ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การเลี้ยงดูลูกเป็นเรื่องท้าทายสำหรับพ่อแม่ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ 10 ลักษณะสำคัญของ พ่อแม่ที่มีลูกดี มาดูกันค่ะว่า พ่อแม่แบบไหน ที่จะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นคนดี มีคุณภาพ และพร้อมรับมือกับโลกที่ซับซ้อนใบนี้?
10 ลักษณะสำคัญของ พ่อแม่ที่มีลูกดี
1. พ่อแม่ที่ลูกเชื่อและเคารพ
การปลูกฝังให้ลูกเชื่อฟังและเคารพพ่อแม่ ถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมของเด็ก งานวิจัยเผยให้เห็นว่า เด็กอายุ 5 ขวบที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ มีแนวโน้มที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัว
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ลูกไม่เชื่อฟัง มักเกิดจาก “คำพูดที่ไม่ศักดิ์สิทธิ์” ของพ่อแม่เอง ตัวอย่างเช่น การสั่งลูกว่า “หยุด” หรือ “ห้ามทำ” แต่เมื่อลูกไม่ทำตาม กลับไม่มีการลงมือทำอะไรอย่างจริงจัง นอกจากการบ่นหรือแสดงอาการไม่พอใจ ส่งผลให้คำพูดของพ่อแม่หมดความหมายในสายตาลูก
พ่อแม่ต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง ด้วยการ “พูดจริง ทำจริง” เมื่อบอกลูกว่าจะทำอะไร ต้องทำให้เห็นจริง เช่น หากบอกลูกว่า “ถ้าลูกไม่เก็บของเล่น แม่จะเอาไปทิ้งนะ” เมื่อลูกไม่ทำตาม ก็ต้องลงมือเอาของเล่นไปทิ้งจริงๆ (อาจจะเก็บไว้ที่ที่ลูกมองไม่เห็นสักพัก)
อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงลูกแบบเผด็จการ หรือใช้อำนาจข่มขู่ อาจทำให้ลูกเชื่อฟังก็จริง แต่ไม่ใช่การเชื่อฟังที่เกิดจากความเคารพ ดังนั้น พ่อแม่ควรสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็นของลูก และอธิบายเหตุผลเบื้องหลังกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้ลูกเข้าใจและยอมรับด้วยความเต็มใจ
2. พ่อแม่ที่สอนให้แยกแยะ ถูก ผิด ดี ชั่ว
แม้การส่งเสริมให้ลูกคิดวิเคราะห์และตัดสินใจเองจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่พ่อแม่ก็มีบทบาทสำคัญในการปลูกฝัง “เข็มทิศชีวิต” ให้ลูก เพื่อให้ลูกรู้จักแยกแยะถูกผิด ดีชั่ว และเลือกดำเนินชีวิตในเส้นทางที่ถูกต้องเหมาะสม
ในปัจจุบัน พบว่าเด็กหลายคนขาดความสามารถในการแยกแยะคุณค่า ไม่รู้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ เช่น การเลือกซื้อขนม ของเล่น หรือการเลือกรับสื่อออนไลน์ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่พ่อแม่ละเลย หรือไม่ให้ความสำคัญกับการปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องให้กับลูก
พ่อแม่ไม่ควรกลัวว่าการสอนเรื่องคุณธรรม จริยธรรม จะเป็นการยัดเยียดความคิด หรือทำให้ลูกเกิดความเครียด ในทางตรงกันข้าม การปลูกฝังคุณค่าที่ดีงาม เช่น ความรัก ความซื่อสัตย์ ความเมตตา ความยุติธรรม เป็นต้น จะเป็นเกราะป้องกันให้ลูกเติบโตเป็นคนดี มีคุณภาพ และดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข

3. พ่อแม่ที่สอนให้ลูกมีความรัก
ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก พบว่า “ความรัก” และ “ความเมตตา” คือหัวใจสำคัญของการมีคุณธรรม การปลูกฝังให้ลูกรู้จักรัก รู้จักให้ รู้จักอภัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น จะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นคนดี มีคุณภาพ และมีความสุขในชีวิต
พ่อแม่สามารถสอนให้ลูกมีความรักได้หลายวิธี เช่น
- สอนให้ลูกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า เช่น การแบ่งปันสิ่งของ การช่วยเหลือผู้สูงอายุ การบริจาคเงิน เป็นต้น
- สอนให้ลูกรู้จักยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี ไม่รู้สึกอิจฉา ริษยา เมื่อเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ
