความสามารถทางด้านภาษา ทักษะทางด้านการมองเห็น และทักษะทางด้านการเคลื่อนไหวที่ดีอีกด้วย

เพราะการให้ลูกได้กินนมแม่นั้น มีประโยชน์มากมาย สัมผัสรักที่ได้ระหว่างให้นมจะช่วยให้ลูกเกิดความอบอุ่น ทำให้ลูกเกิดความสุขขึ้นในใจ ซึ่งก็จะทำให้เลี้ยงง่าย อีกทั้งร่างกายของแม่เองก็จะหลั่งสารที่ทำให้คุณแม่มีความสุข อารมณ์ดี เมื่อแม่อารมณ์ดี ลูกน้อยก็จะพลอยได้รับสิ่งดีๆตามไปด้วย และหากคุณแม่ท่านใดมีประสบการณ์ดีๆก็อย่าลืมแชร์เรื่องราวเหล่านั้นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านท่านอื่นๆนะครับ

เช็คความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ แม่ตั้งท้องตอนอายุมาก

เช็คความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ แม่ตั้งท้องตอนอายุมาก ตั้งครรภ์อายุมาก เสี่ยงอย่างไร แม่ท้องตอนอายุมาก ความเสี่ยง ตั้งครรภ์

 

เช็คความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ ตั้งท้องตอนอายุมาก

ตั้งท้องตอนอายุมาก

บทความจากพันธมิตร
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
MFGM จากนมแม่กุญแจสำคัญ สู่ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่าของเด็ก Gen ใหม่
MFGM จากนมแม่กุญแจสำคัญ สู่ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่าของเด็ก Gen ใหม่

อายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้แม่ท้องเสี่ยงต่อปัจจัยหลาย ๆ ด้านระหว่างการตั้งครรภ์ แต่กระนั้นก็ยังมีหวัง! เพราะเคยมีข่าวว่า คุณแม่ชาวอินเดียได้ให้กำเนิดลูกชาย ในวัย 70 ปี (หลังจากเข้ารับทำเด็กหลอดแก้วกับสามีวัย 79 ปี) ดังนั้นแม่ตั้งท้องตอนอายุมากจึงยังมีความหวัง

หรือจริง ๆ แล้วผู้หญิงที่อายุมากก็สามารถตั้งครรภ์ได้?

อย่างแรกที่แม่ตั้งท้องตอนอายุมากต้องรู้ คือ อายุที่เพิ่มมากขึ้น จะทำให้ผู้เป็นแม่มีความเสี่ยงหลาย ๆ ด้าน เช่น ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์เมื่ออายุ 30+ จะเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ ทั้งยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานจากการตั้งครรภ์ และมีโอกาสที่จะต้องผ่าคลอดบุตรถึง 50 เปอร์เซ็นต์

สำหรับผู้หญิงวัย 40+ และผู้หญิงวัย 50+ จะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตระหว่างการตั้งครรภ์ หรือเสียชีวิตระหว่างการคลอดบุตร!!!

 

ความเสี่ยงของแม่ท้องเมื่ออายุมาก

– ภาวะรกเกาะต่ำขณะตั้งครรภ์ ในช่วงอายุครรภ์ที่มากขึ้นจนใกล้คลอด มดลูกจะมีขนาดใหญ่ ปากมดลูกและส่วนล่างของมดจะบาง ทำให้เกิดรอยปริ จนเลือดออกตรงบริเวณที่รกเกาะ อาจจะรุนแรงถึงชีวิตทั้งแม่และทารก

– รกลอกตัวก่อนกำหนด การลอกตัวของรกก่อนที่จะคลอดทารก ทำให้มีเลือดออกบริเวณที่รกเกาะ ถ้ารุนแรงมากแม่จะปวดท้องอย่างรุนแรง มีอาการช็อค และอาจส่งผลให้ทารกเสียชีวิตได้

– ภาวะครรภ์เป็นพิษ เมื่อความดันโลหิตสูงมากกว่าหรือเท่ากับ 140/90 มิลลิเมตรปรอท อาจมีภาวะโปรตีนรั่วปนในปัสสาวะร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้คุณแม่เกิดอาการชัก หมดสติ และเลวร้ายที่สุดคือเสียชีวิตทั้งแม่และทารก

