พ่อจ๋ามีเวลาให้หนูบ้าง วิจัยเผยพ่อมีเวลากับลูกไม่พอ ต้องเป็นเวลาที่มีค่าด้วย
ในปัจจุบันครอบครัวส่วนใหญ่ในประเทศไทย เรายังคงมักจะเห็น คุณแม่ เลี้ยงลูกอยู่บ้านคนเดียว ส่วนคุณพ่อจะออกไปทำงาน นอกจาก จะต้องทำการเลี้ยงลูก ยังอาจจะต้องทำงานบ้าน เช่น ซักผ้า รีดผ้า ทำความสะอาด ทำกับข้าว ความเครียด ความกังวล ที่มากับการเป็นแม่นั้นหนักหนามาก งานวิจัยใหม่มีข้อมูล บอกว่า พ่อจ๋ามีเวลาให้หนูบ้าง
พ่อจ๋ามีเ วลาให้หนูบ้าง
นอกจากการที่ คุณพ่อควรที่จะมีเวลาให้ลูกแล้ว คุณควรใช้เวลาที่มีค่า หรือ ที่เรียกว่า Quality Time ด้วย ไม่ใช่ Quantity ปริมาณ เพียงอย่างเดียว มีเรื่องเล่าว่าคุณพ่อคนหนึ่งเคยตัดสินใจผิด ที่ไม่ได้ใช้เวลากับลูกสาว มากเท่าที่ควร การตัดสินใจครั้งนั้น ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป และ มุมมองที่เขามีต่อการเลี้ยงลูกก็เปลี่ยนไปด้วย
เรามาดูกันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ จะบอกอะไร มีอะไรเป็นบทเรียนให้กับเขาได้บ้าง
Quality Time คืออะไร?
พ่อจ๋ามีเวลาให้ หนูบ้าง
Quality Time ถ้าแปลตรงตัว ก็คือ เวลาที่มีค่า คุณพ่อที่มาบอกเล่าเรื่องราวนั้นบอกว่า เวลาที่ผู้ปกครอง ไม่ใช่แค่คุณพ่อ แต่คุณแม่ด้วย เวลาที่ใช่อยู่กับลูก เราจะต้องทำให้เวลานั้น เป็นเวลาที่คุ้มค่าที่สุด และใช้เวลาอยู่กับเขาให้มาก เท่าที่เราจะทำได้ เวลาที่คุณอยู่กับลูก ไม่ใช่เพียงว่า กลับเข้ามาในบ้าน มาพูดคุย สอง สามคำ แล้วก็กลับเข้าไป อยู่ในโลกของตัวเอง
การพูดคุยเป็นเรื่องสำคัญ
พ่อจ๋ ามีเวลาให้หนูบ้าง
การกระชับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ มีเวลาทานข้าว มองหน้ากัน คุยกัน สร้างบทสนทนา จะทำให้คุยได่สนิทสนมกันมากขึ้น และเข้าใจเรื่องรางในชีวิตกันมากขึ้น แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ควรระวัง ก็คือ เวลาที่คุณรับฟังอะไร ไม่ว่าจะเป็นภรยยา สามี หรือ ลูก คุณจะต้องฟังอย่างเข้าใจ ไม่โจมตี หรือไม่ขัด ไม่งั้น Quality Time ของคุณจะกลายเป็น เรื่องโหดร้ายขึ้นมาทันที มันอาจจะนำมาซึ่งปัญหา ทำให้คนในครอบครัวทะเลาะกันได้
ชวนลูกไปทำการกุศล
พ่อจ๋ามีเวล าให้หนูบ้าง
คุณพ่อท่านนี้ยังแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า อีกกิจกรรมนึงที่เขากับลูกได้ทำร่วมกันแล้ว เป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดก็คือ การทำอาสาสมัคร(Volunteer) คุณอาจจะเริ่มต้นด้วยการบริจาค ของเล่น เสื้อผ้า สิ่งของที่ไม่ได้ใช้ หรือถ้าลูกโตขึ้นมา อาจจะพาเขาไป ช่วยเหลือ คนป่วย คนยากไร้ หรือ คนที่มีความผิดปกติทางร่างกายก็ได้เช่นกัน