- สอนให้ลูกพอใจในสิ่งที่ตนเองมี รู้จักเห็นคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ และไม่ยึดติดกับวัตถุมากเกินไป
นอกจากนี้ พ่อแม่ยังสามารถใช้ความรัก เป็นเครื่องมือในการฝึกวินัยเชิงบวก เช่น เมื่อลูกรังแกน้อง แทนที่จะดุว่า หรือลงโทษ พ่อแม่อาจพูดกับลูกว่า “แม่เสียใจที่ลูกรังแกน้อง ลูกลองคิดดูสิว่า ถ้ามีคนมารังแกลูก ลูกจะรู้สึกอย่างไร” การพูดเช่นนี้ จะช่วยให้ลูกเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น และเกิดความสำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป
เพราะความรัก คือพลังอันยิ่งใหญ่ ที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงและหล่อหลอมให้ลูกเติบโตเป็นคนดี มีคุณธรรม และมีความสุข
4. พ่อแม่ที่สอนให้ลูกคิดก่อนทำ
การมีวุฒิภาวะ ไม่ได้วัดกันที่ชาติตระกูล หรือใบปริญญา แต่ดูได้จากการที่บุคคลนั้น “คิดก่อนทำ” นั่นคือ ไตร่ตรองถึงผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของตนเอง ว่าจะส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่นอย่างไร ก่อนที่จะลงมือทำ
คนส่วนใหญ่มักประสบปัญหา เพราะขาดการคิดไตร่ตรอง เช่น เมื่อโกรธก็แสดงออกทันที อยากได้อะไรก็ต้องเอาให้ได้ ไม่คำนึงถึงเหตุผล หรือผลกระทบที่จะตามมา
งานวิจัยพบว่า เด็กที่รู้จักรอคอย และคิดก่อนทำ มีแนวโน้มที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ และมีความสุขในชีวิต เพราะการคิดก่อนทำจะช่วยให้
- ตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ พิจารณาทางเลือกต่างๆ และเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด
- ควบคุมอารมณ์ได้ดี ไม่ใช้อารมณ์เป็นตัวนำในการตัดสินใจ
- แก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ มองเห็นปัญหาอย่างรอบด้าน และหาทางแก้ไขได้อย่างเหมาะสม
- มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น และแสดงออกอย่างเหมาะสม
- รับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง ยอมรับผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตนเอง
การสอนให้ลูกคิดก่อนทำ จะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะ มีความรับผิดชอบ และประสบความสำเร็จในชีวิต
5. พ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดี
คำกล่าวที่ว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” ยังคงเป็นจริงเสมอ เด็กๆ เรียนรู้จากการสังเกตและเลียนแบบพฤติกรรมของพ่อแม่ มากกว่าการฟังคำสั่งสอน ดังนั้น หากพ่อแม่ต้องการให้ลูกเป็นคนดี มีคุณธรรม สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก
ตัวอย่างเช่น หากพ่อแม่ต้องการให้ลูกพูดจาไพเราะ พ่อแม่ก็ต้องพูดจาไพเราะกับลูกและคนรอบข้าง หากพ่อแม่ต้องการให้ลูกเป็นคนซื่อสัตย์ พ่อแม่ก็ต้องแสดงความซื่อสัตย์ให้ลูกเห็น ไม่โกหก ไม่หลอกลวง แม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
พฤติกรรมของลูก จึงเปรียบเสมือนกระจกสะท้อนตัวตนของพ่อแม่ หากลูกมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พ่อแม่ควรหันกลับมามองตัวเอง ว่าได้แสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีให้ลูกเห็นหรือไม่
ตัวอย่างเช่น พ่อแม่ที่สอนลูกว่า “อย่าโกหก” แต่เมื่อมีโทรศัพท์เข้ามา กลับบอกลูกว่า “บอกเขาไปว่าพ่อไม่อยู่” การกระทำเช่นนี้ นอกจากจะไม่ช่วยให้ลูกซื่อสัตย์แล้ว ยังทำให้ลูกมองว่าพ่อแม่เป็นคนโกหก และเรียนรู้ที่จะโกหกตามไปด้วย
เด็กๆ มีความเฉลียวฉลาดในการสังเกต และจดจำพฤติกรรมของพ่อแม่ ดังนั้น การเป็นแบบอย่างที่ดี จึงเป็นวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพที่สุด ในการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่ดีงามให้กับลูก

6. พ่อแม่ที่ปลูกฝังความพยายาม
การสอนให้ลูกรู้จักทำงานหนัก พึ่งพาตนเอง และมุ่งมั่นจนบรรลุเป้าหมาย เป็นบทเรียนชีวิตที่จะนำพาพวกเขาไปสู่ความสุขและความสำเร็จในอนาคต
พ่อแม่ควรเริ่มต้นปลูกฝัง “นิสัยแห่งความพยายาม” ให้กับลูกตั้งแต่ยังเล็ก โดยมอบหมายงานบ้านที่เหมาะสมกับวัย เช่น การล้างจาน การจัดเตียง การช่วยซื้อของ หรือการทำโครงงาน เพื่อฝึกให้ลูกรู้จักรับผิดชอบ และพึ่งพาตนเอง
เมื่อลูกทำผลงานได้สำเร็จ พ่อแม่อาจให้รางวัล หรือคำชมเชย เพื่อเป็นกำลังใจ และเสริมสร้างแรงจูงใจให้ลูก ทำให้ลูกรู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จที่เกิดจากหยาดเหงื่อและความพยายามของตนเอง และตระหนักว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น”
การปลูกฝังให้ลูกรู้จักทำงานหนัก ไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิตเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูก
- มีวินัยในตนเอง รู้จักวางแผน จัดลำดับความสำคัญ และลงมือทำอย่างเป็นระบบ
- มีความรับผิดชอบ ตระหนักถึงหน้าที่ และพยายามทำให้สำเร็จลุล่วง
- มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และพยายามจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย
- มีความมั่นใจในตนเอง เชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง และกล้าเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ
การสอนให้ลูกทำงานหนัก และพึ่งพาตนเอง จึงเป็นการเตรียมความพร้อมให้ลูก ก้าวออกไปเผชิญโลกกว้างอย่างเข้มแข็ง และประสบความสำเร็จในชีวิต
7. พ่อแม่ที่สอนให้ลูกล้มได้…ลุกเป็น
ชีวิตคนเรา ย่อมต้องเผชิญกับอุปสรรค ความผิดพลาด และความล้มเหลว เป็นธรรมดา ดังนั้น เราต้องมี “ความกล้าหาญ” ที่จะยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง และลุกขึ้นสู้ใหม่ แม้จะล้มลงกี่ครั้งก็ตาม
พ่อแม่มีบทบาทสำคัญในการปลูกฝัง “ความกล้าหาญ” ให้กับลูก โดยการเป็นแบบอย่างที่ดี แสดงให้ลูกเห็นว่า แม้ในยามที่ยากลำบาก หรือเผชิญกับความผิดพลาด พ่อแม่ก็ยังคงเข้มแข็ง ไม่ย่อท้อ และพร้อมที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาด เพื่อก้าวเดินต่อไป
ลูกจะจดจำ และนำแบบอย่างจากพ่อแม่ ไปปรับใช้ในชีวิตของพวกเขา เมื่อลูกเห็นว่าพ่อแม่กล้ายอมรับความผิดพลาดของตนเอง ลูกก็จะมีความมั่นใจที่จะยอมรับความผิดพลาดของตนเองเช่นกัน
การยอมรับความผิดพลาด ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นโอกาสในการเรียนรู้ และพัฒนาตนเอง พ่อแม่ควรสอนให้ลูกรู้จัก
- วิเคราะห์สาเหตุของความผิดพลาด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
- มองหาบทเรียนจากความผิดพลาด และนำมาปรับปรุงแก้ไข
- ให้อภัยตนเอง และก้าวเดินต่อไปข้างหน้า
การปลูกฝังความกล้าหาญ และการยอมรับความผิดพลาด เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางใจ ที่จะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง มั่นคง และพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ในชีวิต
8. พ่อแม่ที่รู้คุณค่าของเวลา
การบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในชีวิต และเป็นนิสัยที่ดีที่ควรปลูกฝังให้กับลูกตั้งแต่ยังเล็ก
คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะใช้เวลาที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ค่า
การตรงต่อเวลา เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญ ที่แสดงถึงความรับผิดชอบ และสร้างความประทับใจให้กับผู้อื่น พ่อแม่ควรฝึกให้ลูก
- เตรียมตัวล่วงหน้า เพื่อไม่ต้องรีบเร่ง เช่น เตรียมหนังสือ อุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน ไว้ให้พร้อมก่อนเข้านอน
- ไปถึงสถานที่นัดหมายตรงเวลา ไม่ว่าจะเป็นการไปโรงเรียน ไปเรียนพิเศษ หรือไปร่วมกิจกรรมต่างๆ
