TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

เช็คอาการ เด็ก LD โรคการเรียนรู้บกพร่อง ต้นเหตุลูกเรียนรู้ช้า รักษาด่วน!

บทความ 5 นาที
เช็คอาการ เด็ก LD โรคการเรียนรู้บกพร่อง ต้นเหตุลูกเรียนรู้ช้า รักษาด่วน!

คุณพ่อคุณแม่รู้หรือไม่คะ ปัจจุบันนี้เด็กไทยจำนวนมากกำลังเผชิญกับปัญหา “Learning Disorder” หรือที่เรียกกันว่าความบกพร่องทางการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อทักษะการอ่าน การเขียน การคำนวณ และพฤติกรรม แต่น่าเศร้าที่เด็ก LD หลายคนไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที หนึ่งในสาเหตุหลักนั้นมาจากผู้ปกครองไม่มีเวลาหรือติดงาน สุดท้ายปัญหานี้กลับส่งผลร้ายแรงต่ออนาคตของเด็ก ทำให้ เด็ก LD ที่ไม่ได้รับการช่วยเหลืออาจสูญเสียความมั่นใจ เกิดปัญหาทางอารมณ์ และเรียนรู้ได้ยากขึ้น

Learning Disorder คืออะไร

Learning Disorder หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า โรค LD คือ เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ แต่มีปัญหาในการเรียนรู้เฉพาะด้าน โดย เด็ก LD สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท

 

1) ความบกพร่องด้านการอ่าน

ความบกพร่องด้านการอ่านเป็นประเภทที่พบได้มากที่สุดของเด็ก LD ทั้งหมด เด็กประเภทนี้จะมีความบกพร่องในการจดจำ พยัญชนะ สระ และขาดทักษะในการสะกดคำ ทำให้อ่านหนังสือไม่ออกหรืออ่านช้า อ่านออกเสียงไม่ชัด ผันเสียงวรรณยุกต์ไม่ได้ อ่านข้าม อ่านเพิ่มคำ หรือจับใจความเรื่องที่อ่านไม่ได้ ทำให้มีทักษะความสามารถในการอ่านหนังสือต่ำกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

 

2) ความบกพร่องด้านการเขียนสะกดคำ

ความบกพร่องด้านนี้ส่วนใหญ่จะมาร่วมกับความบกพร่องด้านการอ่าน ซึ่งเด็กประเภทนี้จะมีความบกพร่องในการเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ไม่ถูกต้อง เรียงลำดับอักษรผิด จึงเขียนหนังสือและสะกดคำผิด ทำให้เด็กกลุ่มนี้จึงมีความสามารถในการเขียนสะกดคำต่ำกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

 

3) ความบกพร่องด้านคณิตศาสตร์

ความบกพร่องด้านทักษะและความเข้าใจค่าของตัวเลข การนับจำนวน การจำสูตรคูณ การใช้สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ ทำให้ไม่สามารถคำนวณการบวก ลบ คูณ หาร ตามกฎเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ได้ จึงทำให้เด็กกลุ่มนี้มีความสามารถด้านการคำนวนเลขต่ำกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

 

เด็ก LD

 

ทั้งนี้เด็ก LD แต่ละประเภทอาจมีอาการร่วมกัน หรืออาจพบเพียงประเภทเดียวก็ได้ ซึ่งหมายความว่าเด็กจะมีความฉลาดมากกว่าปกติ แต่มีพฤติกรรมไม่สนใจ ไม่มีสมาธิในการเรียน ทำงานช้า ไม่เสร็จ ซึ่งในเด็กไทยสามารถพบได้ร้อยละ 6-10 ของเด็กวัยเรียน

 

Learning Disorders ส่งผลกระทบยังไง

จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า เด็ก LD มักจะมี ความสามารถในการเรียนรู้ต่ำกว่า เพื่อนนักเรียนในชั้นเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลต่อ ผลการเรียน อย่างต่อเนื่อง

 

เด็ก LD

 

ที่สำคัญเด็ก LD ในบางรายอาจมี ปัญหาทางจิตเวช ร่วมด้วยถึงร้อยละ 40-50 เช่น

  • โรคสมาธิสั้น โดยที่เด็กจะหุนหันพลันแล่น ควบคุมอารมณ์ได้ยาก
  • มีความบกพร่องด้านภาษาและการสื่อสาร ทำให้พูดช้า พูดไม่ชัด หรือเข้าใจภาษาได้ยาก
  • มีปัญหาในการประสานงานระหว่างกล้ามเนื้อมือและสายตา ทำให้เด็กเขียนหนังสือไม่สวย หรือทำงานประณีตได้ยาก

ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ส่งผลต่อ การเรียนรู้ พัฒนาการ และความมั่นใจ ของเด็ก LD เป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ รศ.นพ.มนัท สูงประสิทธิ์ จิตแพทย์เด็ก จากโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านจิตเวช BMHH หรือ Bangkok Mental Health Hospital ยังได้เผยอีกว่า สิ่งที่น่ากังวลสำหรับสถานการณ์ในประเทศไทยคือเด็ก LD ได้เข้ารับการรักษาและการช่วยเหลือของโรงพยาบาลเป็นจำนวนน้อยมาก เนื่องจากว่าผู้ปกครองบางคนต้องไปทำงาน ทำให้ไม่มีเวลาพาลูกเข้ารับการรักษา หรือบางคนอาจมองว่าภาวะนี้ไม่ได้หนักหนาสาหัสหรือเป็นอะไรมาก จึงปล่อยไปในที่สุด ทั้ง ๆ ที่เด็ก LD หลายคนมีความเป็นอัจฉริยะอยู่ในตัวเอง และนับได้ว่าเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพในอนาคต ถ้าหากได้รับการพัฒนาที่ดีและตรงจุดอย่างเหมาะสม

บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกเป็นโรคแอลดี LD คือ ? รักษาได้หรือไม่ ทำยังไงดีเมื่อลูกเป็นเด็ก LD

 

วิธีแก้ปัญหาในการช่วยเหลือ เด็ก LD

ทางด้าน รศ.นพ.มนัท ได้กล่าวว่า วิธีการที่แก้ปัญหานี้ คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มจากการเปิดใจ การที่ลูกเป็นโรคนี้  ไม่ได้หมายความว่าลูกเป็นเด็กที่เกเรหรือขี้เกียจ แต่หมายความว่าลูกต้องการความช่วยเหลือ การหลบเลี่ยงเป็นผลที่ปลายเหตุโดยกระบวนการรักษาจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย 

 

การช่วยเหลือจากโรงเรียน

1) โรงเรียนควรจัดทำแผนการเรียนสำหรับรายบุคคลเพื่อให้สอดคล้องกับระดับความบกพร่องของเด็ก แต่ละด้าน โดยทำความเข้าใจถึงปัญหาและความบกพร่องของเด็กให้ถี่ถ้วน

2) ช่วยเสริมทักษะที่บกพร่อง เช่น การสะกดคำ อ่าน เขียน อาจสอนเป็นกลุ่มย่อยหรือตัวต่อครั้งละ 30-45 นาที สัปดาห์ละ 4-5 วัน

3) ช่วยอ่านบทเรียนให้ฟัง เพื่อให้เด็กสามารถเข้าถึงเนื้อหา ความรู้ ได้เร็วขึ้น

4) ให้เวลาในการทำข้อสอบเพิ่มขึ้น เพื่อให้เด็กได้มีเวลาเพียงพอในการ อ่านโจทย์ และเขียนตอบ จะช่วยตอบโจทย์ให้เด็กเรียนได้ดีขึ้น

บทความจากพันธมิตร
โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 แนวคิดใหม่ ของการดูแลสุขภาพของทุกครอบครัว
โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 แนวคิดใหม่ ของการดูแลสุขภาพของทุกครอบครัว
Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่
Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่
Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
Godmami กันแดดก้อนเมฆ คว้าชัย!  ครีมกันแดดเด็กดาวรุ่ง 'Most Promising' แห่งปี จาก theAsianparent Awards 2025
Godmami กันแดดก้อนเมฆ คว้าชัย! ครีมกันแดดเด็กดาวรุ่ง 'Most Promising' แห่งปี จาก theAsianparent Awards 2025

5) ส่งเสริมทักษะด้านอื่น ๆ เช่น ดนตรี กีฬา ศิลปะ เพื่อให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง

 

การช่วยเหลือจากครอบครัว

1) อธิบายให้สมาชิกครอบครัวคนอื่น ๆ และตัวเด็กเอง ทราบถึงปัญหาและความบกพร่องเฉพาะด้านของเด็ก รวมทั้งความรู้สึกของเด็กที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ

2) เปลี่ยนพฤติกรรมจากการตำหนิ ลงโทษ เป็นความเข้าใจ และสนับสนุนในการส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของเด็ก

3) ชื่นชมเมื่อลูกน้อยทำสำเร็จแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม เพื่อให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง

หากตัวเด็กได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ และถูกวิธี ก็จะทำให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นและสามารถหายได้แต่ต้องอาศัยความรักและความเข้าใจ รวมไปถึงการให้กำลังใจอีกด้วย

 

โดยสรุปแล้ว เด็ก LD ในไทยนั้นมีจำนวนมาก แต่กลับเข้าถึงการรักษาได้น้อย ส่งผลต่อการเรียนรู้และอนาคต หากพ่อแม่ ครู และสังคม ช่วยกันร่วมมือกัน สร้างความเข้าใจ สนับสนุน และ ส่งเสริมปัญหานี้ ให้เด็ก LD ได้ สิ่งเหล่านี้ก็จะไปช่วยปลดล็อกศักยภาพของเด็ก ๆ ให้เติบโตไปสู่ อนาคตที่สดใสได้ค่ะ

ที่มา : bangkokbiznews.com, samitivejhospitals.com

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

โรคสมาธิสั้นคืออะไร? มาทำความรู้จักกับโรค ADHD โรคที่ซับซ้อนกว่าที่คุณคิด

เด็กสายตาสั้น ต้องระวัง! อาจเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว

อย่าปล่อยให้ลูกของคุณตกเป็นเหยื่อ: แนวทางป้องกันเด็กถูก คุกคามทางเพศ ออนไลน์

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

samita

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • เช็คอาการ เด็ก LD โรคการเรียนรู้บกพร่อง ต้นเหตุลูกเรียนรู้ช้า รักษาด่วน!
แชร์ :
  • โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 แนวคิดใหม่ ของการดูแลสุขภาพของทุกครอบครัว
    บทความจากพันธมิตร

    โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 แนวคิดใหม่ ของการดูแลสุขภาพของทุกครอบครัว

  • Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่
    บทความจากพันธมิตร

    Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่

  • Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
    บทความจากพันธมิตร

    Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์

  • โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 แนวคิดใหม่ ของการดูแลสุขภาพของทุกครอบครัว
    บทความจากพันธมิตร

    โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 แนวคิดใหม่ ของการดูแลสุขภาพของทุกครอบครัว

  • Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่
    บทความจากพันธมิตร

    Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่

  • Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
    บทความจากพันธมิตร

    Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว