พ่อไม่ช่วยเลี้ยงลูก แอบในห้องน้ำ แม่เลยแก้เผ็ด ปิดไวไฟซะเลย
มีแม่หลายคนที่คงจะเกิดอาการโมโหบ้าง เวลาที่ตัวเองต้องเลี้ยงลูกอยู่คนเดียว บางคนก็อาจจะไม่ได้แค่ เลี้ยงลูก ยังต้องทำงานบ้านอย่างอื่นอีก ทั้งทำกับข้าว ซักผ้า ถูบ้าน กวาดบ้าน ทำงานอีก 108 อย่าง ที่คนอื่นไม่รู้ ถ้าสมมุติมีคุณพ่อ ช่วยแบ่งเบาภาระบ้างก็คงจะดี แต่มันก็จะมีคุณพ่อตัวดี พ่อไม่ช่วยเลี้ยงลูก เหมือนกัน
พ่อไม่ช่ว ยเลี้ยงลูก
เราคิดว่าคุณแม่ๆทั้งหลาย คงจะโมโหพอสมควร เมื่อเห็นสามีกลับมานอนดูทีวี สบายใจ หรือ หลีกเลี่ยนการเลี้ยงลูกเพราะคิดว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของตัวเองโดยตรง หรือ อาจจะขี้เกียจ ได้ยินคำแก้ตัวแล้ว คงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เราจะมีวิธีแก้เผ็ด คุณพ่อจอมขี้เกียจได้ยังไงบ้าง มาดูคุณแม่ท่านนี้กัน
คุณแม่สุดแซ่บ Fierce Mom
พ่อไม่ช่ วยเลี้ยงลูก
คุณแม่ท่านหนึ่งเขียนข้อความบอกเล่าวีรกรรมของตัวเองผ่าน กระทู้ในเว็บไซต์ เว็บบอร์ดชื่อดัง ที่ชื่อว่า Reddit โดยเธอใช้ชื่อแทนตัวเองว่า u/FinalWintersEve เธอเล่าว่า ทั้งเธอและสามี ตัดสินใจที่จะขอลาเลี้ยงลูก ทั้งสองคน เพราะว่า พวกเขามีลูกแฝด และ ทุกครั้ง ที่สามีเธอ ต้องเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะเป็นการ เปลี่ยนผ้าอ้อม ให้ลูกกินนมในขวด เขาจะขอไปเข้าห้องน้ำก่อนเสมอ
ถ้าเป็นการไปเข้าห้องน้ำปกติ เธอก็เข้าใจ เธอไม่ได้ใจร้าย ถึงขนาดที่ว่าจะให้สามีเธอ อั้นไม่ไปห้องน้ำ แต่ทุกครั้งมันจะ 25 นาทีขึ้นตลอดไปทุกครั้ง เขาจะไปเข้าห้องน้ำพร้อมมือถือทุกครั้ง แล้วเมื่อมาถึงที่งานที่เขาต้องทำ ก็เสร็จแล้วทุกครั้งไป
ตอนแรกแม่คิดว่าคุณพ่อเป็นอะไรรึเปล่า
พ่อไม่ช่ วยเลี้ยงลูก
เธอเล่าต่อว่าสามีของเธอ ต้องทานยาบางอย่าง ที่ทำให้เขาไปเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น แต่สุดท้ายแล้ว เธอตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการสร้างกฏขึ้นมาใหม่ ถ้าสามีของเธอไปห้องน้ำนานกว่า 10 นาที ล่ะก็ เธอจะผิดไวไฟทันที หลังจากนั้นปัญหาก็มีน้อยลง แต่ไม่หมดไปซะทีเดียว สามีของเธอมักจะเข้าห้องน้ำ ด้วยความยาวนานเหลือประมาณ 15 นาที มันทำให้เธอโกรธมาก
สามีออกมาบอกว่าคนที่เป็นปัญหาคือตัวภรรยานั่นแหละ
พ่อ ไม่ช่วยเลี้ยงลูก
เธอเล่าต่อไปว่า สามีของเธอ ต่อว่า เธอคืน เพราะคิดว่าตัวภรรยานั่นแหละที่เป็นปัญหา หลังจากได้ยินสามีพูดแบบนั้น เธอเลยตัดสินใจที่จะมาตั้งกระทู้ถาม Reddit เพื่อให้คนในกระทู้ มาบอกว่า เธอไม่ได้คิดมากไปเอง หงุดหงิดไปเอง เพราะนอนไม่พอ
พอเริ่มมีคนเข้ามาคุยมากขึ้นเรื่อยๆ ข้อมูลก็เปิดเผยว่า ที่พ่อหายไป ก็เพราะเขาหนีไปแอบเล่นเกมนั่นเอง พอเห็นดังนั้น คงจึงมาเข้าข้างคนแม่กันหมด พร้อมกับตำหนิคุณพ่อ ที่ไม่ยอมรับผิดชอบงานส่วนที่ตัวเอง ตกลงไว้แล้วว่าจะช่วยกันทำร่วมกัน
งานวิจัยเผยว่าในชีวิตจริงนั้นมันแย่กว่านี้มาก
พ่อไม่ช่ วยเลี้ยงลูก
เปอร์เซ็นต์ของคู่สมรส ที่คิดว่า การแบ่งงานบ้าน ให้เท่าเทียมกันจะมากถึง 56 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม เพื่อที่จะทำให้ความสัมพันธ์ หรือ ชีวิตคู่ไปต่อได้ แต่จากการศึกษาวิจัย จาก PEW บอกว่า การแบ่งงาน ระหว่างคู่สามี ภรรยา ยังคงเป็นปัญหาอยู่จนถึงทุกวันนี้ มีแม่กว่า 64 เปอร์เซ็นต์ที่รู้สึกว่า พวกเธอต้องทำงานบ้านมากมากกว่า สามี แม้ว่าพวกเขาจะเป็น แม่ที่เลี้ยงลูกอยู่บ้าน หรือ แม่ที่ทำงานประจำด้วยก็ตาม
ถ้าผู้ปกครองทั้งสองคนแบ่งเวลามาให้ลูกบ้าง ก็คจะดีกว่านี้ เพราะนอกจากว่า คุณจะได้มีเวลาร่วมกัน เพื่อศึกษากันและกัน ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เพื่อพัฒนาสถาบันครอบครัว จะดีกว่าการที่ให้ ใครคนนึงต้องทำงานหนักกว่า
เมื่อภรรยาเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านคนเดียว
หากภรรยาของคุณเป็นแม่บ้าน แน่นอนว่าเธอต้องง่วนอยู่กับการดูแลลูกและงานบ้านทั้งวัน และมนุษย์คนเดียวที่พอจะรับฟังเธอได้ก็คือคุณผู้ชายนี่แหละ จริงอยู่ว่าคุณออกไปทำงานข้างนอกทั้งวัน พอกลับบ้านก็อยากพักผ่อน แต่อย่างน้อยอย่าลืมถามเธอครับว่าที่บ้านเป็นยังไงบ้าง หรือหากภรรยาของคุณทำงานนอกบ้าน เมื่อกลับมาที่บ้านอย่าลืมถามว่าที่ทำงานเป็นยังไง คำถามง่ายๆ นี้ แสดงถึงความห่วงใยใส่ใจกันและกัน และใช้เวลาไม่นานเลย คราวหน้า เมื่อคุณกลับบ้านมาเจอหน้าภรรยา
เมื่อภรรยามีความสุข
เมื่อภรรยามีความสุข เธอก็อยากจะเล่าให้คุณฟัง เหมือนกับที่เธออยากบ่นเมื่อเธอไม่พอใจ คุณควรถามเธอว่าเป็นอย่างไรทุกวัน หากเธอเริ่มเล่าว่าเธอมีความสุข ก็เปิดโอกาสให้เธอเล่า โอ้อวดเต็มที่เลยครับ และแสดงออกว่าคุณก็ยินดีกับเธอ บางทีอาจจะคุยเพลินไปเลยละ
เมื่อคุณจะเข้านอน
ก่อนนอน คุณควรคุยกับภรรยา บางทีอาจมีบางเรื่องที่ภรรยาคุณไม่สามารถเล่าได้ระหว่างวัน หรือหากไม่มีเรื่องจะเล่า ก็ลองถามเรื่องพรุ่งนี้หรืออาทิตย์นี้ว่ามีอะไรสำคัญต้องทำบ้าง ก็จะช่วยให้คุณรู้ชีวิตของกันและกัน และช่วยกันวางแผนหรือตัดสินใจร่วมกัน หรือบางทีคุณอาจชวนคุยเรื่องหนังที่เพิ่งเข้าใหม่ และชวนเธอไปดูด้วยกัน ก็จะช่วยให้ความสัมพันธ์คุณแนบแน่นมากยิ่งขึ้น
ลูกช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านดีอย่างไร
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ทำการศึกษาวิจัยระยะยาว เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1938 ถึงปัจจุบัน ซึ่งได้ระบุว่า 2 สิ่งที่มนุษย์จำเป็นต้องมีเพื่อช่วยให้ชีวิตมีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิตได้ คือ ความรัก และการมีจริยธรรมในการทำงาน
*จากการศึกษาพบว่า ความสำเร็จของลูกนั้นเริ่มต้นง่าย ๆ จากการช่วยทำงานบ้านในช่วงวัยเด็ก ยิ่งให้ลูกเริ่มต้นเร็ว ยิ่งเรียนรู้ได้ดีขึ้น แต่ถ้าบ้านไหนเลี้ยงลูกตามใจ คอยทำให้ลูกตลอด โดยไม่ให้เขาเริ่มทำอะไรเลย ลูกก็จะซึมซับพฤติกรรมนี้จนติดเป็นนิสัย ไม่เพียงแต่เรื่องงานบ้าน แต่อาจรวมถึงการเรียน การทำการบ้านด้วย
ดังนั้น พ่อแม่ที่อยากมองเห็นลูกประสบความสำเร็จในอนาคต จึงไม่ควรมองข้ามเรื่องการให้ลูกได้ช่วยทำงานบ้าน ค่อย ๆ ฝึกลูกจากงานง่าย ๆ ไปตามวัย เช่น
- ถูพื้นห้องนอนตัวเอง
- เก็บของเล่นให้เข้าที่
- ทิ้งขยะ
- ล้างจาน
- ล้างห้องน้ำ
ทำให้พวกเขาได้เห็นว่าการทำงานบ้านเป็นเรื่องสนุกและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันที่จะต้องทำ ไม่มีอะไรยากเกินตัวลูก ทำไปเรื่อย ๆ จนเกิดความคุ้นชิน ไม่นานลูกก็จะเกิดความเข้าใจจนทำเป็นนิสัยได้เอง
Source : romper.com
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
ผัวรักผัวหลง 9 ประเภท เซ็กส์หลังแต่งงาน สร้างสีสันให้กับชีวิตคู่ เอาใจสามี
6 สิ่งที่แม่มือใหม่ต้องการจากสามี ขอแค่นี้ได้มั๊ยพ่อ ทำให้แม่หน่อยนะ
ผัวดีชีวิตดี มีชัยไปกว่าครึ่ง สามีที่ดีควรทำตัวอย่างไร จะได้รักกันนานๆ?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