กิจกรรมเหล่านี้จะ สอนให้ลูก เป็นคนโอบอ้อมอารี มีใจเอื้อเฟื้อ เขาจะรู้จักแบ่งปัน และ เข้าใจได้จริงๆว่า การทำความดี มันส่งผลดีต่อผู้รับอย่างไรได้บ้าง
งานไม่ใชสิ่งเดียวในชีวิต
พ่อจ๋ามีเวลา ให้หนูบ้าง
แม้ว่าในประเทศไทยจะไม่ได้มีคนเป็นโรคติดงานหรือ Workaholic แบบประเทศอื่นๆในเอเชีย อย่างประเทศญี่ปุ่น แต่ก็มีคุณพ่อหลายคน ที่อาจจะทำงานจนไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับลูก เมื่อกลับมาบ้านแล้วความเหนื่อยล้า อาจจะทำให้อยากจะไปทพอย่างอื่น เช่น เล่นโทรศัพท์ หรือ ดูทีวี
แต่เราอยากจะบอกว่า คุณมีเวลาอยู่กับลูกได้ไม่นาน เท่าที่เราคิด เวลาที่ลูกจะอยู่กับพ่อ แม่ มากที่สุด ก็จะเป็นตอนที่เขา ยังเป็นเด็กเล็กอยู่ เมื่อลูกโตเป็น วัยรุ่น หรือ ผู้ใหญ่ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะตีตัวออกห่างไป นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่เป็นธรรมชาติ
สิ่งที่ผู้ปกครองทำได้ก็คือ สร้างความทรงจำ และ สร้างความสัมพันธ์ ที่ดีกับลูกไว้ เพราะมันจะทำให้ลูก รู้สึกดีกับที่บ้าน ยังคงความสนิทสนม และ ความเอาใจใส่ ซึ่งกันและกันไว้ได้อยู่
เป็นผู้ฟังที่ดี
เมื่อลูกยังเด็กมากอยู่นั้น การสั่งคำสั่งลูกโดยตรง เช่น ห้ามเดิน ห้ามวิ่ง ห้ามจับ เป็นเรื่องที่จำเป็นเพราะ เด็กอาจจะไม่เข้าใจการอธิบายอะไรที่ซับซ้อนเกินไป แต่เมื่อลูกสาว โตขึ้น มีอายุมากขึ้น และ เข้าใจโลกรอบตัวมากขึ้น หน้าที่ของพ่อจะต้องเปลี่ยนตามไปด้วย Dr. Bubrick คุณหมอผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า แทนที่พ่อจะเป็นตัดสินใจ ให้ลูกสาว หน้าที่ที่พ่อควรทำก็คือ เป็น Guide แนะนำลูกสาวแทน
มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่พ่ออยากจะให้ ลูกสาวปลอดภัย แต่เมื่อลูกสาวโตขึ้น คุณพ่อไม่สามารถที่จะพูดกับลูกตรงเกินไปได้ เพราะมันอาจจะนำมือซึ่งความขัดแย้ง ซึ่งอาจจะบานปลายไปได้ คุณควรจะทำให้ลูกสาว รู้สึกปลอดภัย เวลามาปรึกษาคุณ
แสดงออกว่ารักลูก
พ่อ หรือ แม่คนไทย หลายคนมักจะชอบมีอาการ รักนะ แต่ไม่แสดงออก ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่โอเคในอดีต แต่ในปัจจุบันถ้า พ่อ แม่ ออกมาบอกรักลูกบ้าง ก็จะทำให้ ครอบครัว สนิทสนมกัน มีความแน่นแฟ้นต่อกันมากขึ้นได้
Source : epm
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
พ่อเป็นโรคซึมเศร้าเลี้ยงลูก พ่อเป็นโรคซึมเศร้าพยายามที่สุดจะเลี้ยงลูกให้ดี
คุณพ่อหุ่นหมี อบอุ่น ใจดี ดีต่อใจ วิจัยเผยผู้หญิงชอบผู้ชายหุ่นหมีมากกว่า
5 สิ่งที่พ่อแม่ควรมี ถ้าอยากให้ลูกประสบความสำเร็จกัน ลองเช็คดู
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!