- ส่งงานตามกำหนด ฝึกให้ลูกรู้จักวางแผน และจัดสรรเวลาในการทำงาน เพื่อให้สามารถส่งงานได้ทันเวลา
การบริหารเวลาที่ดี ไม่เพียงแต่ช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยให้มีสติ ใจเย็น ไม่เครียดหรือ ไม่ต้องกดดันกับเวลาที่กระชั้นชิด

9. พ่อแม่ที่เคารพขอบเขตของลูก
ในอดีต การเลี้ยงลูกแบบ “พ่อแม่สั่ง ลูกต้องเชื่อ” อาจเป็นเรื่องปกติ แต่ในปัจจุบัน การเคารพในความเป็นตัวตนของลูก ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่พ่อแม่ยุคใหม่ควรให้ความสำคัญ
การเคารพในความเป็นตัวตนของลูก หมายถึง การเคารพในสิทธิ ความคิดเห็น และพื้นที่ส่วนตัวของลูก พ่อแม่ควรสอนให้ลูกรู้จัก
- การปฏิเสธ กล้าที่จะพูดว่า “ไม่” เมื่อรู้สึกไม่สบายใจ หรือไม่ต้องการทำสิ่งใด
- การแสดงความคิดเห็น กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นของตนเอง แม้จะแตกต่างจากผู้อื่น
- การยอมรับความแตกต่าง เข้าใจว่า แต่ละคนมีความคิดเห็น และมุมมองที่แตกต่างกันได้
การที่พ่อแม่เคารพในความเป็นตัวตนของลูก จะช่วยให้ลูกมีความมั่นใจในตนเอง มีความเป็นตัวของตัวเอง มีทักษะในการแก้ปัญหา และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี จากการที่เขาเคารพในสิทธิ และความคิดเห็นของผู้อื่น
พ่อแม่ที่มีลูกดี สามารถเริ่มต้น “เคารพในความเป็นตัวตนของลูก” ได้ง่ายๆ โดยให้พื้นที่ส่วนตัว เคารพสิทธิในร่างกาย ทรัพย์สิน และความเป็นส่วนตัวของลูก รับฟังความคิดเห็น แม้จะไม่เห็นด้วยก็ตาม ไม่บังคับให้ลูกทำในสิ่งที่ลูกไม่ต้องการ หรือไม่เห็นด้วย รวมทั้งยอมรับและเข้าใจว่า ลูกมีสิทธิที่จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากพ่อแม่
การเคารพในความเป็นตัวตนของลูก เป็นการแสดงความรัก และความเข้าใจ ที่จะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ มีความสุข และประสบความสำเร็จในชีวิต
10. พ่อแม่ที่สอนให้ลูกรักตัวเอง
เด็กที่ได้รับการสอนให้รักตัวเอง จะเติบโตอย่างมีคุณภาพ และมีความสุขในชีวิต เพราะเมื่อลูกรักตัวเอง ลูกก็จะ
- เห็นคุณค่าในตนเอง ยอมรับในข้อดี ข้อเสีย และเคารพในความเป็นตัวของตัวเอง
- ดูแลตัวเอง ใส่ใจสุขภาพกาย สุขภาพใจ และความรู้สึกของตนเอง
- กล้าแสดงออก กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง และแสดงความสามารถของตนเองออกมา
- มีความมั่นใจ เชื่อมั่นในความสามารถ และคุณค่าของตนเอง
- มีความสุข มีความพึงพอใจในชีวิต และมองโลกในแง่ดี
พ่อแม่มีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังให้ลูก “รักตัวเอง” โดยเป็นแบบอย่างที่ดี แสดงให้ลูกเห็นว่า พ่อแม่รัก และดูแลตัวเองอย่างไร เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ การดูแลความสะอาด การจัดการกับความเครียด เป็นต้น
พ่อแม่ที่มีลูกดี มักแสดงให้ลูกเห็นว่า พ่อแม่มีความสุขและรักตัวเอง ลูกก็จะเรียนรู้ที่จะรักตัวเองเช่นกัน และเมื่อลูกรักตัวเอง ลูกก็จะสามารถรัก และเข้าใจผู้อื่นได้ เพราะการรักตัวเอง เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น และการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ดังนั้น พ่อแม่ที่มีลูกดี คือ พ่อแม่ที่เป็นแบบอย่างที่ดีในด้านต่างๆ ซึ่งจะถ่ายทอดลักษณะนิสัยเหล่านี้ไปยังลูกน้อย ทำให้ลูกเติบโตเป็นคนดี มีคุณภาพ และประสบความสำเร็จในชีวิตได้ค่ะ
ที่มา : คัมภีร์การเลี้ยงลูก, pinknblu
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
20 สิ่งที่ควรสอนลูกสาว ก่อนที่จะโตเป็นผู้ใหญ่ บทเรียนชีวิตสำหรับลูกสาวยุคใหม่
วิธีสอนลูก เรื่องการคบเพื่อน ป้องกันลูกเดินทางผิด เพราะกลัวเพื่อนไม่คบ
Self-control ทักษะควบคุมตัวเอง ฝึกง่ายๆ ตั้งแต่เด็ก โตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!