– ระหว่างคลอด แม่ท้องที่อายุมากจะใช้เวลาคลอดที่นานกว่า และยังต้องเผชิญกับปัญหาอื่น ๆ ของลูกในท้อง เช่น ทารกอยู่ในภาวะเครียด

– แม่ตั้งท้องตอนอายุมากเสี่ยงเบาหวานขณะตั้งครรภ์ มากกว่าแม่ท้องอายุน้อย ๆ

– แม่ตั้งท้องตอนอายุมากกว่า 35 ปี เสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงระหว่างตั้งครรภ์ ความเสี่ยงนั้นสูงกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า หากเทียบกับแม่ท้องอายุน้อย ๆ หรือคนอายุ 20 ปี

ความเสี่ยงต่อการเกิดดาวน์ซินโดรม หากแม่ตั้งท้องตอนอายุมากแต่ละช่วงอายุ

นอกจากนี้ แม่ท้องที่อายุมาก ลูกก็จะมีความเสี่ยงเป็นดาวน์ซินโดรม โดยเว็บไซต์ haamor.com ได้แบ่งค่าเฉลี่ยไว้ดังนี้

แม่ที่อายุ 25 ปี ถ้าตั้งครรภ์ 1,250 คน จะมีโอกาสมีลูกเป็นกลุ่มอาการดาวน์ 1 คน (0.08%)

แม่ที่อายุ 30 ปี ถ้าตั้งครรภ์ 1,000 คน จะมีโอกาสมีลูกเป็นกลุ่มอาการดาวน์ 1 คน (0.1%)

แม่ที่อายุ 35 ปี ถ้าตั้งครรภ์ 400 คน จะมีโอกาสมีลูกเป็นกลุ่มอาการดาวน์ 1 คน (0.25%)

แม่ที่อายุ 40 ปี ถ้าตั้งครรภ์ 100 คน จะมีโอกาสมีลูกเป็นกลุ่มอาการดาวน์ 1 คน (1%)

แม่ที่อายุ 45 ปี ถ้าตั้งครรภ์ 30 คน จะมีโอกาสมีลูกเป็นกลุ่มอาการดาวน์ 1 คน (3.3%)

 

แม่ตั้งท้องตอนอายุมากหรือแม่ท้องที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม

  • แม่ตั้งท้องตอนอายุมากควรตรวจเลือดเมื่ออายุครรภ์ 10 สัปดาห์ขึ้นไป
  • แม่ตั้งท้องตอนอายุมากควรตรวจน้ำคร่ำโดยจะทำในช่วงที่อายุครรภ์ประมาณ 15-18 สัปดาห์

 

โรคทางพันธุกรรมอื่นเมื่อแม่ตั้งท้องตอนอายุมาก

แม่ตั้งท้องตอนอายุมากยังต้องระวังภาวะแฝงของโรคธาลัสซีเมีย หากแม่และพ่อมีภาวะแฝง ลูกที่เกิดมาจะมีโอกาสเป็นโรค 25% เป็นพาหะ 50% ปกติ 25%

 

แม้ว่าจะมีความเสี่ยงหลาย ๆ แต่คุณแม่ก็อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะในปัจจุบัน แม่ท้องที่อายุมากมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และถ้าคุณแม่พร้อมจะเสี่ยง เรามีคำแนะนำมาฝากกันค่ะ

– ตรวจก่อนตั้งครรภ์และขอรับคำปรึกษา เพื่อให้คุณหมอเช็คร่างกายคุณแม่ก่อนว่าแข็งแรงพร้อมจะตั้งครรภ์หรือไม่

– จากนั้นอย่าลืมไปฝากครรภ์ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

– พบหมอทุกครั้งตรงตามวันนัด ถ้ามีอาการผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์จะได้แก้ไขได้เร็ว

– เลือกทานอาหารที่ดีมีประโยชน์และบำรุงครรภ์

– อย่าให้น้ำหนักตัวน้อยหรือมากจนเกินไป ควรปรึกษาคุณหมอว่าน้ำหนักตัวเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม

– ออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมตั้งครรภ์ และหลังจากตั้งครรภ์แล้วก็ออกกำลังกายได้ แต่ต้องไม่หนักเกินไป

– ห้ามดื่มเหล้าและสูบบุหรี่เด็ดขาด เพื่อตัวของคุณแม่เองและลูกในท้อง และต้องไม่ไปในบริเวณที่มีควันบุหรี่ เพราะบุหรี่มือสองก็อันตรายไม่แพ้กัน

ถ้าคุณแม่ตั้งท้องตอนอายุมาก หรือตัดสินใจที่จะตั้งครรภ์อายุมาก อย่าลืมดูแลตัวเองให้ดี ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอยู่ตลอด และพบแพทย์เป็นประจำ เพื่อทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดนะคะ

พัฒนาการการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 1-2 และ ความเสี่ยงต่างๆ

รู้กันไปแล้วว่าแม่ตั้งท้องตอนอายุมาก เสี่ยงอย่างไร มาโหวตกันหน่อยว่า ขณะตั้งครรภ์ คุณแม่กล้วหน้าท้องลายหรือไม่ ถ้ากดโหวตไม่ได้ คลิกที่นี่

The Asianparent Thailand เพื่อลงทะเบียนรับการดูแลตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ช่วงไตรมาสแรกมาติดตามพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิด ลูกโตขึ้นแค่ไหนกันนะ ไตรมาสที่ 2  มาฟังเสียงลูกน้อย นับว่าหนึ่งวันลูกดิ้นไหมนะ และลูกดิ้นวันละกี่ครั้งด้วยแอพพลิเคชั่น The Asianparent  นี่เป็นแค่ตัวอย่างกิจกรรมบนแอพพลิเคชั่นในส่วนแรก เพราะคุณแม่จะได้รับการดูแลทั้งอาหารการกินโดยการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญว่าควรทานอะไรบ้างในแต่ช่วงอายุครรภ์ ยาที่เป็นอันตรายชนิดไหนบ้างที่ไม่ควรทาน กิจกรรมใดบ้างที่ทำได้หรือทำไม่ได้ เคล็ดลับการตั้งชื่อลูกอย่างไรให้เป็นมงคลทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย รวมถึงเตรียมแผนการล่วงหน้าถึงอนาคต การเตรียมคลอด การดูแลตนเองหลังคลอด ที่ครอบคลุมทุกช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องการ


souce หรือ บทความอ้างอิง : nhs.uk

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

พัฒนาการการตั้งครรภ์ประจำสัปดาห์ที่ 3

พัฒนาการทารกในท้องแม่ 9 เดือน

เครื่องดื่มอันตรายสำหรับคนท้อง

 

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

Angoon

  • หน้าแรก
  • /
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • /
  • พัฒนาการการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 1-2 และ ความเสี่ยงต่างๆ
แชร์ :
  • หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

    หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

  • วางแผนลาคลอด ตอนกี่สัปดาห์? รวมคำแนะนำจากประสบการณ์คุณแม่

    วางแผนลาคลอด ตอนกี่สัปดาห์? รวมคำแนะนำจากประสบการณ์คุณแม่

  • วัคซีน RSV คนท้อง จำเป็นไหม? ปกป้องลูกรักจาก RSV ตั้งแต่ก่อนคลอด

    วัคซีน RSV คนท้อง จำเป็นไหม? ปกป้องลูกรักจาก RSV ตั้งแต่ก่อนคลอด

  • หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

    หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

  • วางแผนลาคลอด ตอนกี่สัปดาห์? รวมคำแนะนำจากประสบการณ์คุณแม่

    วางแผนลาคลอด ตอนกี่สัปดาห์? รวมคำแนะนำจากประสบการณ์คุณแม่

  • วัคซีน RSV คนท้อง จำเป็นไหม? ปกป้องลูกรักจาก RSV ตั้งแต่ก่อนคลอด

    วัคซีน RSV คนท้อง จำเป็นไหม? ปกป้องลูกรักจาก RSV ตั้งแต่ก่อนคลอด

